อันที่จริง ผมไม่เคยคิดจะ ล้างแอร์ ด้วยตัวเอง มาก่อนเลยครับ มันดูยุ่งยาก เลอะเทอะ และ จ่ายเงินเพียง 400 บาท ก็ล้างได้เอี่ยมอ่อง
แต่ปัญหาที่กวนใจคือ ช่างมักไม่ว่าง หรือ ว่างเวลาเราไม่ว่าง (งง ไหม) และ ช่างแต่ละคนก็มีฝีมือล้างไม่เท่ากัน 
ตัดประเด็นเรื่อง ช่างขี้โกง จะฟันกำไรจากการเติมน้ำยาแอร์ไป ต้องขอบคุณ พันทิพ ที่มีกระทู้เปิดโปง เรื่องนี้ สมัยก่อน ผมก็โดนเป็นพัน เหมือนกัน
หลังๆรู้แกว ผมเฝ้าเลย ห้ามแตะต้องหรือมาตรวจน้ำยา เด็ดขาด (ถ้าแอร์ผมเย็นอยู่)

ตัดกลับมาเรื่องล้างแอร์ ผมก็ได้รับ โฆษณาจาก เฟสบุ๊ค เรื่อง โฟมล้างแอร์ เนี่ยะ มีหลายยี่ห้อมาก จะว่า ถูกก็ไม่ถูกนะครับ กระป๋องละ 250 โดยประมาณ 
สมัยนี้มักขายเป็นแพค ในที่สุดผมไปเดิน แม๊คโคร เห็นเขาลดราคา( มาเสียรู้อีกที ก็คือ ราคานี้มันก็ปรกติอยู่แล้ว พอมาดูใน ชอปปี้ ตกใจมาก ราคาเท่ากันเลย 555) เอาละ ทีนี้พอซื้อมาแล้ว ต้องทำไงดี ผมก็ ศึกษาสิครับ ดูคลิปต่างๆเนี่ยะ 

มันก็มี แนวคิด สองแนว คือ พวกที่ แนะว่า ไม่ต้องล้างน้ำ เนี่ยะ ผมบอกเลยว่า เฮ้ย คุณอย่าหาทำ เชียวนะ 
มันดูดี แต่จริงๆมันแย่  กล่าวคือ พวกไม่ล้างน้ำ กะจะให้ น้ำที่เกิดจากการควบแน่น ชะล้างฝุ่นที่ละลายแล้วออกไป แต่ๆๆๆๆ คุณลืมไปหรือเปล่าว่า
ตรง กรงกระรอก หรือ พัดลมแอร์นี่แหละ ตัวดีเลย ฝุ่นเกาะเยอะๆๆ จะทำให้ ไม่มีแรงลม ดูดเข้าแอร์ และ เป่า ออกมา มันต้องล้าง เฟ้ยยย เว้ย เฮ้ย





อย่ากระนั่นเลย ผมเลยมาทางสาย ล้างน้ำตาม
เอาละ ถ้าล้างน้ำตาม มันต้องมี ผ้าใบ หรือ ผ้าพลาสติกคลุม ครับ อันนี้ หาซื้อได้ไม่แพง ชอปปี้ ก็มี ผมเลยตัดสินใจ ซื้อซะ เอาละไงต่อ
แนวคิด แบบนี้คือ คุณฉีดโฟมเข้าไป ทั้ง กรงกระรอก และ ฟินคอยร์ จากนั้น ทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออก เห็นไหม ไม่ยาก
อันนี้ คุณไม่ต้องแกะ หน้ากากแอร์นะครับ ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ กล่าวคือ ถ้าคุณไม่แม่น ไม่อยากยุ่งเกินไป ไม่อยากแกะแล้ว ใส่กลับไม่ได้ คุณมาสายนี้
ถูกต้องแล้ว ถ้าล้างดีๆ ไม่แพ้การแกะครับ การแกะ อาจจะ ทำให้ กิ๊ป ล็อก ต่างๆ หัก ได้ ถ้าคุณไม่ชำนาญ ซึ่งผมคิดว่า พ่อบ้าน ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ช่าง
มันต้องผิดพลาดแหละ และ การ แกะเข้าออก บ่อยๆ โอกาศเสี่ยงที่จะทำอะไรเสีย เยอะ เอาแค่ คุณ เปิดฝาหน้าออก เอาแผ่นกรองไปล้างน้ำ
และ ใช้น้ำยาฉีดเข้าไป รอ จากนั้น ล้างออก เท่านี้ พอ

ทีนี้ โฟมมันก็มีหลายยี่ห้อ ผมเลยซื้อมันทุกยี่ห้อ 555  ผลจริงๆ คือ มันแทบไม่ต่างกันเรื่องประสิทธิภาพครับ 

ต่อมา ที่ผมอยากแนะนำ แต่คุณต้องทำด้วยความระมันระวังสูง นั่นคือ น้ำยาล้างคอร์ย ครับ อันนี้ พวกช่างแอร์ เขารู้กัน เขาจะใช้แบบนี้
ในคลิปต่างๆ นี่ ล่อ เท กัน ตรงๆ เข้าคอร์ยเย็น หรือ คอรย์ร้อน เลย ผมบอกเลยว่า ช่างพวกนี้ ไม่ดู ข้างขวดเลยว่า เขาให้ผสมใช้ บ้าเป่า อ่านหนังสือกันเป่า
พอบีบเข้าไป ตรง มันดูแรง เพราะมันกัดฟู่ ออกมาเลย ลองค้น กูเกิลดูก็ได้ คำว่า super clean เนี่ยะ ถ้าคุณจะใช้ตรงๆ ผมแนะให้ฉีดเพียวๆเข้า กรงกระรอกครับ เพราะ กรงกระรอกเป็นพลาสติก 

แต่ถ้า คุณใช้ กูกวิธี คือ ผสมน้ำยา 1:3  มันก็ไม่น่ากลัวล่ะ น้ำขานี้ ราคาแค่ 33 บาท ต่อขวด ครับ ถูกเงินกว่า พวกโฟม ไม่รู้กี่เท่า 555
ทีนี้ ผมก็เลยลองผสม 1:3 แล้วฉีดดู โอ้โห มันกัดกำลังดีเลยครับ ข้างขวดเขียนให้รอ 1-2 นาที (เข้าใจว่าเพียวๆนะ) แบบ ผสมน้ำ คุณรอได้ 5 นาทีเลย
จากนั้น ล้างออกด้วยน้ำ เยอะๆๆๆๆๆๆๆ นะครับ เอาให้แน่ใจว่า ล้างออกหมด

https://youtu.be/3FXlnhk-khg








ตอนนี้ มันจะมีกระบอกฉีดน้ำ แบบปั๊ม และมีหัวยาวๆ ต่อออกมา แพงอยู่ 450 บาท ของ โคโตระ ถ้าใครไม่สะดวกเอาสายยางฉีดน้ำ ผมก็แนะนำ 

อีกทางที่ผมอยากแนะนำคือ ถ้าบ้านไหนมี ปั๊มน้ำอัตโนมัติ อยู่แล้ว ให้หาซื้อสายยางและหัวฉีดน้ำ ที่ยาวพอจะไปถึงแอร์ ฉีดเอาครับ แรงดันจากปั๊มอัตโนมัติแรงพอ ไม่ต้องไปซื้อ ปั๊มฉีดแรงดันสูง เปลืองเงิน และ แรงไป อาจทำให้ ฟิน ล้มได้ อย่าหาทำ ครับ

ของต่างๆที่ผมพูดมา ลองค้นหาใน แอพชอปปิ้งออนไลน์ จะมีหมด

อ้อ หลังๆ มีน้ำยาล้างคอรย์ N8 N9 โผล่มาในฟีดผม เห็นว่า ไม่กัดฟินคอร์ย ครับ ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน เขากันเป็นลิตรๆ เพราะเดาว่า เน้นด้าน อุตสาหกรรม พวกล้างแอร์ ตัวใหญ่ๆ ตามห้าง เป็นตัน แต่คุณซื้อได้นะ ลิตรละ 200 มั๊ง แล้วผสม 1:3 ก็จะได้ 4 ลิตร เก็บไว้ใช้ล้างยาวๆ

ปล ผมลอง บีบน้ำยา super cleaner เพียวๆใส่ขั้นน้ำ แล้ว ฉีดฟรอยด์ ทำอาหาร ใส่ลงไป ตื่นเช้ามาดู ฟรอยด์ละลายหายไปเลย ดังนั้น ใช้น้ำยานี้ ต้องผสมตามสูตร แล้วบ้างน้ำตาม มากๆๆ ก็จะไม่มีปัญหาครับ

สรุปนะครับ ล้องหัดล้าง ก็ไม่มีอะไรเสียหา สนุกดี และ ที่เคยกลัว ตอนนี้ สบายแล้วครับ กำลังคันๆ ว่าจะแกะหน้ากากแอร์มาลองเล่นละ ตอนนี้ เอาแบบ ไม่แกะไปก่อน ผลที่ได้ แอร์เย็นฉ่ำเลยครับ ประหยัดเงินไปเยอะ บ้านผมมีแค่ 2 ตัว เมื่อก่อน ล้าง ปีละครั้ง ก็ปีละ 800 ตอนนี้ ล้าง 6 เดือนครั้งยังได้เลย สบายๆ 555555