นิยายแฟนตาซี [วัฏจักรแห่งความฝันที่พังทลาย Cycle of Crushed Dream] ตอนที่ 1 ประสาร่วมงาน

ขอเปลี่ยนชื่อเป็นวัฏจักรแห่งฝัน Dream Cycle แทนนะครับ 

ตอนที่ 1 ประสาร่วมงาน

             ราตรีใต้น่านฟ้าเปิด หมู่ดาวดื่นดาษเลยเด่นชัด เมื่อแหงนขึ้นมอง จันทร์เพ็ญเขียวส่องแสงนวล ก็อยู่เป็นสง่า มันโคจรค่อนข้างใกล้แผ่นดิน จึงเห็นใหญ่ทีเดียว หลุมบนนั้นก็วินาศเกลื่อนกลาด ขอบบนซ้ายของทั้งดวงแหว่งไปคำโตด้วย เศษซากเหนือความเสียหายต่างลอยหนาแน่นเสมือนค้าง ที่เปลือกยังลามระแหงต่อรอบทิศอีก 1 ใน 3 อาจแตกได้ทุกเวลา
             จู่ ๆ ทิวทัศน์ ณ บริเวณซากลอยเป็นแพกลับเบลอกะทันหัน แล้วบิดเบี้ยวหนักหนาขึ้น พร้อมประกายแสงแวบวับหลายแห่ง ครั้นเข้าไปใกล้พอในอวกาศ จะพบกับผิวโปร่งใสเลือนลางครอบตรงนี้กระเพื่อมมั่วซั่วอยู่ก่อน นี่จากร่องรอยตกค้างว่าต้นตอคือ 4 จุดนูนยุบน้อย ๆ ซึ่งสลับใหญ่กับเล็กอย่างละ 2 เรียงเป็นมุมของรูปเหลี่ยมอสมมาตรแคบ ๆ บนนั้น
             สภาวะเริ่มสงบลง ด้วยวงระลอกคลื่นแผ่จากแต่ละแห่งหักล้างกันเองเรื่อย ๆ จุดสะท้อนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาโดนลดจำนวนและหายหมดสิ้น ครั้นผ่านกาลไม่นาน ภาพผิดเพี้ยนบนนี้ค่อย ๆ ฟื้นคืนดั่งเดิม การแทรกแซงออกรอบนอกตามความโค้งเกิดหลุดบริเวณเสียหาย มันได้เผยการคงอยู่ของผิวโปร่งใสต่อเนื่อง แล้วแผ่วปลาย ถึงครึ่งดวงก็นิ่งเงียบไป 
             (นี่หมายความว่ามีม่านพลังงานปกคลุมทั้งดวงหรือ? ทำไมล่ะ?) ใครสักคนคงคิดในใจแน่ เพื่อให้คลายความสงสัย เลยทะลุผ่านใจกลางที่เกิดเหตุไปในบัดดล
             อุกกาบาตสีเขียวครีมซีดกลุ่มย่อย ๆ คละขนาดรอคอยอยู่เบื้องหน้า โดยกำลังลอยกระจายเคว้งคว้างล่าถอยกลับ พวกมันน่าจะเพิ่งเข้ากระแทกผิวโปร่งใสจากข้างในเมื่อตะกี้ พอฝ่าพ้นได้ จึงพบว่าม่านพลังงานนี้กำลังสร้างภาพลวงบิดเบือนเบื้องล่างอยู่ จนผู้คนหารู้ความจริงไม่ เนื่องจากซากลอยจริงมีจำนวนน้อยกว่าที่ฉายให้ภายนอกเห็นเยอะ 
             ท่ามกลางอุกกาบาตล่องลอยมากมาย สองก้อนใหญ่เคลือบมนตราเหลืองเรืองรอง ณ ตำแหน่งใกล้ไกลเยื้องกันกำลังเคลื่อนกลับแหล่งกำเนิด ด้วยเสาแห่งแสงลำเขื่องยิงใส่ตลอด สิ่งเข้ารบกวนด้านข้างพลังงานนี้ต้องเด้งออกไปทันที กึ่งกลางวงเวทย์สว่างเท่าจำนวนเป้าหมายได้ลากมาสู่พิกัดเคยอยู่ ณ หลุมโตที่ซ่อมแซมไปแล้ว 70%
             “ปึ่ง! ๆ ๆ ๆ” ซากเล็ก ๆ ขวางทางถูกชนกระจาย จะไม่เหลือ ออกข้างหรือตกนำตามมุมกระแทก ก็มีครบถ้วน กรณีสุดท้าย ก้อนรัศมีราว 20 เมตรกำลังเล็ดลอดเฉี่ยวพวกเดียวกันเอง เพื่อเฉียงขวาลงดวงจันทร์เขียวซีด อันใหญ่ลำดับ 2 ที่โดนดึงดูดมาคือสาเหตุนั่นเอง
             จังหวะนั้น อีกวงเวทย์ปรากฏใกล้ ๆ กับคู่ที่กำลังยิงเสาแห่งแสงอยู่ แล้วปล่อยไปต้องเป้าหมายบ้าง ซึ่งอยู่ระหว่างกลางสองอุกกาบาตใหญ่กำลังลงมา ก้อนในวิถีโดนเป่ากระเด็นและชิ่งพวกเดียวกันเองมิหยุด บางส่วนหลุดออกไปชนม่านพลังงานกั้นภายนอกสุด ส่งผลให้เกิดพิรุธผิดสังเกตนาน ๆ ที
             “ตึงงง...!!!” ทางอุกกาบาตใหญ่แรกนำหน้าลงไปประกอบก่อนสะเทือนเลื่อนลั่น วงเวทย์ภารกิจเรียบร้อยย้ายพิกัดเล็งเป้าหมายใหม่ เพื่อเริ่มขั้นตอนเดิม 
             ถัดออกมารอบนอก อาณาเขตยับเยินมิกระเทาะหลุด เหล่าตึกทึบสี่เหลี่ยมยักษ์ถูกใช้ครอบรอยแตกตามพื้นผิว ทว่าจริง ๆ ทุกด้านคือบาเรียส่องพร่ามัวให้มิทราบภายใน โดยเรียงติดกันเป็นตารางช่องสูงต่ำต่างกว้างยาว จนเกิดวงแหวนล้อมหลุมโตเคยว่างเปล่า ไร้ระเบียบวางผสมด้วย เช่น ริมยื่นเกินตั้งทับ เอียงรับทำเลก็มี ที่เว้นว่างอาจขาดแต่แรก 
             ถ้าตึกใด ร่องลึกเบื้องล่างแนบกันแล้ว แม้ไม่สนิทนักก็อนุมัติ บาเรียสลายเริ่มจากด้านบนเป็นเกล็ดระยิบระยับปล่อยโปรยปราย บวกไล่สี่ข้างลงมาจรดฐานใต้พื้น เลยเหลือแค่โครงสร้างเปล่าออกซอมซ่อ หากแข็งแกร่งถูกย่อส่วนลงไป กระบวนการนี้เกิดเปะปะ แถมยังเริ่มถี่ขึ้นอีกราวช่วงส่งงานอยู่ห่างไม่ไกล ขณะรอบนอกสำเร็จได้เกินร้อยละ 60
             “ตูมมม...!!!” อุกกาบาตรัศมี 20 เมตรที่เคยเอ่ยถึงพุ่งมาปะทะระเบิด ตำแหน่งโดนคือข้างซ้ายช่วงบน ณ ตึกโดดตระหง่าน 
             มันตั้งอยู่ในทิศ 2 นาฬิกาของหลุมโตยังเติมเต็มมิเสร็จและตรงกึ่งกลางหมู่สิ่งก่อสร้างโดด ๆ โบ๋ ๆ ที่รอบนอก ผลลัพธ์นั้นปกติดี ส่วนหลงเหลือสะท้อนร่วงใส่บนตึกเตี้ยกว่าชิดกัน จึงกระดอนหลัก ๆ แยกจำนวนและทิศทางไป 2 ครั้งพร้อมลดทอนกลายเป็นผุยผง บางก้อนหลุดขอบหล่นลงช่องโหว่ ซึ่งรอบข้างรายล้อมทุกด้าน
             เมื่อสำรวจตึกเพิ่งถูกดาวตกชน ภายในอับลม ตะวันย่อยเปล่งรังสีอ่อนแค่มองเห็นได้เหนือหัว แรงโน้มถ่วงมีให้ขยับสะดวก อากาศเติมเต็ม นี่คืออดีตหุบเขาซับซ้อนผ่ากลางกว้างแนวนอน ภูมิประเทศขนาบ 90% ปรับโล่งแล้ว แม้บ่อกับเนินหลากระดับจะเกะกะทั่ว พื้นตะปุ่มตะป่ำมีสีเขียวครีมซีด เพียงกระจุกเดียวที่สูงเด่น ณ พิกัดเยื้องซ้ายจากกลางซีกล่าง
             แดนนี้เงียบเชียบ สตรีสะคราญสูงโปร่งเดินเข้ามาเรื่อย ๆ หมวกนิรภัยอนาคตอยู่บนศีรษะ เธอหุ่นโค้งเว้าสูง 1.74 เมตร ผิวอมชมพู ผมสั้นจรดติ่งหูเฉดน้ำเงินวาว รวมนัยน์ตาอสรพิษ ผ้าโปร่งจำกัดให้ผ่านเซ็นเซอร์ได้คาดไขว้อักษรเอ็กซ์ประคองอกอึ๋ม ท่อนล่างสวมมินิสเกิร์ตกุดฉีกข้างโชว์เชือกผูกกางเกงในลูกไม้ขาว เท้าใส่บูทหนังดำหัวเหล็ก
             “ห้ามล่กล่ะ แล้วเจ้าต้องชนะแน่ ยูอาเรพ” ใบหน้าสะสวยให้ความรู้สึกจองหองก้มลง สายตาสอดส่ายใส่พื้น ปากพึมพำขึ้นตอกย้ำตนเอง ด้วยสีหน้าเจ็บปวดด้อยคุณค่าวูบหนึ่ง 
             ด้านหลังมิห่าง 2 ลูกน้องเดินตามแทบติด เพื่อนโฉมตรูนานาชาติก็ครือกัน ผิวไล่จากกระจ่างถึงแทนเข้ม เรื่องทรงผม สีบนศีรษะกับความสูงเฉพาะบุคคล ชุดหวือหวาด้วย อุปกรณ์เก่าดุจใช้หาทุ่นระเบิดสะพายเฉียงหลังทั้งคู่ บวกหุ่นยนต์ล้ำยุคขาดการซ่อมแซมก้าวต้อย ๆ รั้งท้ายอีกทอด 
             สิ่งนี้โทนแดงหม่นคล้ายมดสูง 3 เท่าของผู้นำ หัวแคปซูลบวมโตเอนหลังจมร่างป้อม สองไหล่ยกขนาบข้างดั่งเกราะนักรบ หน้าผากระบุสัญลักษณ์ว่า D-OH เอาไว้ สัญลักษณ์คั่นกลางลาง ๆ เกือบชิดกันและมี 6 ขาโง้งแหลม ทั้งรอยบุบหนักบานเบอะรอบร่าง 
             “แปลบ! ๆ ๆ” เวลาเดินปักพื้นดังกึก บางจังหวะ รอยฟันเฉียงลึกข้างลำตัวขวาแลบประกายไฟอาร์คตกลงพื้น ท่อนล่างฝั่งนี้ก็ชำรุดกว่าอีกฟากนัก มันเต็มไปด้วยรอยไฟไหม้
             ย้ายมาที่ใกล้เคียงกัน เท้าซ้ายในบูทหนังเหยียบแป้นเบรค ณ ฐานแท่นนั่งสูงกลางแจ้งบนเครนปั้นจั่น ซึ่งพลันหยุดหมุนล้อตีนตะขาบ สภาพคันนี้พอกันปานทั้งหมดผ่านสมรภูมิมานาน นั่นเป็นเหตุผลให้ไร้หลังคา กระทั่งสี่ด้านข้าง แผ่นซ้ายเหลือมากสุดยังมิถึง 20% เลย ขอบรุ่งริ่งน่าจะโดนเฉือนหยาบเข้า มือขวาขาวดันคันโยกสู่ข้างหน้า โซ่ยาวได้แกว่งไกว
             “แคร๊ก!”x??? ข้อต่อใหญ่เรียงรายภายในสายแยกออกระหว่างกัน เพื่อเชื่อมล่องหนบังคับปลายลูกตุ้มยักษ์ให้เขยื้อน ครั้นสะสมพลังงานจลน์ไปกลับหนักหน่วงแล้ว มันถูกส่งเข้าทลายผาชันฉับพลัน
             “โครมมม...!!!” เสียงสนั่นกังวานทั่ว ผลลัพธ์เป็นถล่มไปแถบกว้าง ก้อนหินกระจายร่วงกราวมีหล่นโดนคนลงมือหลายขนาดด้วย ทว่าถูกโดมโปร่งแสงกั้นเหนือพื้นทำลายเสียก่อน เพราะหมวกนิรภัยปฏิบัติตามบทบาท ไซเรนด้านซ้ายกระพริบแสงสีชมพูครู่หนึ่ง 
             “!???”x3 กลุ่มแรกใบหน้าตรงมาฝั่งซ้ายของปั้นจั่นต่างมิทันตั้งตัว พวกเธอสะดุ้งโหยงหยุดเดินเงยมองพร้อมเพรียง สิ่งที่เนตรเห็นคือสาวงามนั่งขับจริงจังหันข้างให้ เธอสูง 1.61 เมตร
             มือซ้ายถือพวงมาลัยแหวกแนว มันยื่นเอียงจากแท่นมาระดับอก แขนขวากุมคันโยกมั่นดึงเข้าหาให้ปั้นจั่นหยุดเหวี่ยงลูกตุ้ม ซึ่งคงต้องรอสักช่วง ดวงตาเธอโตแฝงบารมีสีทับทิม ปากจิ้มลิ้มผิวทำนองไพเราะ จมูกหน่อย ผมทองยาวสยายเพียงก้นกบ ร่างแน่งน้อยอวบอั๋นใช้ได้ ท่อนบนสวมเกาะอกกว้าง 4 นิ้ว ส่วนเอวพันถัดเป็นกระโปรงสั้นมัมมี่สุดสะโพก
             “หืม! ดูช! จงปักหลักเดี๋ยวนี้” ผู้นำห่างออกไปสีหน้าคืนสภาพ แถมนึกได้อีกว่าหุ่นยนต์ยังขยับอยู่ จึงรีบกล่าวฉับพลัน ไม่งั้นลูกน้องอาจประสบอุบัติเหตุรับอาการบาดเจ็บ 
             “ตู๊ด! ๆ ๆ ๆ” ระหว่างนั้น เซ็นเซอร์จับภาพเส็งเคร็งของมันกำลังแสกนผู้หญิง 3 คนอยู่จากด้านหลัง ด้วยวงกลมสีเขียวเล็งเป้าหมายทาบทับร่างพวกเธอ 6 ขายังย่างไม่หยุดอีก 3 เมตรถึงชน 2 รายแรก ภาพซ่า ๆ ขึ้นลายลูกน้ำประปราย บางส่วนก็ดำสนิท บ้างติด ๆ ดับ ๆ เพื่อเปรียบเทียบกับบุคคลในฐานข้อมูล ทว่า ณ ชั่วอึดใจกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงแทน
              (ศัตรู! ระดับอันตรายไม่ระบุ ต้องทำลายทิ้ง) หุ่นยนต์ทำการประมวลผลได้ดังนี้ โดยยกตัวย่อต่ำขึ้นเตรียมพร้อมโจมตี ครั้นมิสามารถจับคู่พบ บ่าขวาได้เลื่อนออก จากนั้นปืนกลแกทลิ่งเลเซอร์ชำรุดติดตั้งขึ้น กระบอกค่อนข้างคดงอเล็งเป้าหมาย
              กระแสพลังงานแล่นตามท่อสายไฟ บางอันขาดรุ่ยเป็นปลายปลอกเปลือยเริ่มดิสชาร์จประจุ ลำกล้องหมุนมิมีเสียง มันกำลังยิงกราดเป่าสมองจากซ้ายไปขวา กระนั้นอักขระเวทมนต์เข้าแทรกแซงเสียก่อน ทำให้ชะงักกลางคัน ด้วยการเขียนข้อมูลทับไปเลยด้วยภาษาผิดแผกคนละโยชน์ ทำให้วงกลมล็อคเป้าคืนสีเดิม อาวุธเก็บเข้าที่เข้าทาง ช่องบ่าเลื่อนคืน 
             “ตึงงง...!!!” ในวินาทีเดียวกัน แขนขวาของยูอาเรพก็แบชูส่งสัญญาณแก่มันเสริม ระบบเข้าใจได้ปฏิบัติตรงความหมาย ทำให้เกิดเสียงกระแทกพื้นดังด้านหลัง เธอไม่เหลียวดูแม้แต่น้อย จากนั้นแหงนหน้าขึ้นยิ้มเชิงมิตรภาพแก่สตรีบนเครน ฝ่ามือยกเอาไว้ลดมาให้นิ้วโป้งชิดข้างปาก
             “ท่านมอเกียด้าพักเถิด เหลือน้อยนัก ไว้วางใจรองสาวกคนนี้ได้เลย” แล้วตะโกนร่าเริงใส่
             “.../...” ทางคุมที่ทุบถอยกำลังเลี้ยวขวามาพังจุดอื่นต่อ เมื่อรับฟัง กายเอี้ยวซ้ายมองกระตุกมุมปากด้านมิสังเกตพบ แค่ยกมือโบกส่ายให้เท่านั้น โดยประชันใบหน้ากันชั่วคราว อีกฝ่ายทราบความนัยยิ้มค้างเช่นกัน ก็รอจนไม่เห็นเธอแน่ ปากเลยเบ้ไม่สบอารมณ์วูบเดียว แล้วก้มตรง 
             มือขวาถึงล้วงบัตรใสคล้ำเสียบคั่นเนินอกขึ้นมา โดยมีลวดลายประหลาดภายในและวงรอยแตกร้าวตื้น ๆ ซีกซ้ายอยู่ก่อน แขนคู่จับปลายดึงหนืดกางออกสี่ทิศ มันใหญ่บังท่อนบน จึงหยุด สักครู่รายละเอียดเก่าขยายตามเลือนหายไป โลโก้จักรวาลขังหมู่ดาวเคราะห์โผล่ต่อแป๊บหนึ่ง ดนตรีประกอบก็ลื่นไหลค่อยเผยแผงไอคอนตรงหน้า 
             “...” ยูอาเรพดูสักประเดี๋ยว นิ้วชี้ขวาจิ้มเงอะงะลงอันต้องการ ได้แก่ รูปดวงตาเหลือบลงวางบนเปลือกโลกนั่นเอง แผนที่ปรากฏแทน แล้วเซตค่าอีกหลายหน้าต่างซึ่งผุดขึ้นมาพัลวัน
             พอเสร็จ ตำแหน่งคนถือในนั้นกระจายคลื่นเยี่ยงโซน่าทั่วซ้ำ หากโหลดค้างไม่ไปไหนเสียที เธออารมณ์เสีย มือซ้ายทุบแรงครั้งหนึ่งถึงปกติ จนสะเก็ดน้อย ๆ ร่วงหล่นจากรอยแตกเดิม ผังกระแสพลังงานใต้ผืนพิภพฉบับสมบูรณ์เลยแสดงบนแผ่น ลักษณะเส้นเขียวเรืองแสง เช่น แม่น้ำรวมศูนย์ วงเป้าระบุเจาะจงในบริเวณตรงนี้ 
             เธอจับเอนลงนิดดูครุ่นคิดสักพัก จากนั้นบิดคอสลับมองสองลูกน้องเคียงข้างหลัง เพื่อหาทางระบายความรู้สึกคั่งค้างและเช็คประสิทธิภาพการทำงานไปด้วย ทั้งสองกำลังชะโงกเอียงพินิจข้อมูลเดียวกันอยู่ สรุปว่าไม่ใครเลยที่ล่วงรู้ว่าเพิ่งผ่านอันตรายมา
1. อ่านรู้เรื่องไหมครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย นิยายออนไลน์ นักเขียนหนังสือ นักเขียน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่