[ระบายอารมณ์หลังดูจบ] ฉางอัน 12 ชั่วยาม: หลากเรื่องราว หลายชีวิต กับ 1 วันแห่งความทรงจำ

สวัสดีค่ะ ฤกษ์งามยามดี วันนี้มาตั้งกระทู้สักทีดีกว่า
ห่างหายจากการตั้งกระทู้รีวิวไปตั้งแต่ดู wonder woman ภาคแรก ซึ่งก็หลายปีแล้วเนาะ 
คราวนี้ไม่ไหวจะเคลียร์ เพิ่งดูมาราธอนมาสัปดาห์หนึ่งเต็มๆ ในที่สุดก็จบ /me กำมือร้องไห้
ขอมารีวิวเผื่อมีใครอยากลองอ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจ (ยาวค่ะ ไม่เคยเขียนอะไรสั้นเลย ถ้าว่างอยากให้ลองนะคะ 555)
กับเรื่องนี้ "ฉางอัน 12 ชั่วยาม" หรือ "The Longest Day in Chang'an"

-------------------------------

ข้อมูลคร่าวๆ เพื่อเตรียมตัวก่อนดู

ขนาดเรื่อง: ยาวนะจ๊ะ 48 ตอนจบ ตอนละ 40 นาทีโดยเฉลี่ย (และบอกเลย ถ้ามันใช่ทางคุณ คุณจะดูวันละตอนได้ยากมาก)
สามารถดูได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ทาง Momomax 29 มีทั้งซับไทยและพากย์ไทย (เราไม่ได้ค่าโฆษณา แต่กดดูเพราะช่องกระหน่ำยิง ad FB เนี่ยแหละ 55)
หรือยูทูปค่ะคุณ search ไปเลย The Longest Day in Chang'an ไปดูเหอะ อยากให้ mass มาก 
ต้นฉบับ: นิยาย 3 เล่มจบ มีแปลไทยเรียบร้อยแล้ว โดยสนพ. Enter (สั่งซื้อผ่านหน้าเว็บนายอินทร์ได้ค่ะ ตอนนี้ลดราคาอยู่ เราสั่งไปเมื่อวาน) 
แนวเรื่อง: แอคชั่น สืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญ ดราม่า (หนักพอตัวเลยแหละ)
และโรแมนติก (สำหรับคนขี้ชิป รับรองมีให้ชิป) แอบตลกหน่อยๆ (1%)
ตอนจบ: Happy Ending แบบสมเหตุสมผล และสมควรแก่สถานการณ์ค่ะ (แค่...อาจจะไม่สมใจชิปเปอร์แบบอิชั้นพอตัว)

-------------------------------


(เลือกรูปนี้มาใส่ เพราะตัวละครครบถ้วนมาก มีบทกับเนื้อเรื่องทุกตัวด้วย) 

-------------------------------

ว่าด้วยเนื้อเรื่อง

เรื่องมันเริ่มต้นด้วยคำพูดแค่บรรทัดเดียว คือ
"ตามจับคนร้ายที่ลักลอบเข้าเมืองมาก่อความไม่สงบในเมืองฉางอันในวันเทศกาลชมโคมรับปีใหม่" 
และด้วยคำพูดแค่ประโยคเดียวนั่นแหละ มันคือจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการท้าทายสติปัญญาและเดิมพันชีวิตของคนแปลกหน้าจำนวนเป็นร้อยๆ ที่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน เริ่มจากนักโทษประหารที่รอถูกลงโทษ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นวีรบุรุษสงครามจากกองร้อยที่ 8 ซึ่งเหลือรอดจากการปกป้องพรมแดนมาแค่ 9 คน
มาจนถึงว่าที่ขุนนางเลือดใหม่ คนหนุ่มอนาคตไกลจากตระกูลชนชั้นสูงที่ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรักษาความสงบของเมือง ทั้งที่เพิ่งอายุแค่ 23 ปี และสาวใช้ส่วนตัวที่เก่งฉลาดเกินกว่าฐานะของตัวเอง 

ทุกคนมีเวลาแค่ 12 ชั่วยาม หรือ 24 ชั่วโมงที่จะตามล่าตัวผู้ก่อการร้ายที่กระจัดกระจายไปในเมืองเพื่อหยุดแผนการของคนพวกนี้
เท่ากับว่ามันคือแค่ 1 วันเท่านั้น ที่คนแปลกหน้าต้องมาร่วมมือกัน แล้วก็พัฒนาความสัมพันธ์ไปจนกลายเป็นคนสำคัญของกันและกันไปในที่สุด 

ความดีงามในเนื้อเรื่องของเรื่องนี้คือ คนเขียนบทให้รายละเอียดต่างๆ ครบถ้วน ค่อยๆ เผยปม และกำกับจังหวะการดำเนินเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ
โอเค ในรายละเอียดบางช่วงบางตอนมันมีดร็อป มีอืด มีเนือย แต่พอมองภาพรวมคือมันสมบูรณ์มากๆ ทำให้เราลุ้นตามได้ทุกตอน
เหนื่อยในการเอาใจช่วยเวลาพระเอกบู๊ไม่พอ ต้องมาเอาใจช่วยให้พระรองกับนางเอก และตัวประกอบสมทบอื่นๆ ช่วยกันรุกรับจนแก้ปัญหาได้อีก
แล้วที่เยี่ยมไปกว่านั้นคือ เรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายที่ร้ายจริงๆ หรือร้ายจากกมลสันดาน ทุกตัวละครมีเหตุผลที่ฟังขึ้นหมด แถมถ้าคิดตามก็จะแบบ "เออว่ะ"
ถึงการกระทำหลายอย่างมันจะทำเราปวดใจ แต่ถ้าเราลองเป็นตัวละครนั้นดู เราก็อาจจะเลือกไม่ต่างจากเขาก็ได้ค่ะ 

ช่วงแรกๆ ตอนที่ยังไม่เฉลยว่าอะไรเป็นอะไรนี่ เราสารภาพเลยว่าระแวงไปหมด ระแวงทุกคน ระแวงกระทั่งพระเอก นางเอก และพระรองอะ
กลัวจะพลิกกลับไปเป็นคนร้ายเสียเองมากๆ โชคดีที่สามคนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น keep character ตัวเองไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ 
และพอเรื่องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ได้เห็นเหตุผลของอะไรต่างๆ มาเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง องค์ 2 คือกลางเรื่องไปจนต่อช่วงท้ายเรื่อง
ถ้าทุกคนได้ดูอย่างเก็บรายละเอียด และใส่ใจกับคำพูดตัวละคร รับรองเลยว่ามีจุก เพราะสิ่งที่บทเขียนออกมา มันตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาจนปัจจุบัน
ยิ่งจุดที่... ไม่รู้คนเขียนตั้งใจขยี้ไหม ที่พูดเรื่องระบบการปกครองและระบบราชการ เป็นสถานการณ์คลาสสิกที่ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่

ผู้ปกครองมองไม่เห็นประชาชน ขุนนางนำเสนอแต่เรื่องที่สวยงาม ส่วนคนจริงๆ แร้นแค้นอยู่อย่างยากลำบาก โดนเอารัดเอาเปรียบ ถูกหลงลืม
พอมีคนลุกมาต่อสู้ทำเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ก็ถูกเข้าใจผิดไปซะมาก หลายคนแล้วที่ต้องตายไปโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
ซึ่ง... มันไม่ใช่สารหลักของเรื่องก็จริง แต่ประเด็นนี้มันแฝงอยู่ และกลายเป็นตัวขับดันการกระทำหลายอย่างของหลายตัวละคร ที่เจ็บปวดหรือทรมานจากผลกระทบของเรื่องพวกนี้เหมือนกัน แค่อาจจะแตกต่างกันว่าจะเลือกปฏิบัติตอบกลับกับเรื่องพวกนี้อย่างไรเท่านั้นเอง 
จุดนี้นี่แหละ อีกจุดเล็กๆ ที่กระทบใจมาก และทำให้เราชอบซีรีส์เรื่องนี้มากจริงๆ อยากแนะนำทุกคนว่าควรต้องดู

-------------------------------

ว่าด้วยองค์ประกอบต่างๆ 

การดำเนินเรื่อง
เร็ว! บอกได้คำเดียวว่าเร็ว ช่วงองค์แรกหรือประมาณตอนที่ 1-15 อยากส่งยาดมเข้าไปในจอมาก วิ่งกันไม่พักเลยแม่
แล้วไม่ได้แค่วิ่งแนวระนาบสวยๆ นะจ๊ะ วิ่งมันทั้ง 3 แนวเลย คือ แนวกว้าง แนวยาว แนวสูง
พระเอกทำงานหนักมากค่ะ แบกฉากแอคชั่นกว่า 95% ของเรื่องไว้คนเดียว
(แถมนักแสดงที่รับบทก็เล่นฉากสตั๊นเองกว่า 95% จากทั้งหมดเลยด้วย เล่นไม่เกรงใจครอบครัวเลย ลูกก็ยังเล็ก
ทุ่มเทขนาดเข้ารพ.ไปแล้ว 4 รอบตลอดการถ่ายทำ จนชาวเน็ตจีนแซวกันว่าเป็น Assassin Creed of Chang'an ไปแล้ว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรียกว่าเรื่องนี้ให้เราเห็นทุกอย่างจริงๆ
โดยที่ในทุกความวุ่นวาย ชุลมุน ล้มลุกคลุกคลาน สะบักสะบอม วิ่งไล่ตามและถูกตามไล่ล่า มีพระเอกเป็นคนพาเราไปเจอค่ะ
เตรียมรับเลย ตั้งแต่ตอน 1 จนตอนที่ 48 อะค่ะ ไปให้สุดแล้วหยุดที่ตอนจบทีเดียว
(กดดู MV ประกอบบรรยากาศในเรื่องจ้ะ สวยงามอลังการ และวุ่นวายวินาศสันตะโรครบในเรื่องเดียว วันเดียวด้วย) 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ดนตรีประกอบ
อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว เพลงโบราณที่ร้องหรือบรรเลงในเรื่อง เข้ากับบรรยากาศและเพราะมากทุกเพลง 
โดยเฉพาะเพลงขลุ่ยที่เล่นในงานเทศกาล มันทั้งสวย เศร้า ซึ้ง และงดงามในเวลาเดียวกัน ประทับใจมาก
และเพลงประกอบที่เป็นเสียงร้องโดยดัดแปลงทำนองเป็นร็อคร่วมสมัยที่จะได้ฟังกันตอนจบของตอน 48 โคตรมันส์ บอกได้แค่นี้ ไปหาฟังนะ

เครื่องแต่งกาย เมคอัพ อุปกรณ์ประกอบฉาก
โอ้โห ไม่รู้จะชมยังไง รายละเอียดเนี๊ยบนะ ถึงเราไม่เชี่ยวประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังนัก แต่เท่าที่เคยได้รู้มา สมัยนี้นี่อู้ฟู่ ศิลปวัฒนธรรมต่างๆ เฟื่องฟู
ยิ่งเมืองฉางอันที่มีสถานะเหมือนเมืองหลวงกลายๆ ในบรรยากาศงานเทศกาลนี่ไปกันใหญ่ คนแต่งตัวกันสวยหล่อกันหมดเลย 
โดยเฉพาะเมคอัพของสาวๆ มันแปลกตาสำหรับเรานะ แต่พอมองแล้ว เออ เวลาแต่งกันจัดเต็มขึ้นมานี่ก็สวยสะกดตาจริงๆ 


(แปะภาพประกอบการแต่งเต็มของแม่หญิงต้าถังแห่งฉางอัน และภาพนี้ คือ ตอนที่นางเอกปลอมตัวไปช่วยพระเอก
เห็นแค่นี้อาจจะคิดว่างิ้ว หน้าวอกเหมือนนางละครในบ้านเรา แต่บอกเลยค่ะว่าถ้าได้ดูไปเรื่อยๆ จะเข้าใจว่าทำไมพระเอกเสียจริตไปช่วงนึง
และเดี๋ยวเราจะไปเม้าเต็มๆ ในย่อหน้าแยก เหอๆ)

พวกฉากต่างๆ ก็ทำได้ดีนะคะ ได้ข่าวว่าทีมงานลงทุนเซ็ตอัพเมืองนี้ขึ้นมากันเลย หมดไปหลายล้านหยวน 
ทำพวกอาคารต่างๆ ออกมามีรายละเอียดดีมาก สวยงาม ดูแล้วเป็นนครที่น่าไปเที่ยวชมมาก หากมีวาร์ปให้ไปได้ก็อยากไปนะ 
(ไม่ได้อยากไปในเมืองฉางอัน แต่จะไปในที่ที่นายกองจางไปอยู่ตอนจบเรื่องอะค่ะ จะไปขอลายเซ็นในฐานะติ่ง 5555) 

-------------------------------

ตัวละคร

คุณคะ นี่คือเรื่องที่ใช้ตัวละครได้คุ้มค่ามากๆ ทั้งในฐานะผู้ร่วมผลักดันเนื้อเรื่องไปข้างหน้า และในฐานะตัวแทนของปุถุชนธรรมดาๆ คนนึงที่มีรัก โลภ โกรธ หลง มีความทรงจำที่ดีและมีบาดแผลกับตัวเอง 

ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักที่มีแอร์ไทม์มากกว่าคนอื่นหลายเท่า ตัวประกอบดีเด่น หรือตัวประกอบรับเชิญ ทุกคนมีซีนที่น่าจดจำนะคะ
และคนเขียนบทกระจายน้ำหนักเฉลี่ยกันได้ดีมากๆ ทำให้จดจำได้ว่าส่วนใหญ่ออกมากันตอนไหน ซีนไหน เป็นใคร ทำอะไรมา
เรียกว่ามี backup story ของแต่ละคนมาด้วยกันหมดอะ ยิ่งไปเสริมย่อหน้าบนสุดนั้นของเราได้อีกว่า ทุกคนมีเหตุผลที่เป็นแรงขับของตัวเองจริงๆ 

ซึ่งในบรรดาตัวละครทั้งหมด เชื่อไหมว่าตัวละครที่ทำเราอินไปกับความรู้สึกและเรื่องของเขาได้ที่สุดจนร้องไห้ตามกลับไม่ใช่ตัวเอก
แต่เป็นตัวประกอบที่โผล่ออกมาในฐานะตัวร้ายหลักของเรื่องอย่าง หลงโป หรือ เสี่ยวกุ้ย ค่ะ 
ต้องลองไปดูเอง อาจจะสะเทือนใจได้แบบเราก็ได้นะ (แอบใส่สปอยที่มาของหลงโปไว้แล้วนะคะ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-------------------------------

เนื้อหาเกิน เดี๋ยวต่ออีกคอมเม้นแยกเลย อีกหัวข้อมันต้องเม้า อดไม่ได้จริงๆ 
เพี้ยนหัวเราะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่