สวัสดีทุกคนเลยนะคะ
บอกก่อนเลยว่าออยยังไม่เคยลองสกินแคร์ของแบรนด์นี้นะคะ ซึ่งจริงๆ ออยเองคือสนใจและอ่านรีวิวหลายๆ ตัวของแบรนด์มาพอสมควรเหมือนกัน
น่าใช้ทุกตัวมากๆ แต่ที่ชอบคือตัวเอสเซ้นต์นี่แหละค่ะ ตอบโจทย์ผิวได้ดีที่สุดเลย
หลังจากที่ลองใช้มาแล้ววันนี้เลยจะมารีวิวว่าใช้มาผลที่ได้เป็นยังไงบ้าง
คุ้มที่จะซื้อไหมสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากจะลองเจ้าน้ำตบ SK-II ตัวนี้ค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับน้ำตบพิเทร่า™ ตัวนี้กันนิดนึงนะคะ
จากการค้นพบมากกว่า 39 ปี ในประเทศญี่ปุน พิเทร่า™ คือส่วนประกอบชีวภาพทางธรรมชาติจากยีสต์สายพันธุ์พิเศษซึ่งเฉพาะของแบรนด์
SK-II เท่านั้น โดยเรื่องราวเริ่มจากการสังเกตคนบ่มสาเกสูงวัยที่หน้าตาเหี่ยวย่นแต่กลับมีมือนุ่มนิ่ม เต่งตึงและอ่อนเยาว์ จนค้นพบว่า สาเหตุที่ทำให้มือของบรรดาคนบ่มนั้นเต่งตึงอ่อนเยาว์ เพราะพวกเขาต้องแช่มือในน้าสาเกเป็นประจำนั่นเองค่ะ
ใน Facial Treatment Essence ตัวนี้จะประกอบด้วยพิเทร่า™ ที่เข้มข้นกว่า 90%
และอุดมไปด้วยอนุภาคอาหารผิวกว่า 50 ชนิดซึ่งรวมถึงคุณค่าจากวิตามิน กรดอะมิโน แร่ธาตุ กรดอินทรีย์ และอีกมากมาย
ที่จะช่วยปรับสภาพของเราให้ผิวทำงานอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมดูแลให้ผิวยังคงสวยกระจ่างใส และเสริมพลังเพื่อผิวเรียบเนียน ดูกระชับ
ในส่วนของ Texture นั้น จะเป็นน้ำตบสีใส เนื้อสัมผัส บางเบา ลงผิวแล้วไม่เหนียวเหนอะเหมือนใช้น้ำเปล่าเลย
อันนี้ออยชอบมาก แต่เรื่องกลิ่นขอเว้นไว้นิดนึง คิดว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไรซึ่งออยก็เป็น 1 ในนั้นเหมือนกันค่ะ
วิธีการใช้น้ำตบ SK-II Facial Treatment Essence คือง่ายมากเพียงแค่หยดเอสเซ้นส์ลงบนฝ่ามือก่อนประมาณ 3 หยด
หรือตามปริมาณที่เหมาะสมจากนั้นก็กดฝ่ามือลงเข้าหากันเล็กน้อยแล้วกดน้ำตบลงบนหน้าโดยใช้วิธีตบเบาๆ
หรืออีกวิธีที่แบรนด์แนะนำมาก็คือหยดลงบนสำลีพอประมาณ นำมาแตะหรือลูบเบาๆทั้งผิวหน้าและคอประมาณ 1 นาทีจนกว่าเอสเซ้นส์จะซึมเข้าผิว
ส่วนตัวออยใช้ 2 วิธีนี้สลับกันค่ะ หยดบนสำลีอาจจะใช้ปริมาณเยอะหน่อยแต่ถามว่ามันเปลืองมั๊ยตอบเลยว่าไม่
เพราะบางทีเราเทใส่มือมันมีหกอยู่แล้วเผลอๆ อาจจะเปลือกว่าเทใส่สำลีด้วยซ้ำ!
แนะนำอีกอย่างจากการที่ใช้มาหลังลูบเบาๆ อาจจะแปะทิ้งไว้สักพักนึงเป็นการมาส์กไปในตัวให้เอสเซ้นส์ซึมเข้าผิวของเราได้ดีขึ้นค่ะ
ผลลัพธ์จากที่ลองใช้มาค้นพบแล้วว่าเป็นน้ำตบพิเทร่าตัวนี้ที่ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเลย คนหน้ามันก็รอดจ้า
จะเห็นได้เลยจากรูปว่าหลังลงน้ำตบไปสักพักผิวมีความชุ่มชื่น ไม่มีความหนักหน้าหรือทำให้ผิวมันแต่อย่างใด
อันนี้คือปลื้มมาก สามารถลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้แบบไม่มีปัญหาค่ะ และจากที่ลองมาเรื่อยๆ ผิวก็ดูเด้งและใสขึ้นนะคะ
พวกรอยก็เริ่มจางลงด้วย อันนี้ดีงามสุด ส่วนเรื่องความไบรท์ยังไม่เห็นผลเท่าไรคิดว่าอาจะต้องใช้เวลาในการใช้นานกว่านี้อีกสักหน่อย
และอีกเรื่องคือออยใช้แล้วไม่แพ้นะคะ มีหลายคนที่กลัวเรื่องนี้หรือมีความกังวลจริงๆ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ไปลองเทสที่เคาร์เตอร์
SK-II ก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อความชัวร์ ส่วนทางด้านผลลัพธ์ที่ชัดเจน อยากให้ลองไปเช็คที่เคาร์เตอร์เหมือนกันค่ะ เพราะจะมีเครื่องเช็คสภาพผิว
หรือที่เรียกว่า เมจิก ริงก์ (Magic Ring) ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ว่าผิวเป็นยังไงบ้าง
โดยรวมแล้วหลังจากที่ลองใช้มาถือว่าดีมากๆ ราคาอาจจะแรงไปซะหน่อยแต่ควรค่าแก่การลงทุนนะคะ
ขวดนึงก็ใช้ได้นานหลายเดือนเหมือนกัน เหมาะกับคนที่อยากได้สกินแคร์บำรุงผิวแบบตัวเดียวจบ เชื่อว่ามีขวดแรกต้องต่อขวดที่สองแน่นอน หรือใครที่แต่งหน้าแล้วไม่ค่อยติดแบบออยตัวนี้ก็ช่วยได้เยอะเพราะนอกจากบำรุงให้ผิวใสและเนียนขึ้นแล้วยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นเหมือนกันนะคะ เริ่ดมากกก ติดอยู่นิดเดียวคือเรื่องกลิ่นจริงๆ 555
ส่วนเรื่องราคา SK-II Facial Treatment Essence
ขนาด 160 ml , 5,700 บาท และขนาด 230 ml 7,400 บาท
[SR] รีวิว SK-II Facial Treatment Essence กับผลหลังใช้มา 1 สัปดาห์
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้