โดยปกติความสะอาดในช่องปากเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญมาก ๆ อยู่แล้ว เพราะกลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะมนุษย์ดัดฟันที่ต้องอาศัยการดูแลเป็นพิเศษแล้วนั้น ยิ่งต้องพิถีพิถันมากกว่าคนปกติ ไล่มาตั้งแต่แปรงสีฟัน ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน น้ำยาบ้วนปาก ไปจนถึงยาสีฟัน แต่กระทู้นี้เราจะไม่พูดถึง 4 อย่างแรกนะ เพราะส่วนตัวคิดว่ามันก็แล้วแต่คลินิคที่แต่ละคนไปจัดฟันเค้ามีให้อยู่แล้ว เลยจะขอพูดถึงแค่ตัวยาสีฟันที่สามารถเลือกสรรเองได้ตามแต่สะดวกแทนละกัน
          เราเป็นคนชอบกินกาแฟมากกกก ชอบชนิดที่ว่าถ้าไม่กลัวคาเฟอีนเกินขนาดคงกินแทนน้ำเปล่าไปแล้วอะ ฮ่า ๆ ปกติก่อนจัดฟันก็ใช้ยาสีฟันที่มันช่วยเรื่องขจัดคราบชา กาแฟเป็นหลักอยู่แล้ว แต่พอมาดัดฟันเลยยิ่งต้องหายาสีฟันสำหรับคนดัดฟันและต้องมีสรรพคุณเรื่องขจัดคราบกาแฟอี๊กก ลำบากเข้าไปใหญ่ แต่หลังจากจัดฟันมาได้ครึ่งปีก็ค้นพบว่ายาสีฟันแต่ละแบบมันมีความต่างกันและให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน แม้จะบอกว่าชั้นเป็นยาสีฟันที่เกิดมาเพื่อคนจัดฟันโดยเฉพาะนะ ก็ยังรู้สึกว่าบางยี่ห้อยังไม่ตอบโจทย์ขนาดนั้น แต่ที่แน่ ๆ หลังจากทดสอบมาหลายยี่ห้อ รู้สึกว่ายาสีฟันที่ชูโรงเรื่องส่วนผสมที่เป็นสมุนไพร จะค่อนข้างเป็นมิตรต่อปากเรามากกว่า เพราะสรรพคุณทางธรรมชาติ ยังไงมันก็ไม่ทำร้ายช่องปากเราและไม่ทำให้แสบปากเหมือนพวกยาสีฟันทั่วไป 
          ที่จะรีวิวต่อไปนี้บางตัวอาจจะไม่ใช่ของคนจัดฟันโดยเฉพาะ แต่จะเน้นที่สูตรธรรมชาติละกัน เอาล่ะ ไม่ให้น้ำเยอะไปมากกว่านี้ขอเข้าเนื้อเลยละกัน กับรีวิว 4 ยาสีฟันสมุนไพรที่ดีต่อมนุษย์ฟันเหล็กเด็กแนวววว 

          จริง ๆ เค้าให้บีบแค่เมล็ดถั่วเขียวพอ แต่ทางเรามือหนักไปหน่อยและเป็นโรคจิตชอบใช้เยอะ ๆ 555 แต่หลังจากแปรงปุ๊บ โอเคเชื่อเค้าก็ได้ เพราะว่าฟองเยอะมากกกก ความชาโคลมันจะเป็นฟองสีเทา ๆ ดำ ๆ รสชาติจัดว่าดีนะ เพราะเคยใช้ยาสีฟันสมุนไพรยี่ห้ออื่นมาแล้วรสชาติแหยะมาก แต่อันนี้ค่อนข้างโอเคเลย รู้สึกได้ถึงความเข้มข้นของชาโคล 3 เท่าจากญี่ปุ่นตามที่เค้าบอก ไม่ระคายกระพุ้งแก้มแล้วก็ไม่เย็นมาก
          ส่วนตัวชอบอันนี้ตรงที่มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรา คนกินชา กาแฟ ควรใช้สูตรชาร์โคลนี่แหละเราแนะนำ มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยเรื่องฟันขาว ลดแบคทีเรีย ขจัดคราบหินปูน (ส่วนสรรพคุณชาร์โคลลองไปหาอ่านเอาดูเด้อ) และที่สำคัญคือมันทำมาเฉพาะสำหรับคนจัดฟัน ราคามันเลยอยู่ที่ 450.- ขนาด 80g.     

          แต่ถามว่าคุ้มไหม ก็ตอบว่าคุ้มนะ ถ้าใช้ตามปริมาณอย่างที่เขาบอก เพราะปริมาณที่ใช้แต่ละครั้งมันเท่าเม็ดถั่วเขียวเอง เลยน่าจะใช้ได้นานหลายเดือน แต่เราติดนิสัยชอบบีบเยอะ แต่ถ้าไม่มั่นใจคิดว่าแพงไปลองซื้อขนาดพกพาแบบซองมาลองใช้ก่อนก็ได้ ราคา 59.-  เราก็ใช้แบบซองพกไปแปรงที่ออฟฟิศหลังกินข้าวเที่ยงเหมือนกัน ยี่ห้อนี้หยิบมาจาก Eveandboy แต่เห็นวางขายหลายที่อยู่นะ
          ป.ล. อันนี้แฟนเราที่ไม่ได้ดัดฟันก็ใช้ด้วย เพราะเป็นสายกาแฟเหมือนกัน นางบอกหลัก ๆ ชอบสีดำกับชาร์โคล มันดูแมนดี 5555

         มันเป็นของนำเข้าจากเกาหลี มีส่วนผสมจากน้ำมันสนเกาหลี แถมเคลมว่าตัวเองว่าเป็นสมุนไพร 100% แต่ว่าหน้ากล่องไม่ได้เขียนว่าเป็นของคนจัดฟัน งงมะ แต่เอ้อก็เอามาลองดูเพราะมันแค่ไซส์ 20 g. 80 บาท กะว่าถ้าใช้ไม่ดีแฟนก็ยังใช้ด้วยได้ ส่วนตัวเนื้อยาสีฟันเป็นเจลสีเขียว ๆ ตอนแปรงก็รู้สึกไม่เย็นมาก ไม่มีรสชาติอะไรชัดเจน ฟองมีพอประมาณ สรรพคุณเน้นลดการก่อตัวคราบพลัค ลดคราบหินปูน ลดอาการเสียวฟัน ลดเหงือกอักเสบแล้วช่วยฟันขาว 

         โดยรวมโอเคระดับนึง ไม่แสบปาก สีน่ารักดี 555 ไว้ใช้ตอนไปออกทริปได้เพราะเป็นไซส์ขนาดพกพา แต่เอาจริงเห็น 80 บาทเหมือนถูก แต่พอเทียบขนาดแล้ว เราว่าแอบแพงแฮะ ความของนำเข้าล่ะมั้ง หาซื้อได้ที่ไหนไม่รู้ แต่ของเราซื้อที่ร้านขายยา PX ในห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

          เค้าบอกว่ามีส่วนผสมของมิ้นท์แต่ว่าตอนแปรงเราไม่ค่อยได้กลิ่นมิ้นท์เท่าไหร่นะ มีจาง ๆ แต่ให้ความรู้สึกเย็นมากกว่ายี่ห้อแรก(และเย็นสุดกว่าทุกตัว) เนื้อเป็นสีเขียวมิ้นท์ตามรูปเลย รสชาติหวานนิด ๆ เพราะเค้าใส่ไซลิทอล(สารให้ความหวานแทนน้ำตาล)เข้าไป แต่สรรพคุณฉีกดี คือมีสารต้านอนุมูลอิสระในช่องปาก มีวิตามิน C E และ B12 เพิ่มความชุ่มชื้นไม่ทำให้ปากแห้ง
          ความรู้สึกหลังแปรงเสร็จก็สดชื่นดี แต่ว่าส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบยาสีฟันที่มีรสหวานเท่าไหร่ เลยอาจจะยังไม่ถูกจริตเท่าที่ควร หาซื้อได้ตาม Drugstore ทั่วไป ขนาด 100g. ราคา 185 บาท

          กะว่าตัวเนื้อต้องเป็นสีเขียวแบบฉบับเดนทิสเต้ แต่พอบีบออกมาผิดคาดแฮะ สีออกเป็นสีไข่ไก่ น้ำตาลนิด ๆ มีสารสกัดจากใบฝรั่ง เน้นเรื่องฟันขาวและดูแลเหงือกเป็นพิเศษ ไม่ใช่สูตรเฉพาะของคนจัดฟันนะ แต่ความธรรมชาติจ๋า ก็เลยแนะนำได้ แต่เอาจริงสูตรนี้ไม่ได้อยู่ในซูเปอร์มาเก็ตทุกสาขาอะ ความรู้สึกเหมือนไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ อย่างหลอดนี้เราก็ซื้อที่ร้านขายยา ราคาอยู่ที่ 295 บาท ขนาด 100 g.  โดยรวมโอเค ไม่ค่อยผิดมาตรฐานเดนทิสเต้ กลิ่นปากไม่ค่อยมี แต่ระวังหน่อยบางคนที่บ้านเราใช้แล้วแสบปาก ปากแห้ง งงเหมือนกัน อาจจะเป็นคนละสูตรกัน ไม่ชัวร์นะจ๊ะ

          สรุปแต่ละตัว (ตามความพอใจส่วนตัว) Medent ค่อนข้างตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดื่มชา กาแฟ รสชาติจัดว่าดีกว่าสำหรับยาสีฟันสมุนไพรทั่วไป ฟองเยอะ ใช้ได้นาน YUUU ตอนแปรงรู้สึกเฉย ๆ แต่รสชาติโอเค ชอบความเจล แต่ไม่ได้ว้าวอะไรมาก Veldent ผิดหวังเล็กน้อยกับความมินท์ เพราะจางไปหน่อย รสชาติหวานไม่ค่อยชอบ แต่เย็นดี หลังแปรงรู้สึกสดชื่น Dentiste ไม่แสบปาก คงคุณภาพ คุมกลิ่นดี แต่ชอบความการันตี 100%สมุนไพร

          ทั้งหมดคือ 4 ยี่ห้อที่เราใช้เองแล้วก็คิดว่าดีต่อสุขภาพช่องปากของคนจัดฟัน มันอาจจะตอบโจทย์กันคนละแบบ แต่ถ้าใครที่มีไลฟ์สไตล์การกิน ดื่มชา กาแฟ แบบเรา ก็ลองเลือกใช้ตามได้ ทุกตัวเน้นธรรมชาติ ตัวเองใช้ไม่แสบปาก แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นปากจ้า 
          อย่าลืมขยันใช้ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟันให้ละเอียด แล้วก็บ้วนปากกันเยอะ ๆ นะ เพราะกลิ่นปากไม่ใช่ทุกคนจะกล้าเตือน ดีว่าเราคอยขยันถามแฟนตลอด เลยมีคนเช็คฟีดแบคให้แบบไม่ต้องอาย 55555