ตอนนี้กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้วค่ะ แรกๆ ที่กลับมา พ่อแม่รำคาญเรามากค่ะ เพราะเราเขียนหนังสือไมได้ พิมพ์ไมได้ ้โทร่ฯ ไม่ไ้ด้ ่น้อุงชั่วยทิำแผนทีกวัน ต้องมีคนให้เกาะแขน ซึ่งพวกเขาก็ไม่เต็มใจกันเท่าไร หาว่าไม่ใช่เรื่องของฉัน ตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน (หลังลงจากแท็กซี่) อยู่ห้ารอบ กดกริ่งก็แล้ว อะไรก็แล้ว เราก็ทำได้แค่เกาะรั้วหน้าบ้านต่อไปจนมีหนนึงที่ล้มหน้าบ้านเลยค่ะ ขาสั่นเหมือนคนแก่ๆ เลยค่ะ (คุณพยาบาลถามว่าอยากได้ walker ไหม?)
จะทนสอบความอดทนกันหรือไง เราไม่เล่นเกมนี้ด้วยหรอกนะ
ถามว่าเป็นโรคอะไร ก็คงตอบได้แค่ ติดเชื้อในกระแสเลือด (แต่ถ้าผู้มีความรู้ผ่านมาก็จะดีมากค่ะ)
ก่อนหน้าจะแอดมิด ก็ตรวจเลือดแล้วสามหน อะไรๆ ก็ปกติดี
พอหมอมาตรวจวันแรก หมอเห็นแผลแล้วหัวเราะ บอกว่า โทรตามญาติเหอะ ไม่ต้องแอดมิดแล้ว ... ดีใจมาก
เรารีบจัดของอย่างดี โทรเรียกญาติ .... ยังไงวะ ลืมวิธีใช้โทรศัพท์ไปแล้วง่ะ เลยให้เบอร์พยาบายลช่วยกดจากเครื่องเราให้ที
อาทิตย์แรกที่กลับมา จิตตก ร้องไห้มาก กลัว ไม่มีใครช่วยรับฟังความรู้สึกนั้นเลย เลยต้องไปเสีย 500 ต่อชม. กว่าๆ ให้เค้ารับฟังเราที
เป็นความรู้สึกที่ทั้งเครียดทั้งกลัว
พ่อแม่ก็เกลีนดเราหนักขึ้น เพราะถือว่าไม่ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์ แถมสิ้นเปลืองของกินอีก จะทำอย่างไร
ณ เวลานี้ผ่านไปสามอาทิตย์แล้วค่ะ อาการต่างๆ ดีขึ้นมากๆ นอกจากตกงานเหมือนเดิม
ไปตัดแว่นมาใหม่ด้วยค่ะ ก็ยังต้องเดินเกาะแม่ไป เหมือนคนตาบอด
โดยรวม บ้านอยู่กัน 5 คน แต่เหมือนอยู่คนเดียวค่ะ
ตราบใดถ้ามีเงิน ก็อยู่ได้ ถ้าไม่มีเงินก็โดนไล่ออก
กำลังจะโดนไล่ออกแล้วจากการแบ่งสมบัติครั้งสุดท้าย
จะได้เท่าไรไม่รู้แหละ แต่คงมากพอที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมผู้ช่วย (เผื่อมีอาการพวกนั้นอีก)
เพราะที่ผ่านมาหกล้มหัวฟาดพื้นหลายรอบแล้ว
ขอจบกระทู้แค่นี้ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
ปล.หมอบอกว่าเราเป็น bipolar แบบ mania และมีแนวโน้มการฆ่าตัวตายูสูงมาก
เพิ่งผ่านจากแอดมิดมาสองวัน
จะทนสอบความอดทนกันหรือไง เราไม่เล่นเกมนี้ด้วยหรอกนะ
ถามว่าเป็นโรคอะไร ก็คงตอบได้แค่ ติดเชื้อในกระแสเลือด (แต่ถ้าผู้มีความรู้ผ่านมาก็จะดีมากค่ะ)
ก่อนหน้าจะแอดมิด ก็ตรวจเลือดแล้วสามหน อะไรๆ ก็ปกติดี
พอหมอมาตรวจวันแรก หมอเห็นแผลแล้วหัวเราะ บอกว่า โทรตามญาติเหอะ ไม่ต้องแอดมิดแล้ว ... ดีใจมาก
เรารีบจัดของอย่างดี โทรเรียกญาติ .... ยังไงวะ ลืมวิธีใช้โทรศัพท์ไปแล้วง่ะ เลยให้เบอร์พยาบายลช่วยกดจากเครื่องเราให้ที
อาทิตย์แรกที่กลับมา จิตตก ร้องไห้มาก กลัว ไม่มีใครช่วยรับฟังความรู้สึกนั้นเลย เลยต้องไปเสีย 500 ต่อชม. กว่าๆ ให้เค้ารับฟังเราที
เป็นความรู้สึกที่ทั้งเครียดทั้งกลัว
พ่อแม่ก็เกลีนดเราหนักขึ้น เพราะถือว่าไม่ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์ แถมสิ้นเปลืองของกินอีก จะทำอย่างไร
ณ เวลานี้ผ่านไปสามอาทิตย์แล้วค่ะ อาการต่างๆ ดีขึ้นมากๆ นอกจากตกงานเหมือนเดิม
ไปตัดแว่นมาใหม่ด้วยค่ะ ก็ยังต้องเดินเกาะแม่ไป เหมือนคนตาบอด
โดยรวม บ้านอยู่กัน 5 คน แต่เหมือนอยู่คนเดียวค่ะ
ตราบใดถ้ามีเงิน ก็อยู่ได้ ถ้าไม่มีเงินก็โดนไล่ออก
กำลังจะโดนไล่ออกแล้วจากการแบ่งสมบัติครั้งสุดท้าย
จะได้เท่าไรไม่รู้แหละ แต่คงมากพอที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมผู้ช่วย (เผื่อมีอาการพวกนั้นอีก)
เพราะที่ผ่านมาหกล้มหัวฟาดพื้นหลายรอบแล้ว
ขอจบกระทู้แค่นี้ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
ปล.หมอบอกว่าเราเป็น bipolar แบบ mania และมีแนวโน้มการฆ่าตัวตายูสูงมาก