เสียงจากปลายสายเจี้อยแจ้วดังมา...น้องสาวเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ที่ตอนนี้ไปเป็นสะใภ้ชัยภูมิซะแล้ว

   ในระหว่างที่กำลังมองหาทริปถ่ายภาพในบรรยากาศหน้าฝนสักทริป...ก็มี comment ใน fb ขึ้นมา ว่าพี่ๆ หนูขอเบอร์หน่อย

ก็เลยลองโทรกลับไปหาด้วยเบอร์เก่าที่เมมในเครื่องไว้ คิดว่า น้องคงยังใช้เบอร์เดิมอยู่...ปลายสายถามว่า " พี่ๆ มาเที่ยวชัยภูมิมั้ย?"

คำตอบโหลดขึ้นมาทันทีทันใดว่า "ไปดิ...ดูแลพี่ด้วยนะ"

   จากเดิมที่เคยคิดว่า จังหวัดชัยภูมิ จะไปเที่ยวก็แค่เดินดูดอกกระเจียว กับทริปนี้ ได้ไกด์ท้องถิ่นนำทาง ถึงได้รู้ว่า ชัยภูมิ ไม่ได้มีแค่ ดอกกระเจียว...

เนื่องจากทริปนี้ ถูกชักชวนจากน้อง เลยไม่ได้วางแผนการเดินทางเองเท่าไหร่นัก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไกด์ไปล่ะกัน รู้แค่ว่า นอนไหนบ้างพอ...

   คืนแรก น้องกำหนดไว้ ให้ไปนอนที่บ้านอยู่ในตัวเมือง เตรียมห้องไว้ให้แล้ว...เลิกงานตอนเย็น เลยขับรถตรงดิ่งไปยังตัวเมืองชัยภูมิโดยทันที

แอบหวังในใจ ถ้าทันพระอาทิตย์ตกที่ มาเด้อ มานา น่าจะดี ร้านนี้อยู่ริมถนนก่อนเข้าตัวเมือง น้องส่งรูปพระอาทิตย์มาให้ดู แสงสวยมากๆ

แต่.........มาไม่ทัน T^T

   นั่งพักดื่มน้ำให้พอหายเหนื่อย...ก็เดินทางเข้าสู่ตัวเมือง เพราะน้อง และผู้ชายของน้อง รอเลี้ยงต้อนรับอยู่ 

และแล้วเมื่อมาถึง ทักทายปราศรัยกันเสร็จก็ไปประเดิมดินเนอร์แรกกัน ที่ร้าน...ข้าวมันไก่

ครับ ข้าวมันไก่ ตอนสองทุ่มครึ่ง...

   จริงๆแล้ว น้องเห็นเราชอบถ่ายภาพ เลยอยากพาขึ้นมอหินขาว เพื่อลองถ่าย ทางช้างเผือกดู น้องเดินทางเส้นนี้บ่อย 

การเดินทางกลางคืนเลยไม่มีปัญหา ค่อนข้างที่จะชำนาญ แต่วันนี้เมฆมาก ฟ้าไม่เปิดเท่าที่ควร เลยต้องผิดหวังไปครับกับ mission แรก

เอ๊ะ!!! ต้องบอกว่า 2 mission ในวันนี้ พังหมดสินะ...ไม่เป็นไร กลับบ้านพักผ่อน แผนของพรุ่งนี้ คือ เดินทางแต่เช้ามืด ไปชมดอกกระเจียวกัน

   ตื่นเช้ามาก ง่วงมาก ยัดสัมภาระ แล้วเดินทางมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง เนื่องจาก วันนี้มีไกด์ท้องถิ่นของแท้มาสมทบเพิ่มอีกคน

คนนี้ไกด์ของแท้ครับ คนชัยภูมิแท้ พาไปมุมอันซีนได้ด้วย ผิดกับน้องสาวเพื่อน อันนี้ไกด์เถื่อน ต้องเลี้ยวขวา บอกซ้าย ไปยังไม่ถึงบอกเลยแล้ว

ถือว่า เป็นผู้หญิงที่ปั่นหัวผู้ชายได้เก่งเลยทีเดียว (ช่วยนั่งไปเงียบๆนะ บอกมาแค่ที่หมายพอ...อย่าพยายามบอกเส้นทางเหอะ)

ที่นี่ การที่จะเข้ามานั้นจะต้องข้ามห้วยเล็กๆ เข้ามา รถเล็ก ต้องจอดไว้แล้วนั่งรถที่เค้าเตรียมไว้เข้ามา

ส่วนทีมผมนั่น รถยกสูง ลุยน้ำเข้ามาได้เลยครับ...พ้นห้วยกลับเข้าสู่ถนน ธรรมชาติก็ออกมาต้อนรับเราทันที

มีหมูป่าตัวเขื่อง วิ่งตัดหน้ารถไปอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่ได้รับการฟื้นฟูจากวิกฤต Covit-19

ขับรถมาตามทางเรื่อยๆ ท่ามกลางหมอกฝนชุ่มฉ่ำเป็นไอทึบตลอดทาง เติมความสดชื่นให้คนนอนน้อยได้ดีทีเดียว...

จอดรถแล้วออกเดินกัน...ที่นี่ เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จะมีจุดชมวิว และชมดอกกระเจียวอยู่ระหว่างทาง

เดินไป-กลับ ประมาณ 5 กิโลครับ เดินเรื่อยๆ สบายๆ อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มไปด้วยนะครับ

แต่...น้องๆ เรามาเดินชมธรรมชาตินะ ไม่ได้เดินไปต่อยกะใคร ทำไมเดินนักเลงจัง...

จุดชมวิว ชื่อดังของที่นี่ คือ ผาหด...ที่มีลักษณะ เป็นหินยื่นออกมา ให้เราไปนั่งถ่ายรูปเช็คอินกัน เช้าๆหมอกหนา ดีกรีความตื่นเต้นไม่เยอะเท่าไหร่

สายๆ ฟ้าเปิด เดินมาถ่ายกันอีกทีจะดีกว่าครับ

สายๆ หลังฟ้าเปิด...

 

มาแล้วก็ต้องไปนั่งถ่ายภาพกันหน่อย อาจจะตื่นเต้นนิดๆ แต่ขอยืนยันว่าเป็นแค่ชื่อผา

เพราะผมก็ไปนั่งถ่ายมาเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังปกติดีอยู่ครับ ^^

นอกจากผาหดแล้ว ยังมีจุดชมวิวมุมสูงอีก 2 จุดให้ได้ชมในต่างมุมกันอีก

และแน่นอน เราเดินทางมาถึงชัยภูมิในหน้าฝน ไฮไลท์สำคัญของเราจึงอยู่ที่นี่ เจ้าดอกกระเจียวครับ

ที่นี่จะเรียกจุชมดอกกระเจียวว่า ทุ่งบัวสวรรค์ 1-3 เดินไปดูให้ครบๆ ทั่วๆครับ เส้นทางส่วนใหญ่ไม่ได้ลาดชัน เดินกันสบายๆครับ

.

เดินไป เดินกลับ จนเกือบจะเที่ยง ก็ได้เวลาออกจากเส้นทางชมทุ่งกระเจียว เดี๋ยวเดินทางไปต่อที่เส้นทางน้ำตกไทรทองครับ

ห่างออกไปจากที่นี่ไม่ไกลนัก แต่โชคไม่ดีนัก วันที่มาน้ำตกน้ำค่อนข้างจะน้อย เลยไม่ค่อยได้ภาพสักเท่าไหร่

และระหว่างทางไปน้ำตกไทรทองนั้น ก็จะมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อายุยืนยาวตั้งตระหง่านอยู่

   หลังจากชมน้ำตกเสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปต่อกันทึ่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เป้าหมายหลักของเราในวันนี้ ตั้งใจไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาสุดแผ่นดินครับ ขับรถจากที่นี่ไปประมาณ 1 ชั่วโมง แวะกินข้าว เติมกาแฟกันสักหน่อย ก่อนเข้าชมในอุทยานต่ออีกที่นึงครับ 

ที่อุทยานแ่งชาติป่าหินงามนี้ จะไม่ให้นำรถเข้าไปนะครับ ต้องใช้บริการรถรางที่ทางอุทยานจัดเตรียมไว้ รถจะพาไปสู่จุดชมวิวต่างๆในอุทยานอีกที

พิกัดแรกที่เราจะไป คือ ไปดู หินโบราณ รูปร่าง ลักษณะต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นอะไรที่แปลกตาดีครับ ที่เป็นไฮไลท์ก็จะเป็นหินฟีฟ่า

หินที่มีรูปร่างเหมือนถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก หินเรดาห์ก็ดูเก๋ไก๋ดี ที่สนุกสนานที่สุดก็น่าจะเป็น Hum-Tung Rock ครับ 

ใครที่ไปเช็คอินที่ผาหดแล้ว ควรมาฟื้นฟูสมรรถภาพที่นี่ด้วยครับ ^^

ในภาพจะเห็นแวปๆ ว่า ชัยภูมิก็มีทุ่งกังหันลม เหมือนกันนะ...

หลังจากเดินเล่นในป่าหินงามแล้ว ก็ไปนั่งรอคอยแสงสุดท้ายที่ผาสุดแผ่นดินกันต่อ

วันนี้ เราอับโชคกับการดูพระอาทิตย์ตกที่ผาสุดแผ่นดิน ฟ้าปิด ฝนทำท่าจะตก เราก็เลยได้แต่เดินคอตกกลับลงมาข้างล่าง

ไปเติมพลังกันที่ร้านอาหาร ใกล้ๆ ทางเข้าอุทยาน มีร้านอาหารรสชาติดีอยู่หลายร้าน รวมถึงที่พักด้วยครับ เลือกได้ตามอัธยาศัยเลย

พรุ่งนี้ เราวางแผนกันไว้ว่า จะตื่นแต่เช้า มาชมหมอกยามเช้าที่ผาสุดแผ่นดินกันอีกครัง แล้วเดินชมดอกกระเจียวในยามเช้ากันต่อ...

วันนี้เหนื่อยมากแล้ว ทานข้าว อาบน้ำ พักผ่อนกันก่อนดีกว่า...

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อกันนะครับ...[