เราไม่มีเพื่อนสนิทเลย มี 2 คนที่เราคุยด้วยบ่อยๆ คนนึงเสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และเพื่อนที่สนิทอีกคนของเรา แต่งงานและย้ายไปอยู่ที่อเมริกา ตอนเราเรียน ป. โท เราไม่มีพี่น้องสักคน ลูกพี่ลูกน้องที่สนิทไม่มี เป็นลูกคนเดียว ในครอบครัวขนาดกลาง ที่พ่อชอบเล่นการพนัน และมีอารมณ์ฉุนเฉียว จนไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ แม้ขนาดพี่น้องตัวเอง เราไม่เคยได้ยินใครพูดจาให้เราเจ็บปวด ได้เท่าพ่อเราอีกแล้ว แม่ของเรา อดทนมาก เลี้ยงเราอย่างกัดฟัน จนเราจบ ป.ตรี เราเรียนต่อ ป.โท และสุดท้ายพึ่งจบ ป.เอก
พ่อแม่ เราเกษียณแล้ว ทั้งคุ่ มีบำนาญ แม่อดออม ซื้ออสังหาฯ ไว้จำนวนหนึ่ง เราเลยพอมีสมบัติบ้าง ส่วนพ่อ ไม่เคยมีเงินเก็บ แม้แต่บาทเดียว จนทุกวันนี้ และเรื่องอารมณ์โมโหร้าย สวิงขึ้นลง ยังเป็นอยู่ แต่เราโตพอ ที่จะเดินหนีออกมา เวลาแกโมโห ปล่อยแกอาละวาดไปคนเดียว จนตอนนี้เหลือแต่แม่คนเดียวที่ทน (จนแม่เอง เหมือนมีอาการ เหมือนคนที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ทำอะไรก็กลัว ขาดความมั่นใจไปหมด)
เราอยู่แบบนี้มาจนโต เราแต่งานมีครอบครัวของตัวเอง ได้ 10 ปีแล้ว แต่เรื่องราว ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรอกนะ ทุกวันนี้ ถ้าหาทางเลิกกับคนข้างๆได้ (แยกกันอยู่ น่าจะดี) เราไม่ได้จดทะเบียน เพียงแต่เค้าแต่งงานกับเรา จัดงานใหญ่โต อลังการ และอยู่บ้านเดียวกัน แต่การใช้ชีวิตของเรา 2 คน น่าจะแค่เหมือนคนรู้จัก เราทะเลาะกันแทบจะตลอดเวลา จนช่วงหลังๆ เราเลือกจะไม่พูดคุยกับแฟนเรา เพราะ มันน่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เราไม่ทะเลาะกัน ไม่พูดน่าจะดีที่สุด แต่พอมีช่วงเวลาที่จะคุยกันดีๆได้ เราบอกให้แยกกันอยู่ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันอีกในอนาคต เค้าก็ไม่ยอมไป....เราคิดไม่ออกว่า เราควรทำยังไงกับปัญหานี้ อีกคนอยากแยก อีกคนไม่แยก (เราคิดว่า ต่อให้ฟ้องศาล ศาลก็คงสั่งให้แยก แต่ถ้าเค้าไม่แยกไป แล้วใครจะช่วยเราได้ แฟนเราเค้าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว บ้านเค้าก็มีปัญหา หน้าที่การงานเค้าก็ไม่ได้มีเป็นหลักแหล่ง ถ้าสุดท้าย เค้ามาทำอะไรครอบครัวเรา เอาลูกเราไปโดดน้ำตายด้วยกัน ชีวิตเราคงจบ เหมือนในข่าวอาชญากรรมทั่วไปที่เราเห็น เราได้แต่อดทน ใช้ชีวิตที่ไม่มีความสุขในทุกๆวัน)
เราทำงาน ในส่วนบริหารงาน ที่ได้รับความไม่เข้าใจจากเพื่อนร่วมงาน ได้รับความกดดันจากผู้ใหญ่ที่คาดหวังให้เราสั่งงานผู้ใต้บังคับบัญชาได้ แต่เราสั่ง แล้วไง ไม่มีใครทำ ไม่มีใครสนใจ เราทำทุกอย่าง
และในวันที่ คนนี้จะเอาแบบนี้ คนนี้อยากให้เป็นแบบนี้ อีกคนไม่ทำ อีกคนขวางก่อปัญหา รวมปัญหาชีวิตในส่วนตัวที่เรามี.....เราเหนื่อยมาก
จน.....วันก่อน เรารู้สึกไม่ไหว เราขับรถเร่ร่อนไปทั่วในกรุงเทพ กรีดร้องสุดเสียง ร้องไห้จนสุดที่นำตาจะมีได้ ขับรถในบางที่เร็วจนเราตกใจว่า เราจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครเค้ารึเปล่า
ทำไมเรามันไร้ค่า ทำไมเราไม่มีความสุขแม้สักเสี้ยววินาทีเดียว เราเหนื่อย เราท้อ และเราไม่มีใครสักคนจะคุย หรือปรับทุกข์ด้วยเลย เราจะไปทำอะไร เราก็กังวลว่า แม่จะเสียใจ ใครจะดูลูกเป็นหลัก เพราะเราหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียวเป็นหลัก
ขับรถร้องไห้ และกรี๊ดๆๆๆ อยู่นานจน ถึงเวลา สุดท้ายก็ต้องล้างหน้าล้างตา ทำทุกอย่างเป็นปกติ ใหัแม่เห็นว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราพึ่งเลิกงาน เลยกลับดึก ลูกเล็กก็หลับไป เหลือแต่แฟน ที่เราไม่คุยกันอยู่แล้ว
เราอยากตายอ่ะ ก็แค่อยากตาย ให้จบๆ...แต่คงไม่ทำ เพราะเราห่วงแม่ ห่วงพ่อเหมือนกัน แม้จะไม่ลงรอยกัน แต่ก็รักแก และเราห่วงลูก กลัวลูกไม่มีคนดูแล ถ้าแฟนเลี้ยง คงเลี้ยงตามอัตภาพ ให้กินอยู่ตามอัตภาพ เราเหนื่อยจังทุกคน
ขอโทษนะ กระทู้เราไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลย แต่เราแค่อยากมีที่สักที่ ที่มีใครสักคนมองเห็นความทุกข์ของเราบ้าง....แต่ละวัน เราต้องทำหน้าปกติ ยิ้มกับทุกคนที่เดินผ่านในที่ทำงาน ทั้งๆที่ เราน้ำตานองหน้า และอยากกรี๊ดใส่ความกดดันทุกอย่างที่ถาโถมใส่เรา
เราไม่ไหวแล้ว....
เราไม่รู้จะคุยกับใคร เผื่อมีใครสักคน รับฟังเราในนี้ ขออนุญาตนะคะ
พ่อแม่ เราเกษียณแล้ว ทั้งคุ่ มีบำนาญ แม่อดออม ซื้ออสังหาฯ ไว้จำนวนหนึ่ง เราเลยพอมีสมบัติบ้าง ส่วนพ่อ ไม่เคยมีเงินเก็บ แม้แต่บาทเดียว จนทุกวันนี้ และเรื่องอารมณ์โมโหร้าย สวิงขึ้นลง ยังเป็นอยู่ แต่เราโตพอ ที่จะเดินหนีออกมา เวลาแกโมโห ปล่อยแกอาละวาดไปคนเดียว จนตอนนี้เหลือแต่แม่คนเดียวที่ทน (จนแม่เอง เหมือนมีอาการ เหมือนคนที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ทำอะไรก็กลัว ขาดความมั่นใจไปหมด)
เราอยู่แบบนี้มาจนโต เราแต่งานมีครอบครัวของตัวเอง ได้ 10 ปีแล้ว แต่เรื่องราว ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรอกนะ ทุกวันนี้ ถ้าหาทางเลิกกับคนข้างๆได้ (แยกกันอยู่ น่าจะดี) เราไม่ได้จดทะเบียน เพียงแต่เค้าแต่งงานกับเรา จัดงานใหญ่โต อลังการ และอยู่บ้านเดียวกัน แต่การใช้ชีวิตของเรา 2 คน น่าจะแค่เหมือนคนรู้จัก เราทะเลาะกันแทบจะตลอดเวลา จนช่วงหลังๆ เราเลือกจะไม่พูดคุยกับแฟนเรา เพราะ มันน่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เราไม่ทะเลาะกัน ไม่พูดน่าจะดีที่สุด แต่พอมีช่วงเวลาที่จะคุยกันดีๆได้ เราบอกให้แยกกันอยู่ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันอีกในอนาคต เค้าก็ไม่ยอมไป....เราคิดไม่ออกว่า เราควรทำยังไงกับปัญหานี้ อีกคนอยากแยก อีกคนไม่แยก (เราคิดว่า ต่อให้ฟ้องศาล ศาลก็คงสั่งให้แยก แต่ถ้าเค้าไม่แยกไป แล้วใครจะช่วยเราได้ แฟนเราเค้าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว บ้านเค้าก็มีปัญหา หน้าที่การงานเค้าก็ไม่ได้มีเป็นหลักแหล่ง ถ้าสุดท้าย เค้ามาทำอะไรครอบครัวเรา เอาลูกเราไปโดดน้ำตายด้วยกัน ชีวิตเราคงจบ เหมือนในข่าวอาชญากรรมทั่วไปที่เราเห็น เราได้แต่อดทน ใช้ชีวิตที่ไม่มีความสุขในทุกๆวัน)
เราทำงาน ในส่วนบริหารงาน ที่ได้รับความไม่เข้าใจจากเพื่อนร่วมงาน ได้รับความกดดันจากผู้ใหญ่ที่คาดหวังให้เราสั่งงานผู้ใต้บังคับบัญชาได้ แต่เราสั่ง แล้วไง ไม่มีใครทำ ไม่มีใครสนใจ เราทำทุกอย่าง
และในวันที่ คนนี้จะเอาแบบนี้ คนนี้อยากให้เป็นแบบนี้ อีกคนไม่ทำ อีกคนขวางก่อปัญหา รวมปัญหาชีวิตในส่วนตัวที่เรามี.....เราเหนื่อยมาก
จน.....วันก่อน เรารู้สึกไม่ไหว เราขับรถเร่ร่อนไปทั่วในกรุงเทพ กรีดร้องสุดเสียง ร้องไห้จนสุดที่นำตาจะมีได้ ขับรถในบางที่เร็วจนเราตกใจว่า เราจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครเค้ารึเปล่า
ทำไมเรามันไร้ค่า ทำไมเราไม่มีความสุขแม้สักเสี้ยววินาทีเดียว เราเหนื่อย เราท้อ และเราไม่มีใครสักคนจะคุย หรือปรับทุกข์ด้วยเลย เราจะไปทำอะไร เราก็กังวลว่า แม่จะเสียใจ ใครจะดูลูกเป็นหลัก เพราะเราหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียวเป็นหลัก
ขับรถร้องไห้ และกรี๊ดๆๆๆ อยู่นานจน ถึงเวลา สุดท้ายก็ต้องล้างหน้าล้างตา ทำทุกอย่างเป็นปกติ ใหัแม่เห็นว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราพึ่งเลิกงาน เลยกลับดึก ลูกเล็กก็หลับไป เหลือแต่แฟน ที่เราไม่คุยกันอยู่แล้ว
เราอยากตายอ่ะ ก็แค่อยากตาย ให้จบๆ...แต่คงไม่ทำ เพราะเราห่วงแม่ ห่วงพ่อเหมือนกัน แม้จะไม่ลงรอยกัน แต่ก็รักแก และเราห่วงลูก กลัวลูกไม่มีคนดูแล ถ้าแฟนเลี้ยง คงเลี้ยงตามอัตภาพ ให้กินอยู่ตามอัตภาพ เราเหนื่อยจังทุกคน
ขอโทษนะ กระทู้เราไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลย แต่เราแค่อยากมีที่สักที่ ที่มีใครสักคนมองเห็นความทุกข์ของเราบ้าง....แต่ละวัน เราต้องทำหน้าปกติ ยิ้มกับทุกคนที่เดินผ่านในที่ทำงาน ทั้งๆที่ เราน้ำตานองหน้า และอยากกรี๊ดใส่ความกดดันทุกอย่างที่ถาโถมใส่เรา
เราไม่ไหวแล้ว....