สวัสดีค่ะทุกคน ปาล์มเดินทางกลับมาเกาหลีใต้ พร้อมครอบครัวได้ไม่นาน และพ้นช่วงการกักตัวมา 14 วันเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวก่อนบิน และการกักตัว 14 วันหลังจากบินมาถึง ให้ทุกคนได้รู้เป็นข้อมูล มาเร่ิมกันเลยคร่าาาา
ช่วงโควิด 19 เดินทางไปเกาหลีใต้ได้จริงหรอ? คำถามนี้เชื่อว่าทุกคนต้องคิดอยู่ในหัวกันแน่นอน ประเทศเกาหลี เมื่อก่อนมันมีฟรีวีซ่าใช่ป่ะคะ แต่ว่า ณ ปัจจุบัน มีสถานการณ์โควิด 19 ทำให้คนไทยที่ยังไม่มีวีซ่าที่เกาหลี ถ้าจะไป ต้องทำวีซ่าก่อน และที่ปาล์มเห็นมาก็คือวีซ่าท่องเที่ยว เค้าก็จะปฏิเสธหมดเลย แต่ว่าถ้าเกิดเป็นวีซ่าพิเศษอื่นๆ เค้าก็จะยังให้อยู่นะคะ
ที่เค้าบอกสนามบินปิดอะไรอ่ะ คือไม่ปิดนะคะ เพราะว่าปาล์มก็เตรียมตัวบินกลับและจองตั๋วได้ปกติ
ส่วนคนที่อยากจะมาทำศัลยกรรม ปาล์มจะทำเป็นวีซ่าเดียวกันกับของที่ปาล์มทำให้กับคุณพ่อ คุณแม่นี่แหละค่ะ วีซ่าแบบไปเยี่ยมอะไรแบบนี้ แล้วก็การจะทำศัลยกรรมตอนนี้ เค้าไม่ได้ห้ามนะคะ คือที่นู่นผ่าได้เป็นปกติ แต่เค้าขอความร่วมมือ ว่าถ้าเกิดยังมีสถานการณ์แบบนี้ อย่าเพิ่งมาก็ได้
เอกสารที่มันเพิ่มขึ้นมา ก็จะมีเอกสารที่จะต้องเซ็นรับรองเรื่องของสุขภาพของเราว่า เราไม่ได้มีอาการ
เค้าจะมีแบบฟอร์มมาให้นะคะ แล้วก็เอกสารเรื่องของกักกันตัวเอง 14 วัน อันนี้ลูกค้าที่มาพักที่คอนโดของปาล์ม แต่ละห้อง ปาล์มก็จะมีสัญญาของปาล์มอยู่ ซึ่งพอเราเอาตรงนี้ไปทำวีซ่า เราก็จะไม่ต้องไปกักกันในสถานที่ ที่เค้าจัดให้
ก่อนจะบิน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจสุขภาพ ซึ่งพวกเรามาตรวจสุขภาพก่อนออกเดินทางกันทั้งครอบครัว
ถึงเวลาเดินทาง กลับประเทศเกาหลีใต้กัน
ช่วงที่โควิด 19 แพร่ระบาด ก่อนลงเครื่อง พวกเราต้องกรอกเอกสารรายละเอียดด้านสุขภาพและปฏิบัติตามข้อแนะนำในการโหลดแอพพลิเคชั่น “Self-quarantine safety protection” ของประเทศเกาหลีใต้ อย่างเคร่งครัด
ถึงแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ประเทศหลีใต้
บินมาไฟล์ทดึก ถึงเช้าพอดี
พวกเรากรอกเอกสารเข้าเมืองปกติ อย่างที่รู้ๆ กัน เดิมที ตม. เกาหลี ก็ขึ้นชื่อว่าตรวจเข้ม และเข้าเมืองกันยากอยู่แล้ว เจอช่วงโควิดไปนี่ ยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่ ทั้งต้องกรอกเอกสารนู่นนี่ หลายสิ่ง
แถมยังมีเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดป้องกัน เหมือนนักบินอวกาศอยู่บริเวณรอบๆ หลายคนมาก แต่ความรู้สึกปาล์มตอนนั้น คือ รู้สึกดีนะ ที่เค้าเข้มงวดกันมากขนาดนี้ แต่เราก็ต้องป้องกันตัวเองและครอบครัวด้วย
หลังจากกรอกเอกสาร และโหลดแอพพลิเคชั่นเสร็จเรียบร้อย ผ่านไป 1 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็มาอยู่ในรถกับคนขับเรียบร้อยแล้ว แต่เดี๋ยวพวกเราต้องไป Health Center เพื่อตรวจโควิด 19 กันอีกครั้ง
อันนี้ก็จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่เค้าให้โหลด ซึ่งมีหลายภาษามากนะ น่าจะแบบมีทั่วโลกเลยแหละ เพราะว่าอันนี้ก็จะเป็นภาษาไทย
ปาล์มทำของคุณพ่อปาล์มให้ดูนะ ทุกคนนะคะที่เข้าเกาหลี ถ้าไม่มีเบอร์เกาหลี ก็ต้องเปิดโรมมิ่งเป็นเบอร์ไทย ของคุณพ่อปาล์ม เค้าก็จะเปิดโรมมิ่ง แต่อยู่ที่บ้านเราก็จะใช้ Wi-Fi ได้ แต่ที่เค้าให้เปิดโรมมิ่ง ปาล์มคิดว่าอย่างนี้คือ เห็นตรงข้างบนนี้มั้ย เหมือนเค้าติดตามเราตลอดเวลา ว่าเราอยู่ที่ไหน น้ำเงินๆ ตรงนี้นะคะ
เวลาเราเข้าที่แอพฯ ถ้าเกิดเป็นสีแดง อันนี้เราต้องวินิจฉัยโรคด้วยตนเองทุกวัน วันละ 2 รอบนะคะ
เราก็กดเข้าไปเค้าก็จะถามว่า วันนี้เรามีไข้มากกว่า 37.5 องศาหรือไม่ เราก็ตอบว่า ไม่ นะคะ ก็กรอกอุณหภูมิ 36.2 องศาของเราเข้าไปนะคะ
แล้วมันก็จะบอกว่าสำเร็จ แล้วจากสีแดงก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน คือต้องทำแบบนี้ทุกวัน วันละ 2 รอบ แล้วเราก็ยังโทรหาเค้าได้ด้วย โทรฉุกเฉิน 1339 นะคะ
เริ่มกันที่ Day 1 ของการกักตัว 14 วัน จะรอดมั้ย???
วันที่ 1
หลังจากที่กลับมาอยู่บ้านที่เกาหลี วิธีการสั่งอาหารของปาล์มทำยังไง ก็คืออย่างที่บอกไปว่า ไม่สามารถออกไปข้างนอกบ้านได้เลย สมมติว่าแค่เราออกไปข้างๆ บ้านอย่างนี้ หรือบริเวณที่เค้าคิดว่า เฮ้ย!!! ไม่ใช่ส่วนของตัวบ้าน มันก็จะมี Alert ทางโทรศัพท์มาว่า เธออยู่ที่ไหน อยู่ในสถานกักกันที่บ้านเธอรึเปล่า? เนื่องจากเราถึงเป็นคนต่างชาติ แต่เราไม่ต้องไปอยู่สถานที่กักกันนะคะ เพราะว่าปาล์มก็ถือวีซ่าที่ค่อนข้างจะเป็นแบบพิเศษ เหมือนเป็นพลเมืองเกาหลีคนนึง แต่ว่าเราก็ยังออกไปข้างนอกบ้านไม่ได้ แม้กระทั่ง 7-11 ก็ออกไปไม่ได้นะคะ
ปาล์มเลยสั่งอาหารมา 3 กล่อง เกาหลีนะ คือสามารถสั่งอาหารสดได้ เค้าก็จะแพ็คมามีน้ำแข็งอย่างนี้ แพ็คมาให้เราเลย นมยังสั่งได้เลยเนี่ย ยังเย็นอยู่เลยค่ะ ไก่ยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย
พอได้ของทั้งหมดเสร็จ ปาล์มก็ไม่ลืมที่จะฉีดฆ่าเชื้อ ก็ใช้ Doctor Oppa ในการฉีดฆ่าเชื้อ กลิ่นเมล่อนนะ บางทีก็มีคนถามว่า ใช้ที่ฉีดแบบพกพาอย่างนี้ไม่เปลืองหรอ คือมันง่ายอ่ะ แล้วสเปรย์ที่ฉีด มันดูกระจาย และก็ประหยัดกว่าของที่ฉีดปกติที่ใช้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ แห้งไปเลย แล้วก็เอามาเก็บใส่ตู้เย็นนะคะ
ส่วนทางรัฐบาลเกาหลี มีของไปส่งที่บ้าน 5 ถุงนะคะ มีของปาล์ม ลอเรนท์ คลาร่า คุณพ่อ และคุณแม่ สำหรับครอบครัวปาล์ม 5 คนพอดี มีแมส 10 ชิ้น ต่อ 1 ถุง มีที่ฉีดฆ่าเชื้อทำความสะอาด เจลล้างมือ ถุงขยะนะคะ
ขอข้ามไปวันที่ 3 เลย วันนี้เราออกมาตรวจโควิดกัน พวกเราอาศัยอยู่ในเขตซอโช เราก็เลยต้องไปศูนย์สุขภาพของซอโชกันนะคะ ทางเจ้าหน้าที่พูดเหมือนกับจะให้เราเดินไปที่นั่น ถ้าไม่มีรถส่วนตัว คือถ้าจะเดินทางไปตรวจโควิด ไม่สามารถขึ้นรถสาธารณะได้เลย แต่โชคดีที่เรามีรถส่วนตัวกัน จากที่ขับมาทั้งหมดเนี่ย ถ้าเดินก็คงไม่ไหวนะ พอเราบอกเค้าว่ามีรถ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า โอ้ ดีเลย เยี่ยม 555555++
นี่คือจุดคัดกรองโควิด 19 นะคะ
เข้าไปตรวจมาเรียบร้อย แสบจมูก เหมือนเวลาเราไปตรวจไข้หวัดใหญ่ ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ สำหรับประเทศเกาหลีก็คือ เหมือนกับเข้าไปตรวจตามเขตพื้นที่เราค่ะ ก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่า จะทำการทดสอบภายใน 48 ชม. จนกว่าเราจะรู้ผล ระหว่างนี้เรายังคงต้องทำตามกฎของการกักตัว ห้ามใช้รถสาธารณะเด็ดขาด
วันที่ 5 ถึงคร่าวพาคุณพ่อ คุณแม่ปาล์ม มาตรวจโควิด 19 กัน
ตอนนี้นะคะ ก็กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว เราก็เริ่มหากิจกรรมทำกัน อย่างปาล์มก็หาทำอาหารใหม่ๆให้คลาร่า
ลอเรนท์ก็เรียนภาษาไทย ซึ่งนางจริงจังมากกกกก ติดโพส์ตอิทไปทั่วบ้าน ให้เค้าล่ะคุณสา ก็ถือเป็นกิจกรรมแก้เบื่อในช่วงกักตัวได้เหมือนกัน
วันที่ 10 แล้ววว ใกล้แล้ววอีกนิสสสสเดียวเราจะเป็นอิสระ
วันนี้มีเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน มาเช็คพวกเราว่าอีก 4 วันครบกำหนดแล้ว ตรวจโควิดกันแล้วใช่มั้ย ไม่มีใครเป็นอะไรใช่รึเปล่า ซึ่งเค้าดับเบิ้ลเช็คแล้วเช็คอีกจริงๆ
กักตัวครบ 14 วัน แต่ยังไม่จบ เพราะพวกเราต้องนำขยะทั้งหมดใส่ถุงขยะติดเชื้อ รวมถึงอาหารที่ต้องทิ้ง ต้องใส่ช่องฟรีซ เอาไว้ 2 อาทิตย์ แล้วรวบรวมลงถุงขยะ
และจุดที่เราต้องเอาขยะไปทิ้ง ไม่ใช่ทิ้งที่ไหนก็ได้นะคะ เราต้องเอาไปทิ้งที่ Health Center เขตซอโช ที่เราอยู่กัน จะมีเจ้าหน้าออกมารับถุงพวกนี้เข้าไป
จบการกักตัว เจออะไรที่ไม่คาดคิดบ้าง
1.แอพพลิเคชั่นใช้ภาษาไทยได้ จะมีการดาวน์โหลดแอพฯ นะคะ แล้วก็แอพฯนี้สามารถใช้ภาษาไทยได้ อันนี้ก็ว้าวเหมือนกัน
2.เจ้าหน้าที่เช็คเบอร์โทรศัพท์จริงๆ เหมือนมันจะมีโต๊ะตั้งอยู่ จะมีการเช็คโทรศัพท์ของเรานะคะ เค้าก็จะถามว่า เบอร์นี้เลยใช่มั้ย แล้วเค้าก็โทรเดี๋ยวนั้นเลยว่า เราใช้เบอร์นี้จริงๆใช่มั้ย
3.รับกระเป๋าแล้ว แวะไปไหนไม่ได้เด็ดขาด อันนี้คือไม่ปกติ จะมีพนักงานถือแผ่นป้าย และบอกทุกคนมาทางนี้ คนไทย คนฝรั่ง ทางนี้ ทางนี้ ต้องตามเค้าจริงจัง ห้ามออกนอกลู่ นอกทางเด็ดขาด แค่อยากจะแวะซื้อกาแฟ ยังเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
4.เกือบไม่ได้กลับบ้านเพราะแท๊กซี่ คือแท็กซี่พอเห็นคุณสาเป็นฝรั่งเนี่ย เค้าก็จะคิดว่าเราต้องไปกักตัวที่สถานที่ที่รัฐบาลจัดให้ แต่ความจริง คือเรามีบ้านอยู่ที่นี่ คือฝรั่งน้อยมากที่จะมีบ้านอยู่ที่นี่ เค้าก็เลยเข้าใจว่าอย่างนั้นนะคะ เราก็เลยต้องคอนเฟริมหลายรอบมาก ว่าเรามีบ้าน ก็จะพาเราไปที่กักตัวกับสถานที่ที่รัฐบาลจัดให้ เลยบอกว่า ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ เรามีบ้าน
5. รัฐบาลให้ของช่วงกักตัวเยอะจริงไหม?
คือก็เหมือนกับบ้านอื่นเค้าก็ได้อาหารกันอ่ะ แต่ว่าเขตของเรา คือเค้าบอกว่า อ่อ ยกเลิกการให้อาหารแล้ว
6.ผลตรวจโควิด 19 ออกไวมาก ที่ตรวจโควิด ตรวจเร็วมาก จริงๆแล้วเค้าแจ้งเอาไว้ว่าจะได้รับผลภายใน 48 ชั่วโมง แต่ภายใน 24 ชั่วโมง ก็แจ้งผลมาทางข้อความแล้วว่าพวกเราไม่มีเชื้อโควิด
แชร์ประสบการณ์กักตัว 14 วันที่เกาหลี รอดไม่รอด???
ช่วงโควิด 19 เดินทางไปเกาหลีใต้ได้จริงหรอ? คำถามนี้เชื่อว่าทุกคนต้องคิดอยู่ในหัวกันแน่นอน ประเทศเกาหลี เมื่อก่อนมันมีฟรีวีซ่าใช่ป่ะคะ แต่ว่า ณ ปัจจุบัน มีสถานการณ์โควิด 19 ทำให้คนไทยที่ยังไม่มีวีซ่าที่เกาหลี ถ้าจะไป ต้องทำวีซ่าก่อน และที่ปาล์มเห็นมาก็คือวีซ่าท่องเที่ยว เค้าก็จะปฏิเสธหมดเลย แต่ว่าถ้าเกิดเป็นวีซ่าพิเศษอื่นๆ เค้าก็จะยังให้อยู่นะคะ
ที่เค้าบอกสนามบินปิดอะไรอ่ะ คือไม่ปิดนะคะ เพราะว่าปาล์มก็เตรียมตัวบินกลับและจองตั๋วได้ปกติ
ส่วนคนที่อยากจะมาทำศัลยกรรม ปาล์มจะทำเป็นวีซ่าเดียวกันกับของที่ปาล์มทำให้กับคุณพ่อ คุณแม่นี่แหละค่ะ วีซ่าแบบไปเยี่ยมอะไรแบบนี้ แล้วก็การจะทำศัลยกรรมตอนนี้ เค้าไม่ได้ห้ามนะคะ คือที่นู่นผ่าได้เป็นปกติ แต่เค้าขอความร่วมมือ ว่าถ้าเกิดยังมีสถานการณ์แบบนี้ อย่าเพิ่งมาก็ได้
เอกสารที่มันเพิ่มขึ้นมา ก็จะมีเอกสารที่จะต้องเซ็นรับรองเรื่องของสุขภาพของเราว่า เราไม่ได้มีอาการ
เค้าจะมีแบบฟอร์มมาให้นะคะ แล้วก็เอกสารเรื่องของกักกันตัวเอง 14 วัน อันนี้ลูกค้าที่มาพักที่คอนโดของปาล์ม แต่ละห้อง ปาล์มก็จะมีสัญญาของปาล์มอยู่ ซึ่งพอเราเอาตรงนี้ไปทำวีซ่า เราก็จะไม่ต้องไปกักกันในสถานที่ ที่เค้าจัดให้
ก่อนจะบิน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจสุขภาพ ซึ่งพวกเรามาตรวจสุขภาพก่อนออกเดินทางกันทั้งครอบครัว
ถึงเวลาเดินทาง กลับประเทศเกาหลีใต้กัน
ช่วงที่โควิด 19 แพร่ระบาด ก่อนลงเครื่อง พวกเราต้องกรอกเอกสารรายละเอียดด้านสุขภาพและปฏิบัติตามข้อแนะนำในการโหลดแอพพลิเคชั่น “Self-quarantine safety protection” ของประเทศเกาหลีใต้ อย่างเคร่งครัด
ถึงแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ประเทศหลีใต้
บินมาไฟล์ทดึก ถึงเช้าพอดี
พวกเรากรอกเอกสารเข้าเมืองปกติ อย่างที่รู้ๆ กัน เดิมที ตม. เกาหลี ก็ขึ้นชื่อว่าตรวจเข้ม และเข้าเมืองกันยากอยู่แล้ว เจอช่วงโควิดไปนี่ ยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่ ทั้งต้องกรอกเอกสารนู่นนี่ หลายสิ่ง
แถมยังมีเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดป้องกัน เหมือนนักบินอวกาศอยู่บริเวณรอบๆ หลายคนมาก แต่ความรู้สึกปาล์มตอนนั้น คือ รู้สึกดีนะ ที่เค้าเข้มงวดกันมากขนาดนี้ แต่เราก็ต้องป้องกันตัวเองและครอบครัวด้วย
หลังจากกรอกเอกสาร และโหลดแอพพลิเคชั่นเสร็จเรียบร้อย ผ่านไป 1 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็มาอยู่ในรถกับคนขับเรียบร้อยแล้ว แต่เดี๋ยวพวกเราต้องไป Health Center เพื่อตรวจโควิด 19 กันอีกครั้ง
อันนี้ก็จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่เค้าให้โหลด ซึ่งมีหลายภาษามากนะ น่าจะแบบมีทั่วโลกเลยแหละ เพราะว่าอันนี้ก็จะเป็นภาษาไทย
ปาล์มทำของคุณพ่อปาล์มให้ดูนะ ทุกคนนะคะที่เข้าเกาหลี ถ้าไม่มีเบอร์เกาหลี ก็ต้องเปิดโรมมิ่งเป็นเบอร์ไทย ของคุณพ่อปาล์ม เค้าก็จะเปิดโรมมิ่ง แต่อยู่ที่บ้านเราก็จะใช้ Wi-Fi ได้ แต่ที่เค้าให้เปิดโรมมิ่ง ปาล์มคิดว่าอย่างนี้คือ เห็นตรงข้างบนนี้มั้ย เหมือนเค้าติดตามเราตลอดเวลา ว่าเราอยู่ที่ไหน น้ำเงินๆ ตรงนี้นะคะ
เวลาเราเข้าที่แอพฯ ถ้าเกิดเป็นสีแดง อันนี้เราต้องวินิจฉัยโรคด้วยตนเองทุกวัน วันละ 2 รอบนะคะ
เราก็กดเข้าไปเค้าก็จะถามว่า วันนี้เรามีไข้มากกว่า 37.5 องศาหรือไม่ เราก็ตอบว่า ไม่ นะคะ ก็กรอกอุณหภูมิ 36.2 องศาของเราเข้าไปนะคะ
แล้วมันก็จะบอกว่าสำเร็จ แล้วจากสีแดงก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน คือต้องทำแบบนี้ทุกวัน วันละ 2 รอบ แล้วเราก็ยังโทรหาเค้าได้ด้วย โทรฉุกเฉิน 1339 นะคะ
เริ่มกันที่ Day 1 ของการกักตัว 14 วัน จะรอดมั้ย???
วันที่ 1
หลังจากที่กลับมาอยู่บ้านที่เกาหลี วิธีการสั่งอาหารของปาล์มทำยังไง ก็คืออย่างที่บอกไปว่า ไม่สามารถออกไปข้างนอกบ้านได้เลย สมมติว่าแค่เราออกไปข้างๆ บ้านอย่างนี้ หรือบริเวณที่เค้าคิดว่า เฮ้ย!!! ไม่ใช่ส่วนของตัวบ้าน มันก็จะมี Alert ทางโทรศัพท์มาว่า เธออยู่ที่ไหน อยู่ในสถานกักกันที่บ้านเธอรึเปล่า? เนื่องจากเราถึงเป็นคนต่างชาติ แต่เราไม่ต้องไปอยู่สถานที่กักกันนะคะ เพราะว่าปาล์มก็ถือวีซ่าที่ค่อนข้างจะเป็นแบบพิเศษ เหมือนเป็นพลเมืองเกาหลีคนนึง แต่ว่าเราก็ยังออกไปข้างนอกบ้านไม่ได้ แม้กระทั่ง 7-11 ก็ออกไปไม่ได้นะคะ
ปาล์มเลยสั่งอาหารมา 3 กล่อง เกาหลีนะ คือสามารถสั่งอาหารสดได้ เค้าก็จะแพ็คมามีน้ำแข็งอย่างนี้ แพ็คมาให้เราเลย นมยังสั่งได้เลยเนี่ย ยังเย็นอยู่เลยค่ะ ไก่ยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย
พอได้ของทั้งหมดเสร็จ ปาล์มก็ไม่ลืมที่จะฉีดฆ่าเชื้อ ก็ใช้ Doctor Oppa ในการฉีดฆ่าเชื้อ กลิ่นเมล่อนนะ บางทีก็มีคนถามว่า ใช้ที่ฉีดแบบพกพาอย่างนี้ไม่เปลืองหรอ คือมันง่ายอ่ะ แล้วสเปรย์ที่ฉีด มันดูกระจาย และก็ประหยัดกว่าของที่ฉีดปกติที่ใช้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ แห้งไปเลย แล้วก็เอามาเก็บใส่ตู้เย็นนะคะ
ส่วนทางรัฐบาลเกาหลี มีของไปส่งที่บ้าน 5 ถุงนะคะ มีของปาล์ม ลอเรนท์ คลาร่า คุณพ่อ และคุณแม่ สำหรับครอบครัวปาล์ม 5 คนพอดี มีแมส 10 ชิ้น ต่อ 1 ถุง มีที่ฉีดฆ่าเชื้อทำความสะอาด เจลล้างมือ ถุงขยะนะคะ
ขอข้ามไปวันที่ 3 เลย วันนี้เราออกมาตรวจโควิดกัน พวกเราอาศัยอยู่ในเขตซอโช เราก็เลยต้องไปศูนย์สุขภาพของซอโชกันนะคะ ทางเจ้าหน้าที่พูดเหมือนกับจะให้เราเดินไปที่นั่น ถ้าไม่มีรถส่วนตัว คือถ้าจะเดินทางไปตรวจโควิด ไม่สามารถขึ้นรถสาธารณะได้เลย แต่โชคดีที่เรามีรถส่วนตัวกัน จากที่ขับมาทั้งหมดเนี่ย ถ้าเดินก็คงไม่ไหวนะ พอเราบอกเค้าว่ามีรถ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า โอ้ ดีเลย เยี่ยม 555555++
นี่คือจุดคัดกรองโควิด 19 นะคะ
เข้าไปตรวจมาเรียบร้อย แสบจมูก เหมือนเวลาเราไปตรวจไข้หวัดใหญ่ ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ สำหรับประเทศเกาหลีก็คือ เหมือนกับเข้าไปตรวจตามเขตพื้นที่เราค่ะ ก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่า จะทำการทดสอบภายใน 48 ชม. จนกว่าเราจะรู้ผล ระหว่างนี้เรายังคงต้องทำตามกฎของการกักตัว ห้ามใช้รถสาธารณะเด็ดขาด
วันที่ 5 ถึงคร่าวพาคุณพ่อ คุณแม่ปาล์ม มาตรวจโควิด 19 กัน
ตอนนี้นะคะ ก็กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว เราก็เริ่มหากิจกรรมทำกัน อย่างปาล์มก็หาทำอาหารใหม่ๆให้คลาร่า
ลอเรนท์ก็เรียนภาษาไทย ซึ่งนางจริงจังมากกกกก ติดโพส์ตอิทไปทั่วบ้าน ให้เค้าล่ะคุณสา ก็ถือเป็นกิจกรรมแก้เบื่อในช่วงกักตัวได้เหมือนกัน
วันที่ 10 แล้ววว ใกล้แล้ววอีกนิสสสสเดียวเราจะเป็นอิสระ
วันนี้มีเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน มาเช็คพวกเราว่าอีก 4 วันครบกำหนดแล้ว ตรวจโควิดกันแล้วใช่มั้ย ไม่มีใครเป็นอะไรใช่รึเปล่า ซึ่งเค้าดับเบิ้ลเช็คแล้วเช็คอีกจริงๆ
กักตัวครบ 14 วัน แต่ยังไม่จบ เพราะพวกเราต้องนำขยะทั้งหมดใส่ถุงขยะติดเชื้อ รวมถึงอาหารที่ต้องทิ้ง ต้องใส่ช่องฟรีซ เอาไว้ 2 อาทิตย์ แล้วรวบรวมลงถุงขยะ
และจุดที่เราต้องเอาขยะไปทิ้ง ไม่ใช่ทิ้งที่ไหนก็ได้นะคะ เราต้องเอาไปทิ้งที่ Health Center เขตซอโช ที่เราอยู่กัน จะมีเจ้าหน้าออกมารับถุงพวกนี้เข้าไป
จบการกักตัว เจออะไรที่ไม่คาดคิดบ้าง
1.แอพพลิเคชั่นใช้ภาษาไทยได้ จะมีการดาวน์โหลดแอพฯ นะคะ แล้วก็แอพฯนี้สามารถใช้ภาษาไทยได้ อันนี้ก็ว้าวเหมือนกัน
2.เจ้าหน้าที่เช็คเบอร์โทรศัพท์จริงๆ เหมือนมันจะมีโต๊ะตั้งอยู่ จะมีการเช็คโทรศัพท์ของเรานะคะ เค้าก็จะถามว่า เบอร์นี้เลยใช่มั้ย แล้วเค้าก็โทรเดี๋ยวนั้นเลยว่า เราใช้เบอร์นี้จริงๆใช่มั้ย
3.รับกระเป๋าแล้ว แวะไปไหนไม่ได้เด็ดขาด อันนี้คือไม่ปกติ จะมีพนักงานถือแผ่นป้าย และบอกทุกคนมาทางนี้ คนไทย คนฝรั่ง ทางนี้ ทางนี้ ต้องตามเค้าจริงจัง ห้ามออกนอกลู่ นอกทางเด็ดขาด แค่อยากจะแวะซื้อกาแฟ ยังเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
4.เกือบไม่ได้กลับบ้านเพราะแท๊กซี่ คือแท็กซี่พอเห็นคุณสาเป็นฝรั่งเนี่ย เค้าก็จะคิดว่าเราต้องไปกักตัวที่สถานที่ที่รัฐบาลจัดให้ แต่ความจริง คือเรามีบ้านอยู่ที่นี่ คือฝรั่งน้อยมากที่จะมีบ้านอยู่ที่นี่ เค้าก็เลยเข้าใจว่าอย่างนั้นนะคะ เราก็เลยต้องคอนเฟริมหลายรอบมาก ว่าเรามีบ้าน ก็จะพาเราไปที่กักตัวกับสถานที่ที่รัฐบาลจัดให้ เลยบอกว่า ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ เรามีบ้าน
5. รัฐบาลให้ของช่วงกักตัวเยอะจริงไหม?
คือก็เหมือนกับบ้านอื่นเค้าก็ได้อาหารกันอ่ะ แต่ว่าเขตของเรา คือเค้าบอกว่า อ่อ ยกเลิกการให้อาหารแล้ว
6.ผลตรวจโควิด 19 ออกไวมาก ที่ตรวจโควิด ตรวจเร็วมาก จริงๆแล้วเค้าแจ้งเอาไว้ว่าจะได้รับผลภายใน 48 ชั่วโมง แต่ภายใน 24 ชั่วโมง ก็แจ้งผลมาทางข้อความแล้วว่าพวกเราไม่มีเชื้อโควิด