เรื่องสั้น หน้ากากนักบุญ

เรื่อง             หน้ากากนักบุญ
................................................................................................................................................................

เรื่องสั้น
            “ดูคุณก้องนั่นสิเธอ เขาเอาของมาแจกอีกแล้วนะ” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังซุบซิบนินทาอยู่กับผู้หญิงอีกคนไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงที่ทั้งสองนินทา มีผู้ชายผิมขาวตัวไม่สูงมาก กำลังยกของลงมาวางที่โต๊ะ โดยมีเหล่า อสร (อาสาสมัคร)มาร่วมกันจัดของเพื่อบริจาค

            “ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยังใจบุญอีกต่างหาก” หญิงสาวคนที่พูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะคุณก้อง เป็นผู้ชายในฝันของใครหลายต่อหลายคน เป็นสามีแห่งชาติก็ว่าได้  เพราผู้หญิงหลายคนเก็บเอาไปนอนฝันหวาน

            “ฉันได้ข่าวว่า เขาหาเงิน สิ่งของมาแจกจ่ายให้กับคนที่เดือดร้อนโควิด19 โอ๊ยยยยยยยยยยย  พ่อเทพพระบุตรของแท้ที่แท้ทรู” หญิงสาวเอ่ยพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม้จะมีแมสปิดบังอำพลางเอาไว้ก็ตาม

            ไม่นาน บริเวณตรงนั้นก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดือดร้อน ทยอยกันมารับของบริจาคที่เจ้าหน้าที่หลายต่อหลายคนจัดเว้นช่วงระยะห่างในการดูแลประชาชน ไม่ให้เข้าแถวประชิดติดตัวกันเกินไป

            “เข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยนะครับทุกคน ไม่ต้องกังวล เรามีของมาแจกจ่ายให้ครบทุกคนแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้” เสียงของคุณก้อง ผู้ชายปากแดงผิวขาวเอ่ยขึ้น ประชาชนหลายคนทยอยกันมาต่อแถวเพื่อรอรับสิ่งของบริจาคเป็นจำนวนมาก สาวๆโรงงานที่ได้รับความเดือดร้อน ต่างก็มายืนรอบางคนถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนเพ้อฝันที่เจอผู้ชาย บางคนถึงกับเดินสะดุดก็มี

            เป็นอันว่ากว่าจะแจกจ่ายสิ่งของบริจาคให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมงเศษถึงจำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
            
            
            ณ บริษัทแห่งหนึ่ง  ก้องเดินเข้าไป สายตาของสาวๆพนักงานที่มาทำงานต่างมองชายหนุ่ม แม้จะมีแมสปิดบังอำพลางใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเอาไว้ก็ตาม แต่นั้นก็ไม่ทำให้ความหล่อของเขาถูกกลืนหายไป

            “นัดคุณนันท์ไว้หรือเปล่าคะ” เสียงเลขาสาวเอ่ยถาม เมื่อเห็นบุรุษตรงหน้ามายืน

            “นุช ถ้าคุณก้องมา ให้เข้ามาได้เลยนะ” เสียงปลายสายบอกมาตามสาย เธอพยักหน้า ก่อนจะเดินนำหน้าเขาพร้อมกับเปิดประตูเข้าไป

            “สวัสดีครับน้องนันท์” คนพูดดูจะสนิทสนมเป็นกันเองกับคนตรงหน้าอย่างมาก เพราะหญิงสาวยิ้มแย้มเมื่อพบชายหนุ่ม

            “มีอะไรให้นันท์ช่วยอีกละคะพี่ชาย ถึงเทียวมาหาถึงที่” หญิงสาวสัพยอก

            “นิดๆหน่อยนะครับน้องนันท์  พอดี พี่อยากหาสปอนเซอร์ ช่วยเหลือสิ่งของบริจาค คนในชุมชนเขตพื้นที่ของพี่และโดยรอบน่ะครับ”  เขาเอ่ยออกไปตรงๆ ด้วยบุคลิกที่น่าเชื่อถือของชายหนุ่ม บอกรายละเอียดสิ่งที่เขาต้องการออกไ ป  คนฟังพลางมองหน้าด้วยความเข้าใจ

            “นันท์เข้าใจค่ะพี่ นันท์อยากเข้าร่วมบริจาคด้วย” หญิงสาวบอก

            “แล้วน้องนันท์ พอจะมีผู้ใหญ่ใจดี ร่วมด้วยไหมครับ” เขาเอ่ยออกไป 
นันทา หรือ นันท์ ครุ่นคิดอยู่ครู่

            “ก็พอมีค่ะพี่  โครงการดีๆแบบนี้ นันท์ช่วยเต็มที่เลยนะคะพี่ก้อง”

            “พี่ขออนุโมทนาด้วยนะครับน้องนันท์  ช่วยคนได้บุญเยอะครับ อย่างน้อยๆช่วยกันในยามเดือดร้อนเช่นนี้ เป็นผลบุญอันประเสริฐสุดครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเรียบๆ ด้วยสีหน้าแววตาเปรี่ยมบุญกุศล

            เป็นเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ที่สปอนเซอร์จากคนใจดี ขนข้าวของมาร่วมบริจาคกันมากมาย ด้วยการบอกต่อๆกัน นั่นทำให้สิ่งของถูกนำมาจัดเรียงเอาไว้เป็นชุดๆเพื่อรอบริจาคมากมาย

นักข่าวหลายสำนักที่รุมล้อมผู้ชายผิวขาวปากแดง จนต้องโดนเจ้าหน้าที่เข้ามาแยกให้อยู่ห่างกันตามนโยบายของรัฐบาล นักข่าวยื่นจอไมค์ไปที่ผู้ชาย ที่เพิ่งจะร่วมกับอาสามาแจกของ

            “คุณก้องมีความเห็นอย่างไรกับสถานการณ์โควิดตอนนี้คะ”

นักข่าวยื่นจ่อไมค์คนแรกด้วยความห่างที่พอจะทำได้มากสุดตอนนี้

            “เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา คนไทยอย่างไรก็ไม่ควรทิ้งกันนะครับ”

            “แบบนี้จะเป็นการสร้างภาพหรือเปล่าคะ” 
 
ก้องนิ่งไปครู่เมื่อเจอคำถามนี่ขึ้นมา ทำให้เขาต้องตั้งสติรับมือ

            “คือมีชาวเน็ต ในโซเชี่ยล หลายหลาย ที่ต่างออกมาติ ว่า ทำแบบนี้หวังสร้างภาพคนดีให้ประชาชนหรือเปล่า หรือ.....คราวหน้าเป็นหาเสียงเอาไว้ก่อนหรือเปล่า” นักข่าวถามรัวๆจนคนถูกสัมภาษณ์หน้าซีดลงไป

            “อย่าเรียกว่าสร้างภาพเลยครับ เพราะเราเป็นคนไทย เดือดร้อนเราก็ต้องช่วยกันจริงมั้ยครับ”

คนถูกถามยิ้มแย้ม ตอบคำถามอย่างชัดถ้อยชัดคำ เมื่อเจอคำถามที่ถามมาแบบนั้น

            เขาใช้เวลาในการตอบคำถามไม่นาน เพราะจะต้องมีงานอื่นๆที่อาสาไปช่วยคนในพื้นที่ต่างอีกมาก จึงต้องขอตัวกลับไปก่อน
ณ สลัมแห่งหนึ่ง รถของผู้ใจบุญและหน่วยงานต่างเข้ามาตั้งโต๊ะแจกจ่ายสิ่งของอุปโภค  ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่างก็เข้ามาต่อแถว โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือให้เว้นระยะห่าง รถของเจ้าหน้าที่นำหน้ามาจอด พร้อมกับ หนุ่มปากแดงผิวขาวที่หลายคนรู้จักเดินลงมา ด้วยสีผิวที่ออร่าสะดุดตา ทำให้ใครต่อหลายคนต่างจับจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน

            “คุณก้องมาแล้ว คุณก้องมาแล้ว”  เสียงของหญิงสูงวัยคนหนึ่งตะโกนบอกเสียงดังทำให้ใครหลายคนต่างชะโงกหน้าไปมองด้วยความอยากรู้

            “เมื่อกี้นักข่าวถามว่า คุณก้องสร้างภาพหรือเปล่า ไม่รู้มันใช้อะไรคิดคำถาม” คนพูดดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ที่นักข่าวไปถามแบบนั้น

            “เอ่อ ก่อนฉันจะออกมาก็เปิดทีวีดู  มันใช้อะไรคิดวะ คนเดือดร้อน เขาอุส่าห์มีน้ำใจมาช่วยเหลือ พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” หญิงสาวคู่สนทนาบ่นด้วยความไม่พอใจนักข่าว

            “คุณก้องนะเขาเป็นคนดี  เอาของมาช่วยพวกเราและคนอื่นๆ คนเราไม่เห็นต้องสร้างภาพเลย ว่ามั้ยแก” หญิงสาวหันมองเพื่อนที่ฟังเธอพูดอยู่ อีกคนพยักหน้ารับ

            “ก็จริง ดูอย่างบางคนซี่ ปากบอกว่าจะช่วยเหลือ แต่เราไม่เห็นหัวเล้ย” ผู้หญิงสองคนนั้น บ่นกันต่อไป ก่อนที่จะเดินแถวกันไปรับสิ่งของที่นำมาบริจาค 

            “คุณก้องเขาใจบุญจริงๆนะแก คนอะไรหล่อแล้วนิสัยยังดี จิตใจประเสริฐอีกต่างหาก”

            “แต่ก็ยังมีพวก ชาวเน็ตหลายคนที่กระแหนะกระแหนเขาอยู่นะแก ว่าสร้างภาพ”

            “สร้างภาพตรงไหนวะ เขาออกมาช่วยเหลือประชาชนอยู่ตลอด ดีกว่าพวกเกรียนคีย์บอร์ด ที่วันๆเอาแต่ด่าชาวบ้านละวะ” ทั้งสองต่างนินทากันสนุกปากเกี่ยวกับเรื่องนี้

            เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ต่างเข้ามาดูแลให้ประชาชนที่ต่อแถวอยู่เว้นระยะห่างกัน ทุกคนที่มาที่นี่ ต่างเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ภาพของการต่อแถวและมารับของบริจาคอย่างเป็นระเบียบ ถูกนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะชนคนไทยทั้งประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ เฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์ สังคมออนไลน์ภาพถูกนำไปเผยแพร่อย่างรวดเร็ว มีหลายคนเข้ามาชื่นชมความดีของคนที่บริจาค เพราะอย่างน้อยก็ต่อชีวิตคนเหล่านั้นได้ไปอีกหนึ่งวัน
            ภายหลังที่คนทยอยกลับไปหมดแล้ว มีหญิงชราคนหนึ่งเดิน งกๆเงิ่นๆเข้ามา แต่สิ่งของบริจาคหมดเกลี้ยงไปนานแล้ว หญิงชราจึงไม่ได้รับของบริจาค แกเดินกลับไปอย่างคนหมดหวัง เพราะกว่าแกจะเดินมาก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง ของจึงไม่ถึงมือแก

            เป็นภาพที่รู้สึกว่าหดหู่มาก แต่มันไม่ได้ถูกนำเสนอไป  เพียงเพราะทุกคนกลับกันไปหมดแล้วนั่นเอง
ทีมงานอาสาทยอยกันกลับไปหลังจากงานเลิก มุมหนึ่งที่รถขนาดใหญ่ เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดคุยกับพนักงานว่า 

            “ของที่ส่งมาใหม่ ให้เอาไปรวมกับที่จะแจกรอบหน้าหรือเปล่าครับ” 

เสียงคนฟังเงียบไปซักครู่ก่อนจะเอ่ยว่า 

            “ไม่ต้องๆ เอาไปเก็บในโกดังของบริษัทเราแทน”

            “อ้าว!!  ทำไมล่ะครับ”

            “ผมสั่งอย่างไง ก็ทำตามสิครับ” 

พนักงานหนุ่มคนนั้นเกาหัวแบบงงๆ เพราะสิ่งของที่ได้มาเต็มรถคันใหญ่ เป็นของที่สปอนเซอร์นำมาบริจาค แต่ทำไมต้องนำไปแยกกันเก็บคนละที่ แต่เขาไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้ เพราะต้องทำตามหน้าที่ และคำสั่งของเจ้านาย

            “ของมาแล้วนะครับเฮีย เดี๋ยวผมให้คนทยอยไปส่ง รับรอง ผมขายเฮียราคาถูกแน่นอน ลด 40เปอร์เซนเลยครับ ไม่ต้องห่วง   ของดีมีคุณภาพแน่นอนครับ”  เสียงของผู้ชายเมื่อครู่ที่ออกคำสั่ง เอ่ยกับปลายสายทางโทรศัพท์ ก่อนจะวางสายลงไป มันเป็นการติดต่อธุรกิจบางอย่าง

            “คุณก้องคะ  มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ค่ะเกี่ยวกับการบริจาคช่วยเหลือผู้ยากไร้ค่ะ” พนักงานสาวเอ่ย เขาส่งยิ้ม และเดินตามไป โดยที่สลัดคราบนักธุรกิจทิ้งอย่างสิ้นเชิง

จบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่