สำหรับผมเองนะครับ

ภาคสอง : ยกให้เป็นอันดับ 1 ของความพีคสุดๆของหนังไตรภาคชุดนี้ หลายคนคงให้ภาคนี้สนุกที่สุดเช่นเดียวกับผม คือ หนังชุดนี้ตัวผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ทำออกมาดีทั้งสามภาค แต่ภาคสองมันพีคตรงได้นักแสดงยอดฝีมืออย่าง อีธ เลดเจอร์ มาแสดงในบทบาทโจ๊กเกอร์ด้วย ผมว่าหนังภาคนี้ตัวร้ายอย่างโจ๊กเกอร์มีบทที่เด่นมากๆ แย่งซีนพระเอกไปเลยเต็มๆ คือ โผล่มากี่ฉากก็แสดงอารมณ์ได้สุดยอดมาก บ้า โหด จิต แถมหนังภาคนี้เนื้อหามันเสียดสีเรื่องสังคมดีด้วยครับ เล่นกับความรู้สึกของคน การหักเหลี่ยม เชือนคม การคอรัปชั่น คนดีสามารถผันตัวเป็นคนเลวได้ไม่ยากถ้าถูกกระตุ้นจากด้านมืดภายในจิตใจ คนเลวไม่ได้ต้องการเงินแค่ต้องการปั่นป่วนผู้คนภายในเมืองให้แตกตื่นเพื่อความสนุก

 ผมว่าหนังภาคนี้มันได้รับอิทธิพลมาจากหนังเรื่อง Heat มาโดยเต็มๆ ซึ่งเป็นหนังโปรดของโนแลน คือ ตัวหนังมาธีมคล้ายกัน ทั้งฉากการบุกปล้นธนาคาร มีเรื่องของอาชญากรรม และดราม่าที่หนักหน่วงเข้ามา ตัวละครแต่ละตัวมีเหตุผลในการกระทำสิ่งต่างๆตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เรื่องนี้ฉากแอ็คชั่นการต่อสู้มือเปล่าของแบทแมนจะดูไม่ดีนัก แต่ฉากการไล่ล่าด้วยรถยนต์ช่วงกลางเรื่องถือว่าออกแบบฉากนี้ได้สนุกลุ้นระทึกเร้าใจมากครับ เป็นหนึ่งในฉากการไล่ล่ารถในหนังที่ผมชอบมากที่สุด แอบเสียดายตรงช่วงท้ายเรื่องฉากแบทแมนสู้กับโจ๊กเกอร์สั้นไปหน่อย ถ้าสู้กันนานกว่านี้คงจะเร้าใจกว่านี้ 

 ฉากในห้องไต่สวนที่แบทแมนมาสอบปากคำเค้นความจริงจากโจ๊กเกอร์ เป็นหนึ่งในซีนที่ผมว่าทำได้ดูกดดันตึงเครียดมากๆ ด้วยเพลงประกอบที่เร้ามา บทสนทนาที่จริงจังและการแสดงของนักแสดง ถือว่าเป็นฉากที่ผมชอบมากๆในหนังเรื่องนี้เลยครับ 

  ปล. ผมชอบหนังแนวดราม่า แอ็คชั่น โทนเรื่องแบบนี้นะ เสียดสีสังคม ตีแผ่ด้านมืดของคน มีตัวร้ายที่ฉลาดบ้าบิ่นแบบโจ๊กเกอร์ คือ ใช้สมองวางแผนมากกว่าออกมาบู๊กับพระเอก หนังเรื่องนี้มันดาร์กสมชื่อเรื่องเลยจริงๆ เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีเนื้อหามืดหม่นที่สึดเท่าที่ผมเคยดูมาเลยครับ ชอบๆ