“รายงานการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของสินค้าเกษตรประจำปี 2563” ของอาลีบาบา ระบุว่า “การเกษตรดิจิทัล” ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของสินค้าเกษตรในปัจจุบันแล้ว โดยหลังจากอาลีบาบาประกาศเป้าหมายในการก่อตั้ง “แปลงเกษตรดิจิทัล” จำนวน 1,000 แห่งทั่วประเทศจีน มณฑลยูนนานก็ได้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญในการส่งเสริมการเกษตรดิจิทัลของอาลีบาบา เนื่องจากมีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะการเกษตรที่ราบสูง กอปรกับการดำเนินยุทธศาสตร์ “ไพ่สามใบ” ของรัฐบาลมณฑลยูนนานที่เน้นการพัฒนาอาหารสีเขียว พลังงานสีเขียว และการเป็นจุดหมายปลายทางรักษ์สุขภาพ
 
นอกจากนี้ ในปี 2563 อาลีบาบายังมีแผนการเปิด “ศูนย์การเกษตรดิจิทัลอาลีบาบา” จำนวน 5 แห่งทั่วประเทศจีน ได้แก่ มณฑลยูนนาน เขตฯ กว่างซี มณฑลเสฉวน มณฑลส่านซี และมณฑลซานตง ซึ่งอาลีบาบาได้เลือกเปิดศูนย์ดังกล่าวที่มณฑลยูนนานเป็นแห่งแรก รวมทั้งได้จัดแบ่งระดับคุณภาพสินค้าเกษตรของมณฑลยูนนาน 18 ชนิด เช่น ส้ม เสาวรส องุ่น และข้าวโพดข้าวเหนียว  ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2563 ซึ่งสถานการณ์โรคโควิด-19 ในจีนมีความรุนแรงและส่งผลให้สินค้าเกษตรตกค้างและราคาตกต่ำเป็นอย่างมาก ศูนย์การเกษตรดิจิทัลอาลีบาบาก็ได้ช่วยระบายสินค้าเกษตรของมณฑลยูนนานไปยังทั่วประเทศจีนจำนวนกว่า 4,000 ตันตามคำสั่งซื้อกว่า 1,200,000 รายการ
 
อนึ่ง ในภาพรวมตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 อาลีบาบาได้ดำเนินการส่งเสริมการเกษตรดิจิทัลอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ดังนี้
วันที่ 29 มิถุนายน 2563 จัดทำความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์กับกระทรวงเกษตรและชนบทจีน เพื่อร่วมกันผลักดันการเกษตรดิจิทัล
วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ยกระดับห่วงโซ่อุปทานการเกษตรดิจิทัลในรูปแบบ “โกดังแหล่งผลิต+โกดังแหล่งจำหน่าย” สร้างโครงข่ายการกระจายสินค้าเกษตรดิจิทัลทั่วประเทศจีน
วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ร่วมกับ Sinochem Group จัดตั้งหมู่บ้านเหอหม่า จำนวน 10-15 แห่ง เพื่อส่งเสริมการเกษตรดิจิทัลในรูปแบบ “การผลิตและการขายตรง”
วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 จัดตั้งเมืองเหอหม่า แห่งแรกที่เมืองจือป๋อ ในมณฑลซานตง เพื่อเป็นศูนย์การเกษตรดิจิทัลทางตอนเหนือของจีน

ขอบคุณข่าวจาก : https://globthailand.com/china-04082020/