สวัสดีครับผมน้าเบิร์ด BirdEyeView ช่างภาพงานแต่งงานประสบการณ์ 15ปี และเป็น Expert Member ด้านการถ่ายรูปงานแต่งงานสำหรับเว็บพันทิปนี้ครับ


วันนี้จะมาชวนคุยเรื่อง Photo booth งานแต่ง ว่าในยุคสมัยนี้ทำไมในแต่งงานเรายังเห็นมีโฟโต้บูธเหล่านี้อยู่ แล้วมันเหมือนกับตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ที่เราเคยถ่ายกันตอนวัยรุ่นหรือเปล่านะ?

โดยปกติแล้วทีมผมเองจะเป็นงานถ่ายรูปและวิดีโอในงานแต่งงานเป็นหลัก แต่สังเกตว่าช่วงไม่กี่ปีหลังนี้มีบ่าวสาวที่แต่งงานนิยมเอา photobooth มาตั้งในงานแต่งงาน โดยแต่ละทีมก็จะมีหลากหลายรูปแบบกันไป ในกระทู้นี้จะพูดถึง Photobooth 3 Actions  โดยแบ่งเป็นรายละเอียดคร่าวๆดังนี้

1.ถ่ายรูปด้วย Ipad มาแบบตัวเดียว
2.ถ่ายรูปด้วยกล้อง dslr ต่อระบบผ่านจอและคอมพิวเตอร์เห็นระบบกันแบบเปลือยๆ
3.ถ่ายรูปด้วยกล้อง dslr ซ่อนกล้องและระบบต่างๆ อยู่ภายในตู้สวยงาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่ผมทำจะเป็นตามแบบที่ 3.ถ่ายรูปด้วยกล้อง dslr ซ่อนกล้องและระบบต่างๆ อยู่ภายในตู้สวยงาม เพราะเห็นมาทุกแบบแล้วพบว่าแขกภายในงานแต่งงานจะชอบ photo booth งานแต่งงานแนวแบบนี้มากที่สุด รูปตัวอย่าง

ก่อนจะไปแจกแจงว่าแต่ละอย่างมีความต่างกันอย่างไร มาถึงคำถามที่ตามหัวกระทู้ก่อนว่า Photo booth งานแต่งงานดียังไง? ทำไมงานไหนก็มี? หลังจากที่ได้มีประสบการณ์ทั้งอยู่ในงานแต่งงานและเป็นเจ้าของแบรนด์โฟโต้บูธเองด้วยเพราะต้องการสร้างความสะดวกให้กับบ่าวสาวโดยการมีบริการที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายรูปในงานแต่งงานให้มากที่สุด ขอบอกเลยว่าข้อดีของ Photobooth งานแต่งงานก็คือ

1.ประหยัดค่าใช้จ่าย..หลายคนอาจงงว่าทำไมการเสียเงินจ้างโฟโต้บูธแล้วจึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ นั่นเป็นเพราะว่าในงานแต่งงานที่บ่าวสาวจะมองหาโฟโต้บูธนั้นมักจะเป็นงานแต่งงานที่มีพื้นที่หน้างานเหลือ บ่าวสาวหลายคู่จึงเลือกที่ลงโฟโต้บูธในงานแต่งงานแทนที่จะตกแต่งแกลอรี่ในส่วนนั้นเพิ่ม เนื่องจากค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับแกลอรี่แล้ว ตัวโฟโต้บูธเองถ้าไม่ได้เลือกเจ้าที่แพงเกินไป ราคาเทียบแล้วจะย่อมเยาว์กว่าฉากแกลอรี่แบบต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่างพื้นที่หน้างานเหลือ บ่าวสาวจึงเลือกที่จะลงโฟโต้บูธในงาน

2.กิจกรรมแก้เบื่อ..แขกในงานแต่งงานหลายท่านมักมาก่อนเวลา แต่กว่าพิธีการบนเวทีจะเริ่มบางครั้งต้องมารออยู่ในบริเวณงานนานนับ 1-2ชั่วโมง(แถมบางงานยังไม่มีเก้าอี้ให้นั่งอีกต่างหาก) คุยกันจนหมดเรื่องคุยแล้ว การที่มี Photo booth งานแต่งงานให้แขกนั้นช่วยสร้างความเพลิดเพลินได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเพื่อนๆบางกลุ่มนานๆทีจะได้เจอกัน นอกจากได้คุยกันแล้วยังได้ชวนกันไปถ่ายรูปด้วยกันอีกด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่างการชวนกันมาถ่ายรูปที่ Photobooth งานแต่งงาน


3.สร้างการมีส่วนร่วม.. การสร้างการมีส่วนร่วมของแขกในงานกับงานแต่งงานของบ่าวสาว เพราะถ้าเราใช้โฟโต้บูธที่สามารถดาวน์โหลดรูปลงมือถือได้ทันที แขกในงานก็มักจะเอาไปโพสในโซเชี่ยลมีเดียผ่านแฮชแท็กต่างๆที่บ่าวสาวนำไปใส่อยู่ในเทมเพลต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่างการใส่แฮชแท็กเพิ่มการ Engage ของแขกในงานแต่งงานของบ่าวสาว


4.ไม่เป็นทางการ..จุดสำคัญอย่างนึงเลยสำหรับ Photobooth ในงานแต่งงานก็คือการทำให้เป็น Gadget ในงานแต่งงาน เหมือนเป็นของเล่น เพราะแขกทุกคนก็จะมีรูปที่ถ่ายกับบ่าวสาวที่เป็นรูปแบบเป็นทางการอยู่แล้ว แต่รูปในโฟโต้บูธก็จะเป็นรูปอีกแบบนึง เป็นอีกฟีลลิ่งนึงเลย แต่ในส่วนนี้ก็จะทำได้เฉพาะบางทีม โดยหากเป็นทีมเป็นที่ตามข้อ 2.ด้านบน(กล้อง Dslr ต่อวงจรเปลือยๆ) บางทีแขกยังเขินๆอยู่ เพราะยังเหมือนมีช่างภาพมาถ่ายรูปให้ แต่ถ้ามาเป็นตู้แบบสวยงาม เหมือนเป็นตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติ แบบนี้แขกจะถ่ายกันเต็มที่ โพสท่ากันสุดๆไปเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูปแบบไม่เป็นทางการ สร้างสีสันในงานแต่งงานให้พิเศษยิ่งขึ้น


นอกจากนั้นสิ่งที่บ่าวสาวใช้ประกอบการพิจารณาในการเลือกใช้ Photobooth งานแต่งงานในแต่ละเจ้า มีคำแนะนำดังนี้

- คุณภาพรูปที่ได้รับ แน่นอนว่าการถ่ายด้วยกล้อง Dslr ย่อมดีกว่าการถ่ายด้วย Ipad แน่นอน
- โฟโต้บูธที่เป็นทีมถ่ายรูปด้วย มักจะจัดไฟ จัดแสงได้ดีกว่า หน้าคนเข้ามาถ่ายก็ใสฟรุ้งฟริ้งกว่า
- มีพร็อบเยอะ ยิ่งหลากหลาย แขกยิ่งชอบ
- ฉากถ่ายรูปมีหลากหลายสี
- ออกแบบเทมเพลตให้
- ถ่ายด้วยตู้อัตโนมัติ ให้อารมณ์เหมือนตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ แขกยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก

ซึ่งตามข้อสุดท้ายด้านบนก็ตอบคำถามหัวกระทู้ที่ว่า Photobooth งานแต่งงาน เหมือนตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์หรือเปล่า?

ตามที่เห็นมาคือยิ่งทีมไหนทำประสบการณ์ให้เหมือนตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ได้แขกก็จะชอบมาก ถ้าทีมไหนยังดูเหมือนยกกล้องยกคอมมาต่อวงจรหน้างาน แขกก็ยังจะเกร็งๆ แม้จะดูโปรดีเหมือนมีช่างมาถ่ายให้ แต่ก็จะดูไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแบบที่แขกชอบที่สุดคือ แบบที่แขกสามารถโพสท่าได้โดยไม่ต้องมีช่างภาพมอง แต่เป็นคนโพสท่ามองตัวเองเห็นในจอของตู้ถ่ายรูป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เผื่ออ่านแล้วงง ก็คือว่าตอนแขกโพสท่าถ่ายรูป จะเห็นมองเห็นตัวเองผ่านจอใต้ไฟวงกลมสีขาวนี้ไปด้วย ยิ่งถ่ายเลยยิ่งสนุก


อีกสิ่งหนึ่งที่บ่าวสาวต้องพิจารณาก็คือ หลังจากแขกถ่ายรูปเสร็จแล้ว แขกสามารถโหลดรูปลงโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่? โดยแบ่งเป็น 3แบบ 

1.ได้แต่กระดาษอย่างเดียว ไม่สามารถโหลดรูปลงได้
2.โหลดรูปลงโทรศัพท์มือถือ ผ่านลิ้งค์อัลบั้มรวมของโฟโต้บูธ
3.โหลดรูปลงโทรศัพท์มือถือได้แบบรูปต่อรูปเลย ( QR Code แยกรูปต่อรูป)

แบบที่ 2,3 ความต่างกันก็คือ ความสะดวกในการโหลดรูปลงโทรศัพท์มือถือของแขกนั่นเอง โดยถ้าเป็นแบบ ข้อ2. แขกทุกคนจะต้องไปดาวน์โหลดรูปจากลิ้งค์เดียวกันทั้งหมดในงาน ความปวดหัวก็คือในทุกงาน ก็จะมีรูปนับร้อยๆรูป เมื่อแขกกดเข้าไปลิ้งค์ไปแล้วมักจะหารูปตนเองไม่เจอ ยิ่งโดยเฉพาะเป็นคนมีอายุก็คือจบเลย มักจะยอมแพ้เสียก่อน เพราะใช้สายตาเพ่งหารูปไม่ไหว

แต่ถ้าเป็นแบบ ข้อ.3 คือโหลดรูปลงโทรศัพท์มือถือได้เลยแบบรูปต่อรูป แบบนี้จะสะดวกต่อแขกมากกว่าเพราะสามารถสแกน Qr เฉพาะรูปของตนเอง เรียกว่าสแกนเสร็จแล้วก็เจอรูปเลย ไม่เสียเวลาหารูปให้เมื่อยตา

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อบ่าวสาวที่กำลังจะแต่งงาน แล้วกำลังเล็ง Photo booth งานแต่งไว้ในงานของตนเอง ผมทำการบ้านไว้ให้แล้ว ชอบเจ้าไหนก็เลือกได้ตามต้องการเลยครับ

น้าเบิร์ด BirdEyeView
www.birdeyeviewphoto.com

รูปตัวอย่างโฟโต้บูธ ทั้งงานแต่งงานและอีเว้นท์จาก Snappy box photobooth
https://www.snappybox.net/photobooth-3-actions