อ่านแล้วพอคุ้นๆกันใช่มั้ยคะ อันนี้ไม่ได้จะมาร้องเพลงให้ฟังนะคะแต่จะมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวให้ทุกคนได้รู้กันค่ะว่าที่จังหวัดอยุธยานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนน่าสนใจและเหมาะกับเป็นเเหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
         จุดเริ่มต้นวันนี้มาอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงค่ะ นั่งจากหัวลำโพงไปลงที่อยุธยาพวกเราไปโดยรถไฟเร็วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1.30 เท่านั้นเองงง
 
          ส่วนค่าตั่วรถไฟแค่ 20บาท ถูกม๊ากกกก คุ้มมากค่ะ อ้อพวกเราไปในวันธรรมดานะคะไม่ใช่วันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดเทศกาลอะไร คนอาจจะไม่เยอะมากค่ะ
 
          นั่งรถไฟไปๆมาๆก็ถึงอยุธยาค่ะใช้เวลาพักนึง ระหว่างทางก็มองวิวรอบๆไปแหะๆ รูปนี้เป็นบรรยากาศของสถานีรถไฟอยุธยานะคะตามที่บอกไว้ว่าไปกันวันธรรมดาไม่ติดวันหยุดใดๆค่ะคนเลยไม่เยอะมากเที่ยวสบายชิลล์ๆดีค่ะหรือเพราะยังเช้าอยู่นะ แหะๆ
          แน่นอนค่ะคุณกิตติคะเราจะพลาดไม่ได้ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆก็ถ่ายออกมาดีนั๊นคื๊อ รางรถไฟค่ะ มากับแก๊งหรือมากับแฟนก็ถ่ายได้หมดค่ะ
(เป็นรถสามล้อแดงในตัวจังหวัดอยุธยาที่สามารถจ้างลุงๆเขาให้พาไปสถานที่ต่างๆได้ แต่ไม่ทราบนะคะว่ากี่บาทเพราะเราไม่ได้จ้างลุงเขาไปค่ะ แฮร่ )

          ไปค่ะทุกคนไปที่แรกกันเลย!! วัดใหญ่ชัยมงคลลล เป็นอีกวัดที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ชัดเจนเพราะมีโบราณสถานที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดและยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วยล่ะค่ะ ใครที่มาอยุธยาแล้วไม่มาวัดนี้ถือว่ายังมาไม่ถึงนะคะ!
           ในวัดมีจุดถ่ายรูปสวยๆค่อนข้างเยอะค่ะอาจจะต้องหามุมที่เหมาะสมนิดนึงนะคะเพราะบางมุมก็แดดร้อน ถ่ายไปร้อนไปรูปอาจจะไม่สวยได้นะคะ ^_^ รวมถึงจุดนี้ด้วยนะคะช่วงที่ถ่ายคนเดินขึ้นเดินลงตลอดถ่ายเสร็จไปรีทัชคนออกอาจจะได้ภาพที่สวยขึ้นค่ะ 
 
           เพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต โดยการมากราบไหว้สักการะพระนอน ขอให้สอบโปรเจ็คผ่าน เพี้ยงๆๆๆๆ
          บรรยากาศรวมๆของวัดใหญ่ชัยมงคลในวันธรรมดาเป็นไปได้ด้วยดีนะคะคนไม่เยอะจนเกินไปเที่ยวได้สบายๆค่ะ ใครที่ว่างหรืออยากมาเที่ยวแบบประหยัดๆทริปสั้นๆเล็กๆขอแนะนำเลยค่ะ ไปเช้าเย็นกลับได้สบายมากๆ
          ไปต่อกันในวัดที่สองกันเลยค่ะ ได้แก่ วัดพนัญเชิงวิหารค่ะ วัดนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจป้อมเพชรค่ะ ขาไปถ้าไปไม่ถูกลองถามคนในพื้นที่ดูได้นะคะ วัดพนัญเชิงวิหารเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาค่อนข้างหลายร้อยปีมีที่มาทางประวัติศาสตร์มาช้านานเชียวล่ะค่ะ
          ใครต้องการหามุมถ่ายสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปกับป้ายนะคะ(โดยเฉพาะคุณแม่ที่เคารพรัก) แนะนำเลยค่ะ ไม่ร้อนมากแต่แสบตานิดหน่อย55555 หรี่ตากันเลยทีเดียว
           นอกจากจะมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโตให้ไหว้สักการะบูชาแล้วยังมีเทพเจ้ากวนอูและเจ้าแม่กวนอิม รวมถึงเทพเจ้าองค์อื่นๆให้ไหว้สักการะอีกด้วยนะคะ คนไทยหรือคนไทยเชื้อสายจีนมาได้แน่นอนค่ะ
          หลังจากไหว้พระเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราแวะไปให้อาหารปลาที่ท่าเรือต่อค่ะ ถ้ามองจากมุมแอบนี้จะเห็นสารพัดปลาเยอะมากมายเลยค่ะ น้องมารอหม่ำๆอาหารแล้ว ไปให้อาหารน้องกันค่าาาาา
          บรรยายกาศรอบๆวัดเงียบดีค่ะแต่อย่างที่บอกเลย แดดค่อนข้างแรงใครมาแล้วหิวน้ำหรืออยากจิบอะไรแก้ร้อนรอบๆวัดก็มีร้านน้ำขายให้เลือกค่ะ หรือใครจะซื้อสังฆทานหรือดอกไม้พวงมาลัยก็มาทางนี้ได้เลยค่ะ มีหลายร้านมากๆราคาก็อาจจะแตกต่างกันไปไม่มากค่ะ
          มากันต่อที่ วัดมหาธาตุค่ะ ซึ่งวัดแต่ละวัดจะไม่ไกลกันมากจะนั่งรถในตัวจังหวัดหรือว่าเดินก็ได้นะคะถ้าแข็งแรงเดินได้สบายๆค่ะซึ่งวัดมหาธาตุก็เป็นสถานที่ๆน่าจะพอคุ้นตากันมาบ้างจากละครเรื่องบุพพาสันนิเวส เอ๊ย บุพเพสันนิวาส เอ๊ย อ๊ะถูกแล้ว
 
          ก่อนเข้าชมภายในวัด อย่าลืมซื้อบัตรกันด้วยนะค่าทุกคนน ถึงแต่เสียค่าเข้า แต่บอกเลยว่าคุ้มมากๆค่าาาา
          ไฮไลท์จุดสำคัญถ้ามาแล้วไม่แวะ ก็เหมือนมาไม่ถึงอีกเช่นกันค่ะ ต้องปักหมุดนะคะ นั่นคือเศียรพระที่ปกคลุมโดยรากต้นโพธิ์ค่ะ ในทางประวัติศาสตร์โบราณคดีต่างตั้งข้อสังเกตและตั้งข้อสันนิษฐานมากมายค่ะ แต่ที่ได้ทราบมาคงเศียรพระอยู่ในนี้ตั้งแต่ตอนเสียกรุงฯค่ะ ประมาณ 250 ปีมาแล้วค่ะ
          สถานที่ทางประวัติศาสตร์เป็นมรดกโลกของประเทศไทยเป็นสถานที่ๆน่าสนใจทีเดียวค่ะ ใครที่กำลังคิดจะมาศึกษาเพื่อทำงานต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือข้อมูลโบราณสถานสถาปัตยกรรมต่างๆ นี่ก็สามารถเป็นอีกตัวเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ
           หลังจากที่ไปเที่ยวอะไรแบบไทยๆมาแล้ว เลยอยากจะขอแวบไปฝั่งแบบคิคุคิคุกันบ้าง อิอิ ได้แก่ หมู่บ้านญี่ปุ่นค่าาา ที่นี่จะเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับหมู่บ้านญี่ปุ่นในสมัยอยุธยาค่ะ มีทั้งประวัติความเป็นมา เครื่องแบบของชาวญี่ปุ่น ทั้งแบบของชาวบ้านและแบบนักรบ ขอบอกเลยว่า เท่ฟุดๆไปเลยยยย
          แต่ก่อนจะทำการเข้าชม ต้องทำการซื้อตั๋วเข้าชมก่อนน้าาาา ไม่แพงเลย เรารับประกันนน
           หลังจากเที่ยวไปเที่ยวมากับการเที่ยวเข้าชมประวัติศาสตร์มามากแล้ว ยังมีอีกหนึ่งที่สำคัญสุดๆเลย ก็คือ...ของกินค่ะ!555 กองทัพต้องเดินด้วยท้องใช่มั้ยคะ ทางเราก็ไม่รอช้า ไปเติมพลังกันที่ ตลาดน้ำอโยธยา 
          อย่างที่รู้ๆกันนะคะ ตลาดน้ำอโยธยาก็ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกที่หนึ่งที่ถ้าไม่มาเนี่ยถือว่ามาไม่ถึงเลยนะคะ เพราะด้วยของกินที่มากมาย ของฝาก บอกเลยว่ามีร้อยหมดร้อย มีพันหมดพันกันเลยทีเดียว! (ขอแอบกระซิบหน่อย ไอติมกระทิอร่อยมากกกก นี่กินไปสองถ้วยเลย555)
          กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด ก็ต้องกินมากกว่า 1 สถานที่เท่านั้น(เกี่ยวกันมั้ย555) อยากคิดว่าทางเราจะจบที่ตลาดน้ำที่อยุธยานะคะ โนๆๆๆ เรายังมีอีกนึงสถานที่ค่ะ นั้นก็คือ ห้างอัมพรค่าาา 
          หลังจากผจญความร้อนมมาก เราก็เลยหนีร้อนมาดับเย็นด้วยการเดินทางแบบสวยๆ สุดปัง! แถมหน้าห้างอัมพรเนี่ยยังมีของกินให้เลือกมากมาย ทั้งน้ำ ขนม และชานมไข่มุก บอกเลยค่ะว่า หร่อยอย่างแรง!!!
           จบทริปนี้แบบสวยๆค่ะขอจบด้วยการนั่งเรือกลับบ้าน เอ๊ย! กลับไปสถานีรถไฟเพื่อกลับบ้านต่อนะคะ ค่าเรือโดยสารก็ไม่แพงนะคะ แค่คนละ 5 บาทเอง ถูกถู๊กกก แต่ก่อนมาห้างอัมพรก็ต้องนั่งเรือข้ามมาเหมือนกันนะคะทุกคนนนนน
          และสุดท้าย ช่วงนี้สภาวะบ้านของเรายังอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังนะคะ ไปไหนก็อย่าลืมกินร้อน ช้อนเรา ล้างมือ พกเจลแอลกอฮอล์ติดกระเป๋าด้วยนะคะ สำคัญที่สุดกว่าอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมด้วยนะคะ  อย่าลืมถอดแมสเฉพาะเวลาถ่ายรูปอย่างเดียวนะคะ  ^_^ ไว้เจอกันทริปหน้าค่ะ