[CR] เจาะทฤษฏี และอธิบายจุดต่างๆ ใน TENET (spoil)

สำหรับเนื้อหาในโพสต์นี้ จะเป็นการกล่าวถึงทฤษฏี และอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังอย่างละเอียดนะครับ
เดิมผมเขียนรีวิวไว้บนเพจ "อยากลอง" แต่เอามาลงเพิ่มเติม เรียบเรียงใหม่บวกเพิ่มบางข้อเข้าไป
ซึ่งผมเขียนสรุปเนื้อเรื่องเอาไว้ด้วยอีกโพสต์ แต่ยาวไปเลยไม่เอามาลงนะครับ 

คำเตือน การดูหนังรอบสอง หรือการหาคำตอบด้วยตัวเองอาจจะสนุกกว่า
แต่ถ้าคิดว่าคิดแล้วปวดหัว หรือว่าเคลียร์หมดข้อสงสัยแล้ว ก็อ่านดูได้ครับ

ถ้าคุณคิดว่าดูหนังเข้าใจจนครบถ้วนดีแล้ว ผมจะทิ้งคำถามไว้ให้คุณคิดก่อนที่จะไปอ่านบทความนี้
ซึ่งผมถือว่าเป็นไฮไลท์ของหนังเลยก็ว่าได้

คำถามคือ
"นางเอกโดนจับขึ้นรถมาพร้อมกับเซเทอร์ตอนที่แย่งชิงอัลกอริธึมตอนไหน?"
ถ้าคุณจำฉากนี้ไม่ได้ จะทบทวนให้สักหน่อยก็คือ
1. นางเอกไม่ได้ใส่หน้ากาก
2. เซเทอร์ใส่หน้ากาก
3. เวลาของสองคนนี้ไม่ได้ไปในทิศเดียวกัน

ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย
-------------
1. ทำความเข้าใจ โลกคู่ขนาน

โลกคู่ขนานหรือ parallel world มักเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ใดๆ ในอดีต หรือมีความเชื่อว่า โลกคู่ขนานเกิดขึ้นในทุกช่วงเวลา เหมือนต้นไม้ที่แตกแขนงออกเป็นกิ่งก้านหลายกิ่ง มีตัวเราอีกคนอยู่ในโลกอีกใบ ที่อาจทำอะไรเหมือนๆ กัน หรืออาจจะแตกต่างกันไปเลยก็ได้ เพราะการกระทำนั้นแตกต่างออกไป

หากพูดเป็นเกมก็เหมือนเกมที่มีหลายฉากจบ แต่ละฉากจบมาจากการตัดสินใจในการเลือกตัวเลือกที่แตกต่างกันไป
โลกคู่ขนาน บางครั้งก็เกิดจากการย้อนเวลาของบุคคลใดๆ เพื่อกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีต แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นอาจแยกออกได้เป็น 3 ทฤษฏีคือ

1. การเปลี่ยนแปลงอดีตที่ส่งผลถึงอนาคต
2. การเปลี่ยนแปลงอดีตที่เปลี่ยนแปลงอนาคต แต่ไม่ใช่อนาคตในโลกของเรา
3. การแก้ไขอดีต ที่สุดท้ายมักเป็นไปตามแนวทางของมัน พูดง่ายๆ คือไม่มีอะไรเปลี่ยน

มีหนังหลายเรื่องที่คุณสามารถหาดูทฤษฏีเหล่านี้ได้เช่น back to the future , butter fly effect , twelve monkey , looper
ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงอดีตที่ส่งผลถึงอนาคต นั้นมักจะเกี่ยวข้องกับ Freewill เป็นคำพูดหนึ่งที่พระเอกเอ่ยกับนักวิทยาศาสตร์หญิงในตอนต้นเรื่อง
นิยามของ Freewill นั้นคือเรื่องของเจตจำนงค์อิสระ หมายความว่าเรามีพฤติกรรมและความคิดอันเป็นอิสระหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
แต่หากไม่มีเจตจำนงค์อิสระแล้ว ก็หมายความว่า ทุกอย่างในการกระทำของเรานั้นคือสิ่งที่ถูก "กำหนดเอาไว้แล้ว" ความคิดของเราย่อมไม่ใช่ของเรา เราเพียงแค่เชื่อว่าเป็นความคิดของเรา แต่ความคิดนั้นคือสิ่งที่ถูกกำกับเอาไว้แล้วก็ได้ ในเมื่อถูกกำกับไว้แล้ว มันก็คือชะตากรรมที่ไม่อาจเลี่ยงได้ บางครั้ง "สิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว ยังไงก็ต้องเกิด" ฉะนั้นบางทีการรับรู้ผลแต่แรก อาจเป็นตัวกำหนดเหตุก็ย่อมได้ หมายความว่า การแก้ไขอดีต อาจแก้ไขไม่สำเร็จ แต่ในแง่มุมกลับกันการรับรู้อนาคตหรือความเป็นปัจจุบัน ก็อาจเป็นตัวกำหนดว่าสุดท้ายเราจะผ่านพ้นมันไปได้

สังเกตได้จากคำพูดของพระเอกที่คุยกับนีลที่ว่า "ถ้าทำไม่สำเร็จตัวเราคงไม่อยู่ ณ ตอนนี้ เพราะโลกคงล่มสลายไปแล้ว" นั่นเอง

นอกจากนี้ใน tenet ยังมีประเด็นการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงอดีตที่อนาคตเปลี่ยนไป แต่อาจไม่ใช่โลกของเรา ซึ่งอยู่ในคำพูดของพรียาคุยกับพระเอกที่ว่า "เราอาจไม่ได้อยู่ในนั้น"

ทฤษฏีนี้มีการใช้อยู่ในการ์ตูนอย่าง ดราก้อนบอล ซึ่งเป็นเรื่องของทรังค์นั่นเอง
ฉะนั้นทฤษฏีของโลกคู่ขนานจึงขึ้นอยู่กับ "ความเชื่อ" และ "มุมมองการรับรู้" ของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป
-------------
2. ทฤษฏีพาราดอกซ์ และ ผู้สังเกตการณ์
ทฤษฏีพาราดอกซ์ หรือเรื่องของความขัดแย้ง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในโลกคู่ขนานและการย้อนเวลา
หนังเอ่ยถึง grand father paradox หรือ ความขัดแย้งคุณปู่ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณย้อนกลับไปกำจัดปู่หรือบรรพบุรุษของคุณ คุณก็จะไม่ได้เกิดมา

คำตอบของพาราดอกซ์ข้อนี้อยู่ทีว่าคุณจะมองในมุมไหน มองในมุมที่ว่า ยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะถ้าสำเร็จ เราคงไม่ได้เกิดมาแต่แรก
หรือมองในมุมของการเปลี่ยนแปลงอนาคต หมายความว่าตัวเราจะหายไป

หรือสุดท้าย มองในมุมของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ส่งผลกระทบกับตัวเรา เราอาจไปอยู่ในโลกใบใหม่ที่มีบรรพบุรุษเป็นคนอื่นแทนก็ได้
คำตอบคือสิ่งไหน เราต้องมองในฐานะของ "ผู้สังเกตการณ์" (observer) ในระดับที่สูงกว่า บางครั้ง ผู้สังเกตการณ์ อาจขาดซึ่งข้อมูลที่สำคัญต่อการรับรู้ก็ได้

จะขอยกตัวอย่างจากหนังครับ โดยในตอนเริ่มต้นของหนังที่โรงโอเปร่า เราจะเห็นได้ว่ามีคนมาช่วยพระเอกของเรา ทำให้รอดจากการโดนศัตรูทำร้าย เพราะกระสุนย้อนกลับพุ่งใส่ศัตรู

คำถามคือ ถ้าไม่มีคนมาช่วยพระเอก แบบนี้พระเอกก็ตายไปแล้วหน่ะสิ ความฉงนงงงวยมันเกิดขึ้นตรงนี้ที่ว่า แล้วจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ถ้าพระเอกตาย ก็ต้องไม่มีคนมาช่วยพระเอก เพราะพระเอกคือคนที่ก่อตั้ง TENET แต่ถ้าพระเอกรอดจากการถูกช่วย แล้วคนที่ช่วยนั้นมาจากไหน เมื่อไหร่ มาได้ยังไง?

แต่ถ้าจะเอาทฤษฏีอื่น มันคือกระสุนย้อนกลับที่ถูกนำมาใช้โลกปกติได้หรือเปล่า?

สิ่งที่ทำให้เราสับสนนี้เพราะ เราเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ขาด "การรับรู้" ต่อโลกคู่ขนานใบอื่น หรือต่อให้มันเป็นโลกใบเดิม มันอาจมีการทับซ้อนเหตุการณ์ใหม่ลงไปในไทม์ไลน์เดิมโดยที่เราไม่รับรู้เกิดขึ้น เราเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทีแรก และ ภายหลัง เปรียบเสมือนเป็น "หนังคนละม้วน" หรือ "หนังที่โดนบันทึกทับ"

ยกตัวอย่างเช่น จริงๆ แล้วต่อให้ไม่มีคนมาช่วยพระเอก แต่พระเอกก็สามารถรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้ด้วยตัวเอง แต่เผอิญว่าในอนาคตดันมีคนแอบมาสังเกตการณ์ และเห็นท่าไม่ดี จึงสอดมือเข้ามายุ่ง นี่จึงเป็นเหตการณ์ใหม่ที่ตัวหนังทำให้เรารับรู้เพียงเท่านี้ และเขาก็ไม่เคยให้เราได้ดูหนังม้วนอื่นๆ หรือต้นฉบับก่อนโดนทับ มันจึงเป็นการตั้งข้อสงสัยต่อสิ่งที่เราไม่สามารถรับรู้ได้นั่นเอง

หรือในเรื่องของไทม์แมชชีน เราเชื่อว่าการย้อนไปเปลี่ยนแปลงอดีต สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ เมื่อเรากลับมายังเวลา ณ ปัจจุบัน เราอาจถูกทำให้เชื่อว่า นั่นคือโลกใบเดิม แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันอาจไม่ใช่เครื่องย้อนเวลา แต่เป็น เครื่องข้ามโลกคู่ขนาน ที่สามารถกำหนดเวลาได้
ในขณะที่เราเชื่อว่าเรากลับมายังโลกใบเดิม มันอาจเป็นโลกใบใหม่ที่สอดคล้องกับอดีตที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปก็ได้

บางครั้งการที่เราไม่สามารถรับรู้สิ่งที่อยู่เหนือการรับรู้ได้ เราจึงเชื่อว่านั่นคือความจริงที่เกิดมาแต่แรก และกลายเป็นการติดอยู่ในลูปเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่า ตกลงมันเกิดขึ้นตอนไหน

ทั้งๆ ที่ในครั้งแรกสุดเหตุการณ์ต่างๆ อาจเป็นเส้นเรื่องที่แตกต่างออกไปก็ได้ แต่มันถูกขีดเขียนให้มาเป็นวงกลมวนอยู่แบบนั้น

จะขอยกอีกหนึ่งตัวอย่างทฤษฏีพาราดอกซ์ที่เป็นที่นิยม ซึ่งได้แก่ พินอคคิโอ้พาราดอกซ์

โดยปกติแล้ว เมื่อพินอคคิโอ้พูดโกหก จมูกของพินอคคิโอ้จะยืดยาวออก เพราะโดนนางฟ้าเสกให้เป็นแบบนั้น

พินอคคิโอ้จึงพูดว่า "จมูกของฉันกำลังจะยาว" สักพัก จมูกของพินอคคิโอ้ก็ยาวจริงๆ ตกลงว่า ที่จมูกของพินอคคิโอ้ยาวเพราะพูดโกหก แต่การที่มันยืดออกก็เป็นไปตามที่พินอคคิโอ้พูดไม่ใช่เหรอ ก็ต้องเป็นจริงหน่ะสิ พินอคคิโอ้ไม่ได้โกหกสักหน่อย ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งในตัวมันเอง

แต่หากเราเพิ่มระดับการรับรู้ให้กับผู้สังเกตการณ์ เช่น คำว่า "กำลังจะ" มีความหมายคือ 1 นาที
หากพินอคคิโอ้พูดว่าจมูกของฉันกำลังจะยาว ณ เวลา 8.00 แปลว่าจมูกของพินอคคิโอ้ต้องยาวออกที่เวลา 8.01

แต่ปรากฏว่าจมูกของพินอคคิโอ้ยาวออกมาที่เวลา 8.01.01 หรือเกิดขึ้นหลังเวลาที่กำหนด นั่นหมายความว่า พินอคคิโอ้นั้นพูด "โกหก" และการโกหกก็ทำให้จมูกยาวออก ซึ่งอยู่นอกเหนือนิยามของคำว่า "กำลังจะ" ที่ 1 นาทีไปแล้ว จึงไม่ถือเป็นความจริงแต่อย่างใด

แต่ในความเป็นจริง คำว่า "กำลังจะ" ไม่ได้มีการนิยามที่ชัดเจนว่าคือเวลาเท่าใด จึงเป็นเรื่องของมุมมองการรับรู้ที่ต่างออกไปสำหรับแต่ละคน เหมือนเวลาภรรยาบอกว่าแต่งหน้าแป๊ปหนึ่ง แล้วทำไมผู้ชายรู้สึกนานจัง
------------
สองหัวข้อที่กล่าวไปแล้วถือเป็นการเคลียร์เรื่องมุมมองการรับรู้ที่มีบางประเด็นคำพูดที่ถูกกล่าวในหนังครับ
-------------
3. เรื่องนี้มีไทม์แมชชีนหรือไม่?

ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีไทม์แมชชีนครับ หมายความว่า คุณไม่สามารกระโดดจากช่วงเวลาหนึ่งมายังช่วงเวลาหนึ่งได้ เพราะหลักการของมันคือการกลับค่า เอนโทรปี ซึ่งตามปกติทฤษฏีเกี่ยวกับเอนโทรปีและจักรวาล

ค่านี้มักมีค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ และไปข้างหน้า หลักการของหนังเรื่องนี้คือการสลับเอนโทรปี และทำให้เกิดการย้อนกลับหลัง ผ่านยังประตู หากคุณต้องการย้อนกลับไปช่วงเวลาใด หมายความว่าคุณจะต้องรอคอยจนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนั่นเอง
-------------
4. การทำงานของประตู
จากที่เรารู้ว่า การเดินผ่านประตูคือการย้อนกลับ การย้อนกลับในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ย้อนเวลา แต่เป็นการกลับจากการย้อนเวลาไปสู่โลกที่เวลาเดินไปข้างหน้าได้ด้วยเช่นกัน

เราจะสังเกตได้ว่า ประตูถูกออกแบบให้ทางเข้า และ ทางออกอยู่กันคนละฝั่ง คำถามคือ ทำไมไม่เป็นประตูแบบหมุนครบรอบแล้วออกมาทางเดิม
เพราะมันมีกฏที่ว่า หากตัวเราเองสัมผัสตัวเราเอง ก็จะแหลกสลายหายไป หมายความว่าถ้าเราเข้าไปยืนแช่ในตำแหน่งเดียวกันนานๆ มันก็อาจจะชนตัวเองก็ได้

จึงมีกฏอีกข้อที่กำกับเข้ามาในหนังคือ เราจะต้องเห็นตัวเราเองเดินออกมาแล้ว จึงเดินเข้าประตูไป เพราะถ้าคุณไม่เห็นตัวเองเดินออกมา
หมายความว่า คุณอาจจะเดินเข้าไปอยู่นานๆ หรือว่าเดินออกมาแล้วย้อนกลับเข้าประตูไปทันที ก็มีซี๊แหงแก๋กันแน่นอนงานนี้
ฉะนั้นเราจะได้เห็นหลายๆ ฉากที่ตัวละครหันไปมองกระจกเพื่อดูเงาตัวเองเสมอ

นอกจากนี้ ผมคิดว่าประตูที่เราเห็นนั้น สามารถใช้งานได้ในทิศทางเดียว คือมันมีคุณสมบัติ ที่จะเป็นแบบ ย้อนกลับเพื่อ ย้อนเวลากลับอดีต (โลกย้อนกลับ) หรือ ย้อนกลับเพื่อไปอนาคต (โลกปกติ)

เราสังเกตได้จากที่ เคทหรือนางเอกของเราโดนยิง เมื่อทีมของไอร์เวสพานางเอกกลับมายังฝั่งโลกปกติ มันจะไม่มีผลในการย้อนเอนโทรปีของวัตถุหรือกระสุนในโลกอีกฝั่ง

แค่กลับมาในโลกของไทม์ไลน์ตามปกติ ดังนั้นเป็นสาเหตุที่ต้องพานางเอกไปที่ Freeport เพื่อใช้อีกประตูที่เป็นประตูแบบย้อนกลับมาโลกปกติแทน
ผมว่ามันก็ออกจะดูมีความไม่สมเหตุสมผลนิดๆ แต่ก็ถือว่าเป็นข้อจำกัดที่กำหนดขึ้นได้เพื่อให้เป็นไปตามพลอตดังกล่าว
สุดท้าย ทำไมไม่พาไปที่ประตูอื่นๆ อาจจะเพราะประตูอื่นนั้นอยู่ไกลออกไป หรือเพราะนีลรู้เหตุการณ์แล้วว่าสิ่งนี้คือการกระทำที่เหมาะสม ไม่ต้องการไปเปลี่ยนแปลงมัน

ทั้งนี้พระเอกยังไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีประตูอื่นๆ อยู่ เพราะพรียาไม่ได้บอกเอาไว้ จนกระทั่งเข้าสู่ภารกิจสุดท้าย
แง่ประเด็นอื่นๆ การที่นางเอกถูกพาย้อนเวลากลับไป ก็เป็นการทำให้วัตถุที่ย้อนกลับมีผลเหมือนกระสุนปกติในโลกปกติ เพราะทิศทางนั้นสอดคล้องกัน จึงทำให้นางเอกอดทนได้มากขึ้นกว่าอยู่ในโลกปกติอีกด้วย
-------------
5. สิ่งที่คิด มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้จริง

หัวข้อนี้ฟังดูคล้ายพวกหนังสือจิตวิทยาพวก the secret ทั้งหลายที่เชื่อว่า อะไรก็ตามที่คุณคิดจะกลายเป็นจริงเสมอ
แต่ในแง่ของประเด็นในหนังเรื่องนี้ สิ่งที่คุณได้คิด บางครั้งก็อาจจะมาจากการวางแผน หมายความว่า การที่คุณวางแผนเอาไว้สำหรับอนาคต จะกลายมาเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้จริง

เพราะมันคือการวางแผนสำหรับตัวคุณเองในอนาคต อย่างเช่น หากเซเทอร์วางแผนว่า จะเอานางเอกในปัจจุบัน ส่งต่อให้กับเซเทอร์ในอนาคตที่ย้อนเวลากลับมา นั่นก็เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้จริง เพราะตัวคุณในอนาคตสามารถตอบรับแผนการณ์กับตัวคุณในอดีตได้
การกระทำเช่นนี้ จึงเกี่ยวข้องกับ ทฤษฏีคีมหนีบ คือการบีบล้อมจากตัวตนในโลกปัจจุบัน และอนาคตที่ร่วมมือวางแผนระหว่างกัน (แต่ก็ตัวคุณเองนั่นแหละ)

แต่ถ้าแผนการณ์นั้นไม่เกิดขึ้น ก็คงแปลว่ามีคนขัดขวางแผนการณ์ หรือคงตายไปแล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่าสักวันมันจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ก็ยังมีความคิดของเคทที่อิจฉาผู้หญิงโดดลงน้ำไป และสุดท้ายเคทก็สมปรารถนาในความตั้งใจของตัวเองจนได้
ชื่อสินค้า:   Tenet
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่