หรือรัฐบาลเยอรมันจะเป็นเผด็จการ
https://mgronline.com/around/detail/9630000088795
รอยเตอร์ - ตำรวจเบอร์ลินเข้าสลายการชุมนุมใหญ่ ต่อต้านข้อกำหนดอันเข้มงวดสำหรับสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) เมื่อวันเสาร์(29ส.ค.) และจับกุมผู้ประท้วงในเมืองหลวงของเยอรมนี ไป 300 คน หลังจากพวกผู้ประท้วงไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม
สื่อมวลชนรายงานว่ามีผู้ชุมนุม 38,000 คนรวมตัวกันสำหรับจัดกิจกรรมประท้วงทั่วเมืองในครั้งนี้ และตำรวจรายงานพบเห็นเหตุความไม่สงบในบางจุดในยุโรป เริ่มพบเห็นประชาชนรู้สึกผิดหวังต่อมาตรการเข้มงวดสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยนอกเหนือจากในกรุงเบอร์ลินแล้ว ยังเกิดการชุมนุมประท้วงแบบเดียวกัน ทั้งในปารีส, ลอนดอนและที่อื่นๆ รวมถึงเวียนนาและซูริค ในวันเสาร์ (29ส.ค.) ที่ผ่านมา
เบอร์ลิน
"โชคไม่ดีที่เราไม่มีทางเลือกอื่น" ตำรวจเบอร์ลินระบุในทวิตเตอร์ พร้อมชี้ว่าพวกที่เข้าร่วมประท้วงไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยต่างๆที่กำหนดไว้สำหรับการชุมนุม ณ จุดประท้วงหนึ่งใกล้กับประตูประตูบรันเดินบวร์ก ผู้คนหลายพันยังคงรวมตัวประท้วงแม้เริ่มเข้าสู่ช่วงค่ำ บางส่วนขว้างปาก้อนหินและขวดเข้าใส่ตำรวจ ต่อมาทาง อันเดรียว ไกเซิล รัฐมนตรีมหาดไทยของเบอร์ลิน เผยว่าตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงราว 200 คนและให้คำกัดความคนกลุ่มนี้ว่าเป็นพวก "หัวรุนแรง" พร้อมบอกต่อว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย
ไกเซิล ระบุว่าในบริเวณใกล้เคียง การประท้วงอีกจุดซึ่งมีผู้เข้าร่วมราวๆ 30,000 คน คาดหมายว่าจะเดินหน้าต่อไปจนถึงเวลา 21.00น.(ตามเวลาท้องถิ่น) สืบเนื่องจากพวกผู้ประท้วงให้ความเคารพต่อกฎระเบียบเว้นระยะห่างทางสังคม
เบอร์ลิน
ตำรวจเผยว่าได้ประจำการเจ้าหน้าที่ราว 3,000 นายเพื่อควบคุมฝูงชน และได้เตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่การประท้วงจะเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง ในขณะที่บรรดานักเคลื่อนไหวเร่งเร้าผู้ติดตามบนสื่อสังคมออนไลน์ทั่วยุโรป ให้ติดอาวุธตนเองและรวมตัวในเบอร์ลิน เบื้องต้น เบอร์ลิน ห้ามการชุมนุม แต่เมื่อคืนวันศุกร์(28ส.ค.) ศาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งของเยอรมนี อนุมัติขั้นท้ายสุดให้เดินหน้าการชุมนุมได้ ผ่านการกลับคำตัดสินก่อนหน้านี้
จนกระทั่งตอนนี้ เยอรมนีจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ได้ดีกว่าหลายประเทศในยุโรป โดยการตรวจโรคอันเข้มข้นช่วยชะลอตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ซึ่งจนถึงตอนนี้ในเยอรมนีมีผู้เสียชีวิตแค่ราวๆ 9,000 คน จากผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 240,000 คน
ลอนดอน
อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆส่วนใหญ่ของโลก
เมื่อวันศุกร์(28ส.ค.) นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องพลเมืองอย่าการ์ดตกในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 "นี่คือเรื่องร้ายแรง มันร้ายแรงอย่างที่เคยเป็นมา และคุณจำเป็นต้องใส่ใจมันอย่างจริงจัง" พวกผู้ประท้วงรวมตัวกันหน้าประตูบรันเดินบวร์ก เดินหน้าการชุมนุมด้วยการชูป้ายที่มีข้อความว่า "หยุดโกหกเกี่ยวกับโคโรนา" และ "แมร์เคิล ออกไป"
ลอนดอน
ส่วนอื่นๆในยุโรป นักเคลื่อนไหวต่อต้านการสวมหน้ากากราว 200 คนจัดชุมนุมกันในกรุงปารีส เพื่อประท้วงมาตรการสุขอนามัย ภายใต้สโลแกนว่า "ไม่เอาเผด็จการทางสุขภาพ" และ "ปล่อยให้ลูกๆของเราหายใจ" ในลอนดอน ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์ เรียกโคโรนาไวรัสว่าเป็นเรื่องลวงโลกและเรียกร้องให้ยกเลิกข้อบังคับต่างๆ โดยหลายคนชูป้ายข้อความว่า "ข่าวปลอม" และ "หน้ากากคือตะกร้อครอบปากสุนัข" และปฏิเสธการถูกบังคับเข้าสู่โครงการฉีดวัคซีนใดๆ การประท้วงในลอนดอน มีขึ้นแม้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้คร่าชีวิตผู้คนในสหราชอาณาจักรแล้วกว่า 40,000 คน จากผู้ติดเชื้อสะสมราวๆ 330,000 คน
เยอรมนีสลายการชุมนุมต้านข้อบังคับไวรัส ผู้ประท้วงในยุโรปยังเชื่อโควิดเป็นเรื่องลวงโลกและเผด็จการ
https://mgronline.com/around/detail/9630000088795
รอยเตอร์ - ตำรวจเบอร์ลินเข้าสลายการชุมนุมใหญ่ ต่อต้านข้อกำหนดอันเข้มงวดสำหรับสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) เมื่อวันเสาร์(29ส.ค.) และจับกุมผู้ประท้วงในเมืองหลวงของเยอรมนี ไป 300 คน หลังจากพวกผู้ประท้วงไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม
สื่อมวลชนรายงานว่ามีผู้ชุมนุม 38,000 คนรวมตัวกันสำหรับจัดกิจกรรมประท้วงทั่วเมืองในครั้งนี้ และตำรวจรายงานพบเห็นเหตุความไม่สงบในบางจุดในยุโรป เริ่มพบเห็นประชาชนรู้สึกผิดหวังต่อมาตรการเข้มงวดสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยนอกเหนือจากในกรุงเบอร์ลินแล้ว ยังเกิดการชุมนุมประท้วงแบบเดียวกัน ทั้งในปารีส, ลอนดอนและที่อื่นๆ รวมถึงเวียนนาและซูริค ในวันเสาร์ (29ส.ค.) ที่ผ่านมา
เบอร์ลิน
"โชคไม่ดีที่เราไม่มีทางเลือกอื่น" ตำรวจเบอร์ลินระบุในทวิตเตอร์ พร้อมชี้ว่าพวกที่เข้าร่วมประท้วงไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยต่างๆที่กำหนดไว้สำหรับการชุมนุม ณ จุดประท้วงหนึ่งใกล้กับประตูประตูบรันเดินบวร์ก ผู้คนหลายพันยังคงรวมตัวประท้วงแม้เริ่มเข้าสู่ช่วงค่ำ บางส่วนขว้างปาก้อนหินและขวดเข้าใส่ตำรวจ ต่อมาทาง อันเดรียว ไกเซิล รัฐมนตรีมหาดไทยของเบอร์ลิน เผยว่าตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงราว 200 คนและให้คำกัดความคนกลุ่มนี้ว่าเป็นพวก "หัวรุนแรง" พร้อมบอกต่อว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย
ไกเซิล ระบุว่าในบริเวณใกล้เคียง การประท้วงอีกจุดซึ่งมีผู้เข้าร่วมราวๆ 30,000 คน คาดหมายว่าจะเดินหน้าต่อไปจนถึงเวลา 21.00น.(ตามเวลาท้องถิ่น) สืบเนื่องจากพวกผู้ประท้วงให้ความเคารพต่อกฎระเบียบเว้นระยะห่างทางสังคม
เบอร์ลิน
ตำรวจเผยว่าได้ประจำการเจ้าหน้าที่ราว 3,000 นายเพื่อควบคุมฝูงชน และได้เตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่การประท้วงจะเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง ในขณะที่บรรดานักเคลื่อนไหวเร่งเร้าผู้ติดตามบนสื่อสังคมออนไลน์ทั่วยุโรป ให้ติดอาวุธตนเองและรวมตัวในเบอร์ลิน เบื้องต้น เบอร์ลิน ห้ามการชุมนุม แต่เมื่อคืนวันศุกร์(28ส.ค.) ศาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งของเยอรมนี อนุมัติขั้นท้ายสุดให้เดินหน้าการชุมนุมได้ ผ่านการกลับคำตัดสินก่อนหน้านี้
จนกระทั่งตอนนี้ เยอรมนีจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ได้ดีกว่าหลายประเทศในยุโรป โดยการตรวจโรคอันเข้มข้นช่วยชะลอตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ซึ่งจนถึงตอนนี้ในเยอรมนีมีผู้เสียชีวิตแค่ราวๆ 9,000 คน จากผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 240,000 คน
ลอนดอน
อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆส่วนใหญ่ของโลก
เมื่อวันศุกร์(28ส.ค.) นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องพลเมืองอย่าการ์ดตกในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 "นี่คือเรื่องร้ายแรง มันร้ายแรงอย่างที่เคยเป็นมา และคุณจำเป็นต้องใส่ใจมันอย่างจริงจัง" พวกผู้ประท้วงรวมตัวกันหน้าประตูบรันเดินบวร์ก เดินหน้าการชุมนุมด้วยการชูป้ายที่มีข้อความว่า "หยุดโกหกเกี่ยวกับโคโรนา" และ "แมร์เคิล ออกไป"
ลอนดอน
ส่วนอื่นๆในยุโรป นักเคลื่อนไหวต่อต้านการสวมหน้ากากราว 200 คนจัดชุมนุมกันในกรุงปารีส เพื่อประท้วงมาตรการสุขอนามัย ภายใต้สโลแกนว่า "ไม่เอาเผด็จการทางสุขภาพ" และ "ปล่อยให้ลูกๆของเราหายใจ" ในลอนดอน ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์ เรียกโคโรนาไวรัสว่าเป็นเรื่องลวงโลกและเรียกร้องให้ยกเลิกข้อบังคับต่างๆ โดยหลายคนชูป้ายข้อความว่า "ข่าวปลอม" และ "หน้ากากคือตะกร้อครอบปากสุนัข" และปฏิเสธการถูกบังคับเข้าสู่โครงการฉีดวัคซีนใดๆ การประท้วงในลอนดอน มีขึ้นแม้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้คร่าชีวิตผู้คนในสหราชอาณาจักรแล้วกว่า 40,000 คน จากผู้ติดเชื้อสะสมราวๆ 330,000 คน