นับเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่รู้สึกสนุกทุกครั้ง เวลาได้เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งเติบโตขึ้นในทุก ๆ ปี
ไม่เพียงแค่อายุที่โตขึ้น หรือหน้าตารูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป จากเด็กหญิง กลายเป็นนางสาวเต็มตัว

ใช่ครับ...ผมกำลังพูดถึงสาวน้อยร้อยล้านวิว หรือสาวน้อยมหัศจรรย์ที่สื่อมักจะเรียกเธอแบบนั้น "พลอยชมพู" aka "Jannine Weigel" นั่นเอง

ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่น้องมีผลงานเพลงไทย เป็นศิลปินไทย เป็นที่น่าเสียดายว่า เพลงสากลที่น้องมีผลงานตลอดมา จะเป็นเพลงอินดี้ที่น้องทำเอง จัดจำหน่ายเอง ไม่ได้มีผู้ใหญ่ใจดีหรือค่ายเพลงใหญ่สนับสนุนเงินทุนหรืองบในการโปรโมตทำโฆษณาเลย
แต่ละเพลง แต่ละอัลบั้มที่ปล่อยออกมา เหมือนเป็นโลกคู่ขนานที่คนส่วนใหญ่ มักจะรู้จักน้องพลอยชมพู กับเพลง "ปลิว" ที่มีวลีติดปาก "อยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำ" 
สิ่งนั้นเองที่ทำให้คนมักจะไม่ค่อยได้เห็นกระจกสะท้อนอีกด้านของพลอยชมพู ในด้านที่ชื่อ "Jannine Weigel"

ผมสนุกทุกครั้งที่ได้อยู่ในโลกคู่ขนานใบนี้ โลกที่ได้เห็นอีกตัวตนของน้องพลอยชมพู ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง มีความอินดี้ มีการแปลงร่างเป็นหลากหลายบุคลิก ที่สอดคล้องกับเนื้อหาของเพลงนั้น ๆ เช่นลุคหนูน้อยหมวกแดง ลุคเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า หรือลุคสาวน้อยติดเกาะ
มันมีความแฟนตาซี มีความท้าทาย และมีการ "เติบโต" ทุกครั้งในโลกคู่ขนานใบนี้

จนกระทั่งวันหนึ่ง น้องพลอยชมพูได้ทำให้ทุกคนใจหาย กับข่าวที่เธอจะเดินทางไปเยอรมัน ที่ทุกสื่อสำนักข่าวทำให้ทุกคนหลงคิดไปว่า น้องคงหันหลังให้วงการบันเทิงไม่กลับมาอีกแล้ว...
ตอนนั้นบอกตามตรงว่า รู้สึกใจหายเหมือนกัน ที่เด็กคนนี้ สาวน้อยคนนี้ถ้าได้รับการผลักดัน ได้รับโอกาสที่ดี เธอสามารถก้าวไปข้างหน้า ก้าวข้ามความสำเร็จเดิม ๆ ที่เคยทำไว้ได้ประมาณนึงแน่นอนจากจุดที่เคยพีคมาก ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง

มาวันนี้...สาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ ประกาศคัมแบ็คอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวในฐานะศิลปินเบอร์แรกของค่าย RedRecords หลายคนน่าจะยังไม่รู้จัก เพราะเป็นค่ายเพลงใหม่ที่ร่วมมือกันระหว่างสายการบิน Air Asia และ Universal Music Group (UMG) ที่สำคัญค่ายนี้ ยังได้ร่วมมือกับค่าย Def Jam ที่อเมริกาอีกด้วย!
คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า นี่คือก้าวแรกที่สำคัญมาก ๆ ที่น้องพลอยชมพู ได้รับโอกาสที่จะเป็นศิลปินระดับโลกเต็มตัวจริง ๆ



ยิ่งได้รู้ว่า ค่ายนี้พร้อมเปิดตัวซิงเกิลแรก "Passcode" ที่ได้โปรดิวเซอร์มือทองอย่าง Tommy Brown ที่ล่าสุดสร้างสรรค์เพลงสากลที่เป็นปรากฏการณ์อย่าง "Ice Cream" ของ Blackpink & Selena Gomez ก็ย่อมมีความคาดหวังพอสมควร
วัตถุดิบที่ได้รับการปรุงแต่งจากเชฟมือดีในร้านอาหารระดับสากล จะรังสรรค์อาหารเมนูที่ชื่อว่า "Passcode" ได้น่าสนใจแค่ไหน บอกตามตรงว่าคาดเดาไม่ถูกจริง ๆ
จนเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา เห็นว่าเพลง "Passcode" นี้ได้ปล่อยให้ทั่วโลกสตรีมมิ่งได้แล้ว จึงลองโหลดมาฟังผ่าน Spotify และ iTunes (19 บาท) เพื่อเสพผลงานนี้ให้หายคิดถึง หลังจากที่น้องหายไปเป็นปีเลยทีเดียว...

- แนะนำให้สนับสนุนฟังของลิขสิทธิ์แท้กันนะครับ เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดผ่านหูฟังของคุณ
- ผมฟังผ่าน Airpods รู้สึกได้ถึงเบสที่แน่น ซาวด์มีกลิ่นอายเพลงป๊อปตะวันตกย้อนยุคดิสโก้นิด ๆ ที่มีเสน่ห์ ฟังง่าย จังหวะโยกไปตามเพลงเพลิน ๆ
- เสียงร้องของน้องพลอยชมพู ยังเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม เสียงโทนที่เหมาะกับช่องเสียงน้องพอดี ไม่แหลมหรือแผดเกินไป รู้สึกได้ว่ามิกซ์มาดีมาก
- บาลานซ์ระหว่างซาวด์ดนตรี กับเสียงร้องค่อนข้างไปด้วยกันพอดี ไม่มีความรู้สึกว่าเสียงร้องเบา หรือโดดเกินไป
- เนื้อหาเพลงก็สมวัยเข้ากับตัวตนของน้องดี ไม่ดูโตแรงเกินไปหรือแบ๊วหวานเกินไป มีท่อนฮุคที่ติดหูประมาณนึง น่าจะร้องตามกันได้ไม่ยาก
- Music Video งานดีดูอินเตอร์ตามมาตรฐานสากลเลย 



- รู้สึกได้ถึงความตั้งใจ ความพยายามที่น้องพลอยชมพูและทีมงาน ถ่ายทอดลงมาในเพลงนี้ ไม่ว่าจะด้วยการโปรโมต หรือทั้งภาพและเสียง ที่ไม่ใช่งานสุกเอาเผากินแน่นอน...

ดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นเด็กน้อยคนนี้ เติบโตเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ของยุคนี้ที่เต็มไปด้วย ความหลากหลายทางด้านแนวเพลง แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง ยังมีกลิ่นอายของโลกคู่ขนานที่ชื่อ Jannine Weigel เหมือนที่ผ่านมา
สุดท้ายนี้ถึงแม้จะพรรณนาสรรพคุณข้อดีของ "Passcode" นี้มาร้อยแปดพันเก้า หากคนฟังไม่เข้าใจในสารที่สื่อออกมาผ่านบทเพลงนี้ อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีความเชื่อว่า คนฟังน่าจะขยับขาเบา ๆ หรือโยกไปตามเพลงนี้ได้อย่างง่ายดาย...

ขอเพียงแค่คุณลอง "เปิดใจ" และลบอคติที่เคยมีกับเด็กที่ชื่อ "พลอยชมพู" คนนี้
วันนี้เธอพร้อมพิสูจน์ตัวเองแล้ว กับโลกคู่ขนานของเธอที่พร้อมเปิดรับทุกคนเข้ามาร่วมสนุกกับเธอที่ชื่อ "Jannine Weigel"
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย ที่มาไกลถึงระดับโลก เป็นก้าวแรกที่น่าจับตามองไปจนสุดทางจริง ๆ

แล้วคุณล่ะ? พร้อมที่จะปลดล็อค PASSCODE ในใจคุณหรือยัง?