เดินป่าสายชิล ภูหินด่าง ดูหลักเขตไทย-ลาว ยลหินทรายสีชมพู(สีแดง) อุบลราชธานี 

ภูหินด่าง เป็นภูเขาหินทรายที่ประกอบไปด้วยป่าลานหินที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงามแปลกตาแตกต่างจากที่อื่น ได้แก่ ลานหินงอก ลานหินเป็นระแหง แอ่งหินเว้า และร่องหินแยก ตามเส้นทางเดินป่าไปสู่ยอดภูเต็มไปด้วยต้นกล้วยไม้ป่านานาชนิดและดอกไม้หลากสีที่ขึ้นอยู่ตามลานหิน แตกต่างกันตามฤดูกาลจากจุดชมวิวบริเวณหน้าผา สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้ารวมทั้งทะเลหมอกในฤดูหนาว ชมทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาของพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง และสภาพป่าในเขตประเทศลาวและกัมพูชาที่อยู่เบื้องล่าง ที่ผนังหินใต้เพิงผาปรากฏแทบสีแดงและสีชมพูอยู่หลายแห่งซึ่งเป็นที่มาของชื่อ“ภูหินด่าง” ภูหินด่างแห่งนี้ เหมาะสำหรับการกางเต็นท์พักแรม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 51 กิโลเมตร โดยการเดินทางเข้าภูหินด่างต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง
การเดินทางสู่ภูหินด่างใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2248 จากอำเภอนาจะหลวยถึงบ้านห้วยข่า เลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2254 ถึงบ้านหนองเม็ก มีทางลูกรังแยกไปทางซ้าย เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภจ. 5 (พลาญมดง่าม) ต้องขึ้นเขาชันอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงภูหินด่าง
ข้อมูลจาก
http://park.dnp.go.th/visitor/scenicshow.php?id=128
จุดเริ่มเดินรถกะบะถึง หรือจะมอเตอร์ไซค์ก็ได้ ระยะทางรถประมาณ 18 กม
แล้วเดินอีกประมาณ 2 กม ก็ถึงจุดกางเต็นท์
การติดต่อ
- การเที่ยวภูหินด่างต้องติดต่อหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยซะก่อน 
- รถกะบะ ในกรณีเอารถเก๋ง หรือไม่มีรถมา น้องพลุ 0902894789
ค่ารถไป-กลับ 1700 ระยะทางประมาณ 18 กม และน้องเขานำเดินขึ้นและพาเที่ยวด้วย ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 
มาเจอที่บ้านหนองเม็ก
แหล่งท่องเที่ยว
- ชมวิวสามแผ่นดิน ไทย ลาว เขมร 
- หินด่าง สีชมพู สีแดง 
- หักเขตแดนไทยดาว
- พระอาทิตย์ขึ้น
การเตรียมตัว
- ติดต่อหัวหน้าอุทยานก่อนจะดี 
- รถถ้าเป็นรถเก๋งไม่แนะนำให้ขึ้น ติดต่อรถกะบะที่ผมให้ข้อมูลไว้ก็ดี
- ด้านบนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย ให้เตรียมอาหารการกิน และน้ำดื่มขึ้นไปด้วย ด้านบนไม่มีแหล่งน้ำใด 

พิกัด

บ้านน้องพลุ  14.59208, 105.37586
ห้วยสุดท้าย 14.50576, 105.45415
จุดจอดรถ 14.49364, 105.4721
จุดชมวิว ภูหินด่าง 14.48413, 105.47779
หลักเขต  14.48518, 105.4787
จุดจอดรถ  14.49363, 105.47213
แค้มป์ 14.48626, 105.47658
ทริปนี้ก็นัดน้องเปิ้ลไว้ที่ขนส่ง อำเภอเดชอุดม ผมกับนัทนั่งรถสองแถวจากตลาดวารินชำราบ ไปยังเดชอุดม 




นั่งรอรถเปิ้ลมารับแล้ว แล้วขับไปเปลี่ยนขึ้นรถอีกคัน 


แวะซื้อของเพิ่มเติมที่ตลาด อ.บุณฑริก

แล้วก็ตรงไปจุดนัดหมาย รถกะบะที่บ้านน้องพลุ ที่บ้านหนองเม็ก ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
https://goo.gl/maps/hLGjGDvtVbwv9Qho6
หรือวัดสุวรรณาราม
https://goo.gl/maps/63oYD8ueAZwVBah87
มาถึงก็จัดของขึ้นรถกะบะ ขนของมาเยอะจริงๆ 
ถ้าใครไม่มีรถ หรือเป็นรถเก๋ง หรือรถโหลดเตี้ย แนะนำเหมารถน้องเขาก็ได้ครับ ระยะทางอีกไกล และบางช่วง หลุมหินทราย พื้นต่างระดับ รถจะเสียเอา ค่ารถไป-กลับ 1700 ระยะทางประมาณ 18 กม
และน้องเขาก็นำเที่ยวพาเดินด้วย นอนพักเป็นเพื่อน ก็ถือว่าได้สองต่อ 



จัดของเสร็จก็นั่งกินอาหารกลางวันที่แวะซื้อมาจากตลาดกันก่อน



เกือบบ่ายโมงก็ขึ้นรถเตรียมตัวเดินทาง


เส้นทางจาก googlemap
https://www.google.com/maps/d/edit?mid=15k47SRCME6aH0VUwgBgNOL7Wg55-UC1A&usp=sharing
จากบ้านน้องพลุ วิ่งไปตามทางดิน ผ่านสวนยาง 




ด้านหลังรับลมสบายๆ



พื้นที่ที่เราไปอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ซึ่งมีที่ทำการอยู่อีกไกล และมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือน้ำตกห้วยหลวง น้ำตกที่ใหญ่และสวยสุดในอีสานใต้

ซึ่งตัวที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 46 กม เที่ยวภูหินด่างแล้วแวะไปเล่นน้ำตกห้วยหลวงก็ได้
https://ppantip.com/topic/39933149
วิ่งมา 7-8  กม ก็จะผ่านหน่อยฯ ย่อยของอุทยาน ชื่อหน่วยพลาญมดง่าม ใครมีของจะบริจาคเจ้าหน้าที่ ก็ติดมาด้วยได้นะครับ 



ยังคงวิ่งตามทางดินไปเรื่อยๆ มีหลุม และการต่างระดับของแผ่นหินเป็นบางช่วง




ช่วงที่มีห้วยก็กำลังทำสะพานข้ามเพื่อความมั่นคง




น้องพลุจอดแวะให้พวกเราได้พัก ที่ลำห้วยสุดท้าย ช่วงที่มาเป็นเดือน พย 62 น้ำจะน้อย แต่ก็พอมีร่มให้นั่งพักเล่นได้


ช่วงที่นั่งพักที่ลำห้วย ก็มีกลุ่มน้องๆขับมอเตอร์ไซค์มาเที่ยวเป็นกลุ่ม ถ้าขับมอเตอร์ไซค์มาก็สามารถขับขึ้ันไปได้ลึก เดินน้อยลง น่าจะเดินอีกประมาณ 1  กม จากจุดจอด

พักรถ พักคน นิดหน่อย ก็เดินทางต่อ บางช่วงเป็นเนินชันและมีหินต้องให้กำลังรถมาก ถ้าคนนั่งอาจจะบาดเจ็บได้ เลยลงจากรถแล้วเดินขึ้นเนินกัน ให้รถตะลุย เห็นรถกระเด้งไปมา คนคงจะแย่



น้องพลุบอกมีควายเขายาวมากตัวหนึ่ง นอนตายในปักโคลนนี้ เลยมีชื่อว่า โบกกะเร่ว ควายชื่อเร่ว โบกก็คือ หลุม หรือบ่อ

บักเร่ว เป็นควายที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน มีเขายาวข้างละเกือบสองเมตร อยู่มาวันหนึ่งบักเร่วนอนตายในโบกนี้ เลยตั้งชื่อว่า "โบกกะเร่ว"
รถวิ่งไปเรือยๆ ลงรถเป็นช่วงๆ




มาถึงช่วงสุดท้ายก่อนถึงที่จอดรถ ลงเดินไกลหน่อย แต่ก็ดีกว่ากระเด้งไปมา