ม็อบ "นักเรียนเลว" มาแบบเบิ้มๆ วางหรีดหน้า ศธ. ตั้งรูปเหมือน รมต.ห้อยนกหวีด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_4848974
มาแบบเบิ้มๆ ม็อบนักเรียนเลว บุกกระทรวงศึกษาธิการ วางพวงหรีดข้างกำแพง ตั้งรูปเหมือน รมต.ณัฏฐพล ห้อยนกหวีด
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ กลุ่ม "
นักเรียนเลว" พร้อมแนวร่วมเครือข่ายนักเรียนจาก 30 โรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จัดชุมนุมครั้งใหญ่ของเครือข่ายนักเรียน เพื่อทวงสัญญา 3 ข้อเรียกร้อง และ 1 เงื่อนไข ระบุว่า วันนี้มีเซอร์ไพรส์ใหญ่ พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมดีเบตกับรัฐมนตรีศึกษา นำโดย "มิน" ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้น ม.6
บรรยากาศการชุมนุมในวันนี้ มีบรรดาผู้ปกครองมาร่วมให้กำลังใจรวมถึง อั๋ว จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ช่อ พรรณิการ์ วาณิช แกนนำคณะก้าวหน้า แอมมี่ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลง น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย
ทางกลุ่มนักเรียนมีการร้องเพลงล้อเรียนการเมือง สลับการปราศัยบนเวที ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้นำพวงหรีดที่มีข้อความเสียดสีมาวางข้างกำแพงกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ ซาร่าวิดยาไม่เอา [เผล่ะจัง] โรงเรียนชื่อดังย่านปิ่นเกล้าไม่ใช่สลิ่ม เสรโญไม่โอกับ [เผล่ะจัง] สตรีจอมไม่ทน [เผล่ะจัง] มาวางบริเวณกำแพงกระทรวงศึกษาธิการ กว่า 30 พวง
บรรยากาศโดยรอบกลุ่มที่ทำกิจกรรม ได้ตั้งโต๊ะเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เข้าชื่อ ในการแก้รัฐธรรมนูญ ให้ครบ 50,000 รายชื่อเพื่อร่วมรื้อ ร่วมสร้าง ร่วมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นอกจากนี้ยังร่วมกันติดแฮชแท็กการจัดกิจกรรม #หนูรู้หนูมันเลว จนขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์
ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนเลวเคยรวมตัวกันจัดกิจกรรมผูกโบขาว ชูสามนิ้ว และเป่านกหวีดขับไล่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยระบุว่า ไม่สามารถปฏิรูประบบการศึกษาของไทยให้ดีขึ้นได้ มาแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.
กลุ่มนักเรียนได้ประกาศยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ บวก 1 เงื่อนไข ของนักเรียนเลวและแนวร่วม ได้แก่
1. หยุดคุกคามนักเรียน
กระทรวงศึกษาธิการต้องปกป้องนักเรียนจากการถูกคุกคามทั้งจากหน่วยงานภายใน และภายนอกกระทรวง
2. ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง
กระทรวงศึกษาธิการต้องยกเลิกกฎหรือระเบียบของกระทรวงฯ ที่มีเนื้อหาเป็นการกดขี่นักเรียน ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวนักเรียน
3. ปฏิรูปการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการต้องวางแผนปฏิรูประบบการศึกษาทั้งหมด เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อตัวผู้เรียน เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการเข้าไม่ถึงการศึกษา ปัญหาหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพ ปัญหาภาระงานครู ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู ฯลฯ ทั้งนี้ต้องให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการด้วย
และอีก 1 เงื่อนไข คือ "
หากทำไม่ได้ ก็ลาออกไป" หมายความว่า หากกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถดำเนินการข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อข้างต้นได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้ผู้มีความสามารถมากกว่าเข้ามาดำเนินการแทน
ยุทธพงศ์ ชนเรือดำน้ำ! ขุดทีเด็ดมาแฉอีก ลั่น เอาให้จม ฟ้องรูด ตู่-ป้อม-ทัพเรือ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4847777
โจ้ ยุทธพงศ์ จ่อเปิดหลักฐานเด็ด แฉวันซักฟอก! ปัดรัฐบาลจีน เอี่ยวซื้อ แต่เป็นบริษัทจีน เซ็นซื้อแทน ลั่น เรือดำน้ำจมแน่ จ่อฟ้อง ปปช.เอาผิด “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม - บิ๊กบี้”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. แถลงกรณีที่กองทัพเรือ (ทร.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับตนว่าทำให้ ทร.เสียหายนั้น เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็น ตนไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่น ทร.ที่เป็นเหล่าทัพหลัก ตนให้ความเคารพ
แต่สิ่งที่ตนออกมาตรวจสอบในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. และเป็น กมธ.งบประมาณ ตนไม่ได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียง หรือทำให้ ทร.เสียเกียรติภูมิ ขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน ขอให้แยกกัน แต่ตนกำลังตรวจสอบบุคลากรบางคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยเฉพาะ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. และ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการและโฆษก ทร.จึงขอให้แยกออกเป็น 2 ประเด็น
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องตรวจสอบว่าเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจีหรือไม่ ตนเห็นว่าสิ่งที่ ผบ.ทร.และรัฐบาลดำเนินการ ไม่เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเคยตัดสินไว้กรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.ว่า
1. การจัดซื้อแบบจีทูจีต้องเป็นไปตลอดเวลาที่ดำเนินการ ไม่ใช่เริ่มที่จีทูจี เริ่มต้นจากรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน แต่ระหว่างทางเป็น ผบ.ทร.กับเฮียตี๋ที่ไหนไม่รู้มาเซ็นสัญญา ถามว่า ตนกลัวผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ตนไม่กลัวเพราะมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ระบุไว้ชัด
2. การชำระเงินต้องระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วยกัน ไม่ใช่บริษัทหรือองค์กร เรื่องนี้มีแนวทางพิพากษาศาลฎีกาฯ อยู่แล้ว ใครเดินผิดไปจากนี้ถือว่าผิดกฎหมายหมด
3. ตนมีเจตนาบริสุทธิ์ใจ รักษาผลประโยชน์ชาติ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ ผบ.ทร.หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เพราะการจัดซื้อเรือลำแรกเริ่มจากที่ พล.อ.
ประวิตร ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนถามหาหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลหรือฟูลส์ พาวเวอร์ให้มาแสดง 5 รอบแล้ว แต่ ทร.ก็ไม่เคยนำหนังสือดังกล่าวมาแจงเลย แต่กลับไปแจ้งควาเอาผิดตนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ดังนั้นตนต้องพิสูจน์ความจริง ปกป้องงบประมาณแผ่นดิน
ทั้งนี้ ตนคิดว่าเรื่องนี้จบไปแล้ว เพราะ ทร.ถอยยังไม่ซื้ออีก 2 ลำ และทำหนังสือแจ้งประธาน กมธ.งบประมาณว่ายอมถอย เพราะคำนึงถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่ไม่คิดว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน
ดังนั้นตนจึงลุกขึ้นมาต่อสู้ คุณไม่เลิก ตนก็ไม่เลิก พิสูจน์กันว่าใครของจริง ใครของปลอม เพราะ ผบ.ทร.หาเรื่องตนก่อน ไม่ยอมเลิก ตนจึงขอให้มีการตรวจสอบ โดย
1. เรียกร้องให้ผบ.ทร.และ พล.อ.
ประวิตรโชว์หนังสือ ฟูลส์ พาวเวอร์ ซึ่งเป็นการเรียกร้องเป็นรอบที่ 6 แล้ว
2. ในวันที่ 9 ก.ย.ที่มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตาม ม.152 ตนจะเอาหลักฐานเด็ดไปแฉเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก ที่มีหลักฐานว่าบริษัทที่ขายไม่ใช่รัฐบาลจีน ทำให้ลำแรกจมแน่ และจะไม่ได้จ่ายเงินด้วย ที่สำคัญมีหลักฐานชัดว่า บ. China Shipbuilding & Offshore International (csoc) จริงๆ แล้วไม่ใช่รัฐบาลจีน ถ้าตนเปิดหลักฐานรับรองว่า รัฐบาลตกเก้าอี้แน่
3. เมื่อตนเปิดหลักฐานในการอภิปรายดังกล่าวแล้ว ตนจะเอาคืนโดยจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ผบ.ทร.และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องมี พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และพล.อ.
ประวิตรที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย
เพื่อพิสูจน์ว่าการจัดซื้อดังกล่าวเป็นแบบจีทูจีหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนท่านเกษียณขอท้าให้ท่านออกทีวีเดี่ยวๆ กับตนสองคน มาพิสูจน์กันว่าที่ท่านไปเซ็นสัญญานั้นเป็นจีทูจีจริงหรือไม่ ตนพร้อมติดคุกเพราะออกมาต่อสู้พื่อประโยชน์ประเทศและประชาชน แลกกันคนละหมัด
JJNY : ม็อบ"นักเรียนเลว"มาแบบเบิ้มๆ/ยุทธพงศ์ ชนเรือดำน้ำ!/ส.ส.'ปชป.'ชี้ 'รธน.60' ไม่ดีพอ/เอกชนเตือนอย่าหลงกลควบคลัง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_4848974
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ กลุ่ม "นักเรียนเลว" พร้อมแนวร่วมเครือข่ายนักเรียนจาก 30 โรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จัดชุมนุมครั้งใหญ่ของเครือข่ายนักเรียน เพื่อทวงสัญญา 3 ข้อเรียกร้อง และ 1 เงื่อนไข ระบุว่า วันนี้มีเซอร์ไพรส์ใหญ่ พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมดีเบตกับรัฐมนตรีศึกษา นำโดย "มิน" ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้น ม.6
บรรยากาศการชุมนุมในวันนี้ มีบรรดาผู้ปกครองมาร่วมให้กำลังใจรวมถึง อั๋ว จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ช่อ พรรณิการ์ วาณิช แกนนำคณะก้าวหน้า แอมมี่ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลง น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย
ทางกลุ่มนักเรียนมีการร้องเพลงล้อเรียนการเมือง สลับการปราศัยบนเวที ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้นำพวงหรีดที่มีข้อความเสียดสีมาวางข้างกำแพงกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ ซาร่าวิดยาไม่เอา [เผล่ะจัง] โรงเรียนชื่อดังย่านปิ่นเกล้าไม่ใช่สลิ่ม เสรโญไม่โอกับ [เผล่ะจัง] สตรีจอมไม่ทน [เผล่ะจัง] มาวางบริเวณกำแพงกระทรวงศึกษาธิการ กว่า 30 พวง
บรรยากาศโดยรอบกลุ่มที่ทำกิจกรรม ได้ตั้งโต๊ะเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เข้าชื่อ ในการแก้รัฐธรรมนูญ ให้ครบ 50,000 รายชื่อเพื่อร่วมรื้อ ร่วมสร้าง ร่วมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นอกจากนี้ยังร่วมกันติดแฮชแท็กการจัดกิจกรรม #หนูรู้หนูมันเลว จนขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์
ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนเลวเคยรวมตัวกันจัดกิจกรรมผูกโบขาว ชูสามนิ้ว และเป่านกหวีดขับไล่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยระบุว่า ไม่สามารถปฏิรูประบบการศึกษาของไทยให้ดีขึ้นได้ มาแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.
กลุ่มนักเรียนได้ประกาศยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ บวก 1 เงื่อนไข ของนักเรียนเลวและแนวร่วม ได้แก่
1. หยุดคุกคามนักเรียน
กระทรวงศึกษาธิการต้องปกป้องนักเรียนจากการถูกคุกคามทั้งจากหน่วยงานภายใน และภายนอกกระทรวง
2. ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง
กระทรวงศึกษาธิการต้องยกเลิกกฎหรือระเบียบของกระทรวงฯ ที่มีเนื้อหาเป็นการกดขี่นักเรียน ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวนักเรียน
3. ปฏิรูปการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการต้องวางแผนปฏิรูประบบการศึกษาทั้งหมด เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อตัวผู้เรียน เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการเข้าไม่ถึงการศึกษา ปัญหาหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพ ปัญหาภาระงานครู ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู ฯลฯ ทั้งนี้ต้องให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการด้วย
และอีก 1 เงื่อนไข คือ "หากทำไม่ได้ ก็ลาออกไป" หมายความว่า หากกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถดำเนินการข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อข้างต้นได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้ผู้มีความสามารถมากกว่าเข้ามาดำเนินการแทน
ยุทธพงศ์ ชนเรือดำน้ำ! ขุดทีเด็ดมาแฉอีก ลั่น เอาให้จม ฟ้องรูด ตู่-ป้อม-ทัพเรือ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4847777
โจ้ ยุทธพงศ์ จ่อเปิดหลักฐานเด็ด แฉวันซักฟอก! ปัดรัฐบาลจีน เอี่ยวซื้อ แต่เป็นบริษัทจีน เซ็นซื้อแทน ลั่น เรือดำน้ำจมแน่ จ่อฟ้อง ปปช.เอาผิด “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม - บิ๊กบี้”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. แถลงกรณีที่กองทัพเรือ (ทร.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับตนว่าทำให้ ทร.เสียหายนั้น เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็น ตนไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่น ทร.ที่เป็นเหล่าทัพหลัก ตนให้ความเคารพ
แต่สิ่งที่ตนออกมาตรวจสอบในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. และเป็น กมธ.งบประมาณ ตนไม่ได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียง หรือทำให้ ทร.เสียเกียรติภูมิ ขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน ขอให้แยกกัน แต่ตนกำลังตรวจสอบบุคลากรบางคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยเฉพาะ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. และ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการและโฆษก ทร.จึงขอให้แยกออกเป็น 2 ประเด็น
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องตรวจสอบว่าเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจีหรือไม่ ตนเห็นว่าสิ่งที่ ผบ.ทร.และรัฐบาลดำเนินการ ไม่เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเคยตัดสินไว้กรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.ว่า
1. การจัดซื้อแบบจีทูจีต้องเป็นไปตลอดเวลาที่ดำเนินการ ไม่ใช่เริ่มที่จีทูจี เริ่มต้นจากรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน แต่ระหว่างทางเป็น ผบ.ทร.กับเฮียตี๋ที่ไหนไม่รู้มาเซ็นสัญญา ถามว่า ตนกลัวผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ตนไม่กลัวเพราะมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ระบุไว้ชัด
2. การชำระเงินต้องระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วยกัน ไม่ใช่บริษัทหรือองค์กร เรื่องนี้มีแนวทางพิพากษาศาลฎีกาฯ อยู่แล้ว ใครเดินผิดไปจากนี้ถือว่าผิดกฎหมายหมด
3. ตนมีเจตนาบริสุทธิ์ใจ รักษาผลประโยชน์ชาติ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ ผบ.ทร.หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เพราะการจัดซื้อเรือลำแรกเริ่มจากที่ พล.อ.ประวิตร ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนถามหาหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลหรือฟูลส์ พาวเวอร์ให้มาแสดง 5 รอบแล้ว แต่ ทร.ก็ไม่เคยนำหนังสือดังกล่าวมาแจงเลย แต่กลับไปแจ้งควาเอาผิดตนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ดังนั้นตนต้องพิสูจน์ความจริง ปกป้องงบประมาณแผ่นดิน
ทั้งนี้ ตนคิดว่าเรื่องนี้จบไปแล้ว เพราะ ทร.ถอยยังไม่ซื้ออีก 2 ลำ และทำหนังสือแจ้งประธาน กมธ.งบประมาณว่ายอมถอย เพราะคำนึงถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่ไม่คิดว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน
ดังนั้นตนจึงลุกขึ้นมาต่อสู้ คุณไม่เลิก ตนก็ไม่เลิก พิสูจน์กันว่าใครของจริง ใครของปลอม เพราะ ผบ.ทร.หาเรื่องตนก่อน ไม่ยอมเลิก ตนจึงขอให้มีการตรวจสอบ โดย
1. เรียกร้องให้ผบ.ทร.และ พล.อ.ประวิตรโชว์หนังสือ ฟูลส์ พาวเวอร์ ซึ่งเป็นการเรียกร้องเป็นรอบที่ 6 แล้ว
2. ในวันที่ 9 ก.ย.ที่มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตาม ม.152 ตนจะเอาหลักฐานเด็ดไปแฉเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก ที่มีหลักฐานว่าบริษัทที่ขายไม่ใช่รัฐบาลจีน ทำให้ลำแรกจมแน่ และจะไม่ได้จ่ายเงินด้วย ที่สำคัญมีหลักฐานชัดว่า บ. China Shipbuilding & Offshore International (csoc) จริงๆ แล้วไม่ใช่รัฐบาลจีน ถ้าตนเปิดหลักฐานรับรองว่า รัฐบาลตกเก้าอี้แน่
3. เมื่อตนเปิดหลักฐานในการอภิปรายดังกล่าวแล้ว ตนจะเอาคืนโดยจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ผบ.ทร.และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และพล.อ.ประวิตรที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย
เพื่อพิสูจน์ว่าการจัดซื้อดังกล่าวเป็นแบบจีทูจีหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนท่านเกษียณขอท้าให้ท่านออกทีวีเดี่ยวๆ กับตนสองคน มาพิสูจน์กันว่าที่ท่านไปเซ็นสัญญานั้นเป็นจีทูจีจริงหรือไม่ ตนพร้อมติดคุกเพราะออกมาต่อสู้พื่อประโยชน์ประเทศและประชาชน แลกกันคนละหมัด