หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] รีวิว SUBARU FORESTER 2.0 I-S AWD รถ SUV สายลุย ขับสบาย พร้อมระบบ EYESIGHT !
กระทู้รีวิว
SUV
รถยนต์
Subaru
Subaru Forester
4x4
SUBARU นั้นถือว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่ต้องบอกว่าหลายๆคนอาจจะรู้จักถ้าตามวงการนี้มา แต่คนทั่วไปอาจจะรู้จักแต่ไม่ได้รู้ว่ามันมีอะไรยังไงบ้าง และ มีรุ่นอะไรบ้างนั้นเอง เป็นแบรนด์ที่ต้องบอกว่าคนรักรถต้องรู้จักเพราะมันเป็นค่ายรถยนต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของระบบขับเคลื่อนอันดับต้นๆของญี่ปุ่น รวมถึงเราจะเห็นในบรรดาการแข่ง RALLY เยอะแยะมากมายในค่ายนี้เพราะ เครื่องยนต์ สมรรถนะ อะไรเค้าทำได้ดีมากๆ รวมถึงการขับขี่ เราจะเห็นแบรนด์ดาวลูกไก่ คันนี้โลดแล่นในสนามแข่งค่อนข้างเยอะ ระบบขับAWD และเครื่องยนต์ BOXER เป็นชื่อที่สร้างชื่อเสียงให้กับค่ายนี้เยอะมากๆ และในไทยนั้นก็น่าจะคุ้นเคยกันดีในรุ่น XV ที่เป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ทำราคาได้ดีมากๆ รวมถึงในรถ FORESTER ที่เป็น SUV ขนาดกลางที่มีความกว้างขวาง ขับขี่ที่ดีอย่างมากเลยทีเดียว และ ในปีนี้ก็มีรุ่น SUBARU FORESTER 2.0 i-S AWD ที่มาพร้อมกับ Eyesight เป็นฟีเจอร์ช่วยการขับขี่ได้เทพอย่างมากรวมถึง ในปีนี้มีการอัพเกรดฟีเจอร์ กล้องรอบคันมาให้ในรุ่นย่อยนี้ทำให้มันมีความน่าสนใจและใช้งานได้ดีกว่าเดิม
SUBARU FORESTER นั้นในรุ่นนี้ถือว่าเป็นเจนที่ 5 แล้วตั้งแต่ทำรุ่นแรกมา ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบเยอะพอสมควรตั้งแต่รุ่น 1-4 แต่พอมารุ่น 4-5 นั้นเมื่อเทียบกับจะพบว่างานออกแบบด้านหน้าทรงอะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกับเดิมเท่าไรนัก จนหลายๆคนคิดว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นปรับเปลี่ยนหน้าตาเท่านั้น ก็แอบน่าเสียดายไปพอสมควรในแง่ของงานออกแบบนั้นน่าจะเปลี่ยนแปลงได้มากกว่านี้ เพราะในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนในหลายๆส่วนแล้วก็ตามเช่น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม พร้อมไฟหน้าแบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติ ติดตั้งระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการเลี้ยว และแน่นอนว่ามี LED Daytime รูปตัว C พร้อมกรอบไฟตัดหมอกแบบ LED และโครงสร้างรถใหม่ในชื่อ SGP (Subaru Global Platform) ที่เราจะเห็นคุ้นเคยกันไปในรุ่น XV ก่อนหน้านี้ และที่สำคัญคือในรุ่น FORESTER คันนี้ประกอบไทยทั้งคันแล้วด้วย ส่วนทางด้านฟีเจอร์ที่น่าสนใจนั้นจะเป็นระบบ EYESIGHT กล้องหน้าคู่ที่จะคอยช่วยการขับขี่ที่ฉลาดมากๆทั้ง การจับระยะคันข้างหน้า รวมถึง การเตือนป้องกันการชน การเตือนออกนอกเลน หรือ ระบบอื่นๆอีกมากมายที่น่าสนใจ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BOXER เอกลักษณ์ของค่ายที่วางสูบนอน และ วางต่ำมากๆยังคงใช้เครื่องยนต์ เดิมจากรุ่นที่แล้ว รวมถึง XV แต่มีการปรับเปลี่ยนในส่วนข้างในให้มันดีขึ้นด้วย จะเป็นเครื่องยนต์ เบนซิน รหัส FB20 Boxer อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์เป็น 12.5:1 ระยะชัก/ขนาดกระบอกสูบ 84.0/90.0 มม. พร้อมระบบ Direct Injection ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อม (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) และ จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT 7 สปีด และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive แน่นอน่วาเป็นเอกลักษณ์ของค่ายด้วย พร้อมระบบ X-MODE ได้ 2 รูปแบบทั้งโหมดทางฝุ่น DIRT/SNOW และ โหมดโคลน MUD/D.SNOW พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ถือว่ายังคงเด่นเรื่องเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนเช่นเดิมแต่ฟีเจอร์ดีขึ้น ระบบอะไรทำได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
SUBARU FORESTER 2.0 i-S Eyesight AWD 1,450,000 บาท มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี
EXTERIOR
งานออกแบบในรุ่นนี้ถ้าให้พูดกันตรงๆน้อยคนนักเมื่อมองกันผ่านๆจะทราบกันว่าคันนี้เป็นรุ่นใหม่ เพราะงานออกแบบมันเป็นงานออกแบบที่เหมือนยังคงยึดติดกับงานออกแบบรุ่นก่อนมาเยอะมากๆจนมันไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไรรวมถึงในด้านหน้ามันมีความล้าสมัยอยู่แบบชัดเจนดีไซน์เมื่อเทียบคู่แข่งด้วยกัน ในด้านหน้าคันนี้พูดตรงๆว่าอาจจะไม่ได้ทันสมัยเท่าไรนักทั้งเส้นสาย รายละเอียดส่วนด้านหน้าทั้งหมดเลยดูไม่ล้ำเท่าไรรวมถึงทรงของตัวรถ แต่ยังดีที่ด้านหลังนั้นมีความสวยและลงตัวสปอร์ตอยู่บ้างและแตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน แต่ถ้ามองภาพรวมก็แอบเสียดายในด้านหน้าแบบชัดเจนเลย ส่วนขนาดตัวถังรุ่นนี้ถือว่าไม่หนีจากเดิมมากนักและใกล้กับ XV อยู่บ้าง แต่มีความยาวและสูงกว่า ส่วนความกว้าง ฐานล้อต่างๆนั้นไม่แตกต่างกัน และคู่แข่งของมันจะเป็น CRV และ CX5
งานออกแบบภาพรวมจะเห็นว่าตัวรถนั้นไม่ได้เตี้ยแบนแบบที่หลายๆค่ายเริ่มกันไปแนวทางสปอร์ตกัน แต่คันนี้ยังคงยืนจุดเด่นของความโปร่งโล่งเวลาขับได้ดีถึงดีมากเอาจริงๆคือไม่ค่อยเจอ SUV คันไหนที่มีความโปร่งโล่งแบบนี้มานานแล้วมุมมองมันโปร่งโล่งไปทั้งคัน กระจกบานใหญ่ๆขอบกระจกต่ำๆ กระจกหน้าโตๆที่ทำให้นั่งหน้า หลัง แล้วสบายแบบบอกไม่ถูก คันนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี แต่ก็ทำให้มันมีทรงที่อาจจะดูย้อนยุคไม่ทันสมัยไปด้วยในงานออกแบบแบบนี้ แต่เหมือนทางค่ายก็พอรู้งานออกแบบอยู่บ้างเลยพยายามใส่อะไรที่ดูสปอร์ตเข้ามาทั้งทรงของด้านท้าย หรือว่าจะเป็นกระจกหูช้างก็ถือว่าไม่ได้ตกยุคไปซะทีเดียวสำหรับงานออกแบบในหลายๆจุด อีกจุดที่ชอบคือโทนสีฟ้าค่อนข้างสวยและดูดี ลายล้อสวยงามรวมถึงมีการเล่นแถบสีดำเยอะ ผสมกับสีเงินด้านก็ลงตัวอยู่เช่นเดียวกันทำให้ตัวรถนั้นมีความบึกบึนมากขึ้นดูสายลุยได้ดีกว่าแบบเรียบๆ และเส้นสายรวมๆนั้นมีความคมสวย
ด้านหน้าตรงนั้นเมื่อมองดูเราจะเห็นกลิ่นอายของเส้นสายจากรุ่นก่อนๆมาค่อนข้างเยอะ จนบางทีมันมีความเหมือนรุ่นก่อนมากเกินไปพอสมควร รุ่นนี้ยังคงใช้กระจังหน้า 6เหลี่ยมทรงที่คุ้นเคยกัน แต่มีโครเมี่ยมเข้ามาเยอะมากขึ้น มีความใหญ่กว่าเดิมลากลงมาชัดเจน รวมถึงตรงไฟตัดหมอกนั้นมีการเสริมโครเมี่ยมเข้ามาอีกแต่เอาจริงๆส่วนตัวนั้นไม่ค่อนชอบการที่ใส่เข้ามาเยอะๆแบบนี้เท่าไรนัก จนบางทีแอบเยอะไปหน่อยเมื่อเทียบกับการที่เป็น SUV สายลุยที่พยายามใส่สีดำเข้ามารอบๆคัน ซึ่งมันทำให้ดูหรูขึ้นไปอีก และสัดส่วนกระจกหน้าเราจะเห็นว่ามีความใหญ่สูงมากๆเมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัวรถ เมื่อมองจากด้านท้ายด้านท้ายตรงมีความทะมัดทะแมงมากขึ้น เส้นสายลงตัวมีความคมสันชัดเจนดูเป็นสายลุยแต่มีความสปอร์ตมากขึ้นไม่มีชิ้นส่วนโครเมี่ยมเลยแม้แต่น้อย เป็นจุดที่แปลกใจนิดๆเหมือนทีมออกแบบกับด้านหน้านั้นไม่ได้ไปแนวทางเดียวกันเท่าไรนัก ส่วนตัวทำให้ค่อนข้างชอบด้านท้ายคันนี้มีความสวยลงตัว เส้นสายชัดเจน แถบสีดำขึ้นมาสูงในชายล่างทำให้ดูลุยได้ดี ไฟท้ายแปลกใหม่ดูแตกต่าง และยังได้ฝาท้ายไฟฟ้ามาด้วยเช่นกันครับสำหรับรุ่นนี้ แต่น่าเสียดายว่าไม่มีระบบเปิดแบบเตะอะไรต้องกดปุ่มเท่านั้นครับ
ค่ายนี้ถือว่าเป็นค่ายที่ใส่กล้องเข้ามาค่อนข้างเยอะทั้งกล้องรอบคัน ตรงกระจังหน้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าใต้กระจกหูช้างด้วยเช่นกัน รวมถึงระบบตรวจจับรถคันข้างหน้าหรือทางค่ายนั้นเรียกว่าระบบ Eyesight นั้นเองซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนตาคนที่จะคอยตรวจจับมองถนน เส้นถนน รถวิ่ง จักรยาน คนเดินต่างๆ เป็นกล้องที่ไว้ในห้องโดยสารทั้ง 2 ตัวในภาพข้างบนนั้นเอง และการติดกล้องแบบนี้ทำให้การจับระยะเนียนอย่างมากในการไล่กับคันข้างหน้ารวมถึงสามารถทำงานได้ตั้งแต่ 0-200 เลยทีเดียวแตกต่างกับรุ่นอื่นที่ต้องเริ่มจาก 30 นั้นเองครับ แต่ข้อเสียของมันการใช้งานติดตั้งกล้องแบบนี้ทำให้ตัวรถไม่สามารถติดฟิล์มมืดๆได้เลยในบานหน้า ก็แอบเป็นข้อจำกัดเล็กๆน้อยในส่วนนี้
ล้อคันนี้ได้ล้อขนาด ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 เป็นลาย 5 ด้านปัดเงาสวยงามพร้อมกับเล่นสีลวดลายตัดกับสีดำดูสวยงาม ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่มากเกินไปในการขับขี่ในเมืองยังคงมีความนุ่มและนั่งสบาย รวมถึงใช้งานความเร็วสูงก็ทำได้ดีเลยทีเดียว แม้จะเป็น 18 นิ้วแต่ก็ลุยได้พอประมาณ เพราะระบบขับเคลื่อนถือว่าไว้ใจได้เลย ทางด้านชายล่างข้างๆนั้นเป็นส่วนที่มากับตัวรถ เล่นแถบสีดำพื้นผิวพลาสติกเล่นลวดลายนิดหน่อยพร้อมกับการออกแบบแถบสีเงินเข้ามาควบคู่กันทำให้ด้านข้างดูไม่เรียบมากเกินไป และยังส่งผลให้ตัวรถดูไม่หนาเกินไปด้วย รวมถึงในด้านหลังและด้านหน้าก็จะเป็นการออกแบบแนวเดียวกันทั้งหมด ในด้านหลังจะเห็นว่ามีไฟตัดหมอกหลักมาให้ 1 ข้างในด้านขวา เล่นสีเงินตรงท่อไอเสียบได้สวยงามมีความนูนออกมาทำให้ดูมีมิติมากขึ้นด้วย
ด้านท้ายยังคงมีไฟเบรคดวงที่ 3พร้อมกับรูปทรงที่ยื่นออกมาคล้ายกับสปอยเลอร์หลังนิดหน่อยทำให้ด้านท้ายไม่ตัดสั้นมากเกินไปรวมถึงทำให้ตัวรถมีความสปอร์ตมากขึ้น เข้ากันกับเสาอากาศแบบครีบฉลามได้ดี และจะเห็นว่ายังคงให้ราวหลังคาด้านบนมาพร้อมกับมีความสูงพอสมควร มีงานออกแบบนิดหน่อยไม่ได้เรียบมากเกินไป ใช้งานได้จริง มีความแข็งแรงพอสมควรในการขนของหรือเสริมเพิ่มในส่วนของแร็คใส่ของ หรือ ขนจักรยานพวกนี้ก็สบาย
ไฟหน้าในรุ่นนี้ให้มาเป็น LED ครับแน่นอนว่าแม้จะไม่ใช่ Adaptive หรือ MATRIX อะไรแต่ก็มีความสว่างคมเข้มแบบที่รู้สึกได้ว่าใช้งานได้ดี ส่องสว่างไม่แพ้คันอื่นๆรวมถึงมีระบบเลี้ยวตามวงเลี้ยวรถได้ด้วย เวลาขับทางไกลช่วยได้เยอะ และยังให้ไฟ LED DRL เป็นตัว C ที่ต้องบอกว่าสวยเลย เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ แต่ไฟเลี้ยวนั้นยังคงเป็นหลอดไส้ปกติครับ เพราะส่วนอื่นๆนั้นเป็น LED ทั้งหมดแล้ว ตัวทรงของโคมนั้นไม่ได้หนีจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก แต่มีความคมเส้นสายสวยขึ้นนิดหน่อย โคมหลักเป็น LED Projector ใหญ่ๆดวงเดียว และยังคงมีที่ล้างไฟหน้ามาให้ แม้จะประกอบไทยแล้วก็ตาม ส่วนทางด้านไฟท้ายเป็น LED ทรงตัว C คมๆสวยงามพร้อมกับไฟเบรกในแนวตั้ง และไฟถอยรวมถึงไฟเลี้ยวเป็นหลอดไส้นะ แต่รุ่นนี้ให้ตัดหมอกด้านหลังมาให้ 1 ข้างด้วยนะ
ชื่อสินค้า:
Subaru Forester 2.0i-S Eyesight
คะแนน:
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิว SUBARU XV 2.0 I-P EYESIGHT ขับ 4 ช่วงล่างเด่น นุ่มกว่าเดิม ความปลอดภัยเต็มขึ้น !
SUBARU นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนนั้นน่าจะรู้จักกันดีในแบรนด์ที่ทำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในทุกคันของค่ายตัวเอง ยกเว้นตัวสปอร์ตที่เป็นขับหลัง และเป็นค่ายรถยนต์ที่โดดเด่นในเรื่องนี้อย่างมาก ระบบ
Techhangout
SUV 3 คันนี้ ถ้าเป็นคุณๆ จะเลือกคันไหนดี ถ้า...
1. ทุกวันนี้ WFH จ-ศ ไม่ค่อยได้ใช้รถเท่าไหร่ 2. มีไปซื้อของใกล้ๆ บ้านช่วงเย็นบางวัน หรือใช้มากหน่อยก็ ส-อ แต่ก็อยู่ในเมืองนี่ล่ะ 2. ปีนึงจะออกตจว.สัก 3-4 หนเป็นอย่างมาก (ไปไม่ไกลมาก) 3. ด้านหลังขอให้น
สมาชิกหมายเลข 1719156
อยากใช้ Subaru forester
กำลังมองหารถครอบครัว ครับ อ่านข้อมูลแล้วถูกใจสมรรถนะของ Subaru forester ,จึงจะขอความรู้ และ คำแนะนำ จากพี่ๆสมาชิกครับ ครอบครัวผมมีแค่ 3 คน (พ่อ แม่ ลูก) และกฌไม่ได้ไปเที่ยว ไกลๆ บ่อยนัก และ ที่
yumu
อยากปรึกษาเพื่อนๆเรื่องซื้อรถคันใหม่ครับ ไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับแบบไหนดี
สาเหตุที่ผมต้องซื้อรถคันใหม่ เพราะว่า รถคันเก่าของพ่อ เป็นรถกระบะที่เก่ามากๆแล้ว ใช้งานมาประมาณ 20 กว่าปี แล้วตอนนี้มันมีปัญหาเรื้อรังในหลายๆจุด ซ่อมแล้วซ่อมอีก บวกกับเป็นรถเกียร์กระปุกที่ขับในเมืองได
สมาชิกหมายเลข 1157200
สอบถามเรื่อง Subaru Forester 2019 หน่อยครับ
สนใจ Subaru Forester 2019 ที่ผลิตในไทยรู้ว่ามี 3 รุ่น 2.0 i-L ราคา 1,330,000 บาท 2.0 i-S ราคา 1,380,000 บาท 2.0 i-S (Eyesight) ราคา 1,450,000 บาท อยากทราบว่าตอนนี้มีขายครบทุกรุ่น หรือยังครับ ขอบค
สมาชิกหมายเลข 701374
Subaru Forester ปี2020 มือสอง ดีมั้ย
มีแพลนจะเปลี่ยนรถปลายปีเพราะตอนนี้ขับมาสด้า3 ปี 11 พอดีไปเจอ Subaru Forester รุ่น GT ปี 2020 มือสอง ไมล์20,000 ราคาไม่ถึงล้าน แต่ยังกังวลเรื่องอัตราสิ้นเปลือง ปรกติเป็นคนขับทางไกลข้ามจังหวัดบ่อย ความเ
สมาชิกหมายเลข 795682
CRV 1.6 EL 4WD VS Forester 2.0 i-S Eyesight AWD ตัวไหนดีครับ
กำลังจะไปทดลองขับ อยากทราบความเห็นของทุกๆ ท่านระหว่างสองตัวนี้ครับ 1. Subaru Forester 2.0 i-S Eyesight AWD 1,450,000 บาท 2. Honda CRV 1.6 EL DT AUTO 4WD 1,699,000 ล้านบาท รถที่มีเริ่มเ
แล้วแต่หมีดิหมีเล่นเองงะ
ซูบารุ จับมือ โตโยต้า ร่วมพัฒนารถ EV คาดเปิดตัว 3 รุ่น ปี 2026 นี้
Subaru แบรนด์รถญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของช่วงล่าง สมญานามว่า "ดาวลูกไก่" ล่าสุดได้มีการร่วมมือกับ Toyota ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่โด่งดั่งไปทั่วโลก เพื่อเตรียมแผนการผลิตและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าประเ
กระท่อมน้อยริมบึง
สอบถามเรื่องการทำที่จอดรถสำหรับบ้านที่ถมที่สูงและต้องการแก้ไขครับ
รบกวนสอบถามพี่ๆสมาชิกทุกท่านครับ บ้านของผมยกสูงจากพื้นถนนของส่วนกลาง 70 cm (ถมขึ้นไปเอง) ระยะความชันยาว 301 cm (วัดคร่าวๆจาก iphone ตอนนี้ยังไม่มีตลับเมตรนะครับ) หลังจากพ้นจุดสุงสุดมา จะมีพื้นที่ทางรา
สมาชิกหมายเลข 8486734
สังสัยเรื่องระบบขับเคลื่อน AWD ครับ
ไม่นับระบบ 4x4 นะครับ 1.ผมสงสัยว่ารถที่ขับเคลื่อนแบบ AWD นี่มีทั้งแบบ Realtime กับ Fulltime ใช่ไหมครับ 2.อย่าง Fulltime AWD มีรุ่นไหนบ้างครับ ที่ทำงานตลอดเวลา ที่นึกออกมี Subaru กับ Audi Quadro 3.
leopard_leo
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
SUV
รถยนต์
Subaru
Subaru Forester
4x4
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 13
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] รีวิว SUBARU FORESTER 2.0 I-S AWD รถ SUV สายลุย ขับสบาย พร้อมระบบ EYESIGHT !
SUBARU นั้นถือว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่ต้องบอกว่าหลายๆคนอาจจะรู้จักถ้าตามวงการนี้มา แต่คนทั่วไปอาจจะรู้จักแต่ไม่ได้รู้ว่ามันมีอะไรยังไงบ้าง และ มีรุ่นอะไรบ้างนั้นเอง เป็นแบรนด์ที่ต้องบอกว่าคนรักรถต้องรู้จักเพราะมันเป็นค่ายรถยนต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของระบบขับเคลื่อนอันดับต้นๆของญี่ปุ่น รวมถึงเราจะเห็นในบรรดาการแข่ง RALLY เยอะแยะมากมายในค่ายนี้เพราะ เครื่องยนต์ สมรรถนะ อะไรเค้าทำได้ดีมากๆ รวมถึงการขับขี่ เราจะเห็นแบรนด์ดาวลูกไก่ คันนี้โลดแล่นในสนามแข่งค่อนข้างเยอะ ระบบขับAWD และเครื่องยนต์ BOXER เป็นชื่อที่สร้างชื่อเสียงให้กับค่ายนี้เยอะมากๆ และในไทยนั้นก็น่าจะคุ้นเคยกันดีในรุ่น XV ที่เป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ทำราคาได้ดีมากๆ รวมถึงในรถ FORESTER ที่เป็น SUV ขนาดกลางที่มีความกว้างขวาง ขับขี่ที่ดีอย่างมากเลยทีเดียว และ ในปีนี้ก็มีรุ่น SUBARU FORESTER 2.0 i-S AWD ที่มาพร้อมกับ Eyesight เป็นฟีเจอร์ช่วยการขับขี่ได้เทพอย่างมากรวมถึง ในปีนี้มีการอัพเกรดฟีเจอร์ กล้องรอบคันมาให้ในรุ่นย่อยนี้ทำให้มันมีความน่าสนใจและใช้งานได้ดีกว่าเดิม
SUBARU FORESTER นั้นในรุ่นนี้ถือว่าเป็นเจนที่ 5 แล้วตั้งแต่ทำรุ่นแรกมา ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบเยอะพอสมควรตั้งแต่รุ่น 1-4 แต่พอมารุ่น 4-5 นั้นเมื่อเทียบกับจะพบว่างานออกแบบด้านหน้าทรงอะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกับเดิมเท่าไรนัก จนหลายๆคนคิดว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นปรับเปลี่ยนหน้าตาเท่านั้น ก็แอบน่าเสียดายไปพอสมควรในแง่ของงานออกแบบนั้นน่าจะเปลี่ยนแปลงได้มากกว่านี้ เพราะในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนในหลายๆส่วนแล้วก็ตามเช่น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม พร้อมไฟหน้าแบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติ ติดตั้งระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการเลี้ยว และแน่นอนว่ามี LED Daytime รูปตัว C พร้อมกรอบไฟตัดหมอกแบบ LED และโครงสร้างรถใหม่ในชื่อ SGP (Subaru Global Platform) ที่เราจะเห็นคุ้นเคยกันไปในรุ่น XV ก่อนหน้านี้ และที่สำคัญคือในรุ่น FORESTER คันนี้ประกอบไทยทั้งคันแล้วด้วย ส่วนทางด้านฟีเจอร์ที่น่าสนใจนั้นจะเป็นระบบ EYESIGHT กล้องหน้าคู่ที่จะคอยช่วยการขับขี่ที่ฉลาดมากๆทั้ง การจับระยะคันข้างหน้า รวมถึง การเตือนป้องกันการชน การเตือนออกนอกเลน หรือ ระบบอื่นๆอีกมากมายที่น่าสนใจ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BOXER เอกลักษณ์ของค่ายที่วางสูบนอน และ วางต่ำมากๆยังคงใช้เครื่องยนต์ เดิมจากรุ่นที่แล้ว รวมถึง XV แต่มีการปรับเปลี่ยนในส่วนข้างในให้มันดีขึ้นด้วย จะเป็นเครื่องยนต์ เบนซิน รหัส FB20 Boxer อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์เป็น 12.5:1 ระยะชัก/ขนาดกระบอกสูบ 84.0/90.0 มม. พร้อมระบบ Direct Injection ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อม (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) และ จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT 7 สปีด และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive แน่นอน่วาเป็นเอกลักษณ์ของค่ายด้วย พร้อมระบบ X-MODE ได้ 2 รูปแบบทั้งโหมดทางฝุ่น DIRT/SNOW และ โหมดโคลน MUD/D.SNOW พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ถือว่ายังคงเด่นเรื่องเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนเช่นเดิมแต่ฟีเจอร์ดีขึ้น ระบบอะไรทำได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
SUBARU FORESTER 2.0 i-S Eyesight AWD 1,450,000 บาท มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี
EXTERIOR
งานออกแบบในรุ่นนี้ถ้าให้พูดกันตรงๆน้อยคนนักเมื่อมองกันผ่านๆจะทราบกันว่าคันนี้เป็นรุ่นใหม่ เพราะงานออกแบบมันเป็นงานออกแบบที่เหมือนยังคงยึดติดกับงานออกแบบรุ่นก่อนมาเยอะมากๆจนมันไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไรรวมถึงในด้านหน้ามันมีความล้าสมัยอยู่แบบชัดเจนดีไซน์เมื่อเทียบคู่แข่งด้วยกัน ในด้านหน้าคันนี้พูดตรงๆว่าอาจจะไม่ได้ทันสมัยเท่าไรนักทั้งเส้นสาย รายละเอียดส่วนด้านหน้าทั้งหมดเลยดูไม่ล้ำเท่าไรรวมถึงทรงของตัวรถ แต่ยังดีที่ด้านหลังนั้นมีความสวยและลงตัวสปอร์ตอยู่บ้างและแตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน แต่ถ้ามองภาพรวมก็แอบเสียดายในด้านหน้าแบบชัดเจนเลย ส่วนขนาดตัวถังรุ่นนี้ถือว่าไม่หนีจากเดิมมากนักและใกล้กับ XV อยู่บ้าง แต่มีความยาวและสูงกว่า ส่วนความกว้าง ฐานล้อต่างๆนั้นไม่แตกต่างกัน และคู่แข่งของมันจะเป็น CRV และ CX5
งานออกแบบภาพรวมจะเห็นว่าตัวรถนั้นไม่ได้เตี้ยแบนแบบที่หลายๆค่ายเริ่มกันไปแนวทางสปอร์ตกัน แต่คันนี้ยังคงยืนจุดเด่นของความโปร่งโล่งเวลาขับได้ดีถึงดีมากเอาจริงๆคือไม่ค่อยเจอ SUV คันไหนที่มีความโปร่งโล่งแบบนี้มานานแล้วมุมมองมันโปร่งโล่งไปทั้งคัน กระจกบานใหญ่ๆขอบกระจกต่ำๆ กระจกหน้าโตๆที่ทำให้นั่งหน้า หลัง แล้วสบายแบบบอกไม่ถูก คันนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี แต่ก็ทำให้มันมีทรงที่อาจจะดูย้อนยุคไม่ทันสมัยไปด้วยในงานออกแบบแบบนี้ แต่เหมือนทางค่ายก็พอรู้งานออกแบบอยู่บ้างเลยพยายามใส่อะไรที่ดูสปอร์ตเข้ามาทั้งทรงของด้านท้าย หรือว่าจะเป็นกระจกหูช้างก็ถือว่าไม่ได้ตกยุคไปซะทีเดียวสำหรับงานออกแบบในหลายๆจุด อีกจุดที่ชอบคือโทนสีฟ้าค่อนข้างสวยและดูดี ลายล้อสวยงามรวมถึงมีการเล่นแถบสีดำเยอะ ผสมกับสีเงินด้านก็ลงตัวอยู่เช่นเดียวกันทำให้ตัวรถนั้นมีความบึกบึนมากขึ้นดูสายลุยได้ดีกว่าแบบเรียบๆ และเส้นสายรวมๆนั้นมีความคมสวย
ด้านหน้าตรงนั้นเมื่อมองดูเราจะเห็นกลิ่นอายของเส้นสายจากรุ่นก่อนๆมาค่อนข้างเยอะ จนบางทีมันมีความเหมือนรุ่นก่อนมากเกินไปพอสมควร รุ่นนี้ยังคงใช้กระจังหน้า 6เหลี่ยมทรงที่คุ้นเคยกัน แต่มีโครเมี่ยมเข้ามาเยอะมากขึ้น มีความใหญ่กว่าเดิมลากลงมาชัดเจน รวมถึงตรงไฟตัดหมอกนั้นมีการเสริมโครเมี่ยมเข้ามาอีกแต่เอาจริงๆส่วนตัวนั้นไม่ค่อนชอบการที่ใส่เข้ามาเยอะๆแบบนี้เท่าไรนัก จนบางทีแอบเยอะไปหน่อยเมื่อเทียบกับการที่เป็น SUV สายลุยที่พยายามใส่สีดำเข้ามารอบๆคัน ซึ่งมันทำให้ดูหรูขึ้นไปอีก และสัดส่วนกระจกหน้าเราจะเห็นว่ามีความใหญ่สูงมากๆเมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัวรถ เมื่อมองจากด้านท้ายด้านท้ายตรงมีความทะมัดทะแมงมากขึ้น เส้นสายลงตัวมีความคมสันชัดเจนดูเป็นสายลุยแต่มีความสปอร์ตมากขึ้นไม่มีชิ้นส่วนโครเมี่ยมเลยแม้แต่น้อย เป็นจุดที่แปลกใจนิดๆเหมือนทีมออกแบบกับด้านหน้านั้นไม่ได้ไปแนวทางเดียวกันเท่าไรนัก ส่วนตัวทำให้ค่อนข้างชอบด้านท้ายคันนี้มีความสวยลงตัว เส้นสายชัดเจน แถบสีดำขึ้นมาสูงในชายล่างทำให้ดูลุยได้ดี ไฟท้ายแปลกใหม่ดูแตกต่าง และยังได้ฝาท้ายไฟฟ้ามาด้วยเช่นกันครับสำหรับรุ่นนี้ แต่น่าเสียดายว่าไม่มีระบบเปิดแบบเตะอะไรต้องกดปุ่มเท่านั้นครับ
ค่ายนี้ถือว่าเป็นค่ายที่ใส่กล้องเข้ามาค่อนข้างเยอะทั้งกล้องรอบคัน ตรงกระจังหน้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าใต้กระจกหูช้างด้วยเช่นกัน รวมถึงระบบตรวจจับรถคันข้างหน้าหรือทางค่ายนั้นเรียกว่าระบบ Eyesight นั้นเองซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนตาคนที่จะคอยตรวจจับมองถนน เส้นถนน รถวิ่ง จักรยาน คนเดินต่างๆ เป็นกล้องที่ไว้ในห้องโดยสารทั้ง 2 ตัวในภาพข้างบนนั้นเอง และการติดกล้องแบบนี้ทำให้การจับระยะเนียนอย่างมากในการไล่กับคันข้างหน้ารวมถึงสามารถทำงานได้ตั้งแต่ 0-200 เลยทีเดียวแตกต่างกับรุ่นอื่นที่ต้องเริ่มจาก 30 นั้นเองครับ แต่ข้อเสียของมันการใช้งานติดตั้งกล้องแบบนี้ทำให้ตัวรถไม่สามารถติดฟิล์มมืดๆได้เลยในบานหน้า ก็แอบเป็นข้อจำกัดเล็กๆน้อยในส่วนนี้
ล้อคันนี้ได้ล้อขนาด ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 เป็นลาย 5 ด้านปัดเงาสวยงามพร้อมกับเล่นสีลวดลายตัดกับสีดำดูสวยงาม ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่มากเกินไปในการขับขี่ในเมืองยังคงมีความนุ่มและนั่งสบาย รวมถึงใช้งานความเร็วสูงก็ทำได้ดีเลยทีเดียว แม้จะเป็น 18 นิ้วแต่ก็ลุยได้พอประมาณ เพราะระบบขับเคลื่อนถือว่าไว้ใจได้เลย ทางด้านชายล่างข้างๆนั้นเป็นส่วนที่มากับตัวรถ เล่นแถบสีดำพื้นผิวพลาสติกเล่นลวดลายนิดหน่อยพร้อมกับการออกแบบแถบสีเงินเข้ามาควบคู่กันทำให้ด้านข้างดูไม่เรียบมากเกินไป และยังส่งผลให้ตัวรถดูไม่หนาเกินไปด้วย รวมถึงในด้านหลังและด้านหน้าก็จะเป็นการออกแบบแนวเดียวกันทั้งหมด ในด้านหลังจะเห็นว่ามีไฟตัดหมอกหลักมาให้ 1 ข้างในด้านขวา เล่นสีเงินตรงท่อไอเสียบได้สวยงามมีความนูนออกมาทำให้ดูมีมิติมากขึ้นด้วย
ด้านท้ายยังคงมีไฟเบรคดวงที่ 3พร้อมกับรูปทรงที่ยื่นออกมาคล้ายกับสปอยเลอร์หลังนิดหน่อยทำให้ด้านท้ายไม่ตัดสั้นมากเกินไปรวมถึงทำให้ตัวรถมีความสปอร์ตมากขึ้น เข้ากันกับเสาอากาศแบบครีบฉลามได้ดี และจะเห็นว่ายังคงให้ราวหลังคาด้านบนมาพร้อมกับมีความสูงพอสมควร มีงานออกแบบนิดหน่อยไม่ได้เรียบมากเกินไป ใช้งานได้จริง มีความแข็งแรงพอสมควรในการขนของหรือเสริมเพิ่มในส่วนของแร็คใส่ของ หรือ ขนจักรยานพวกนี้ก็สบาย
ไฟหน้าในรุ่นนี้ให้มาเป็น LED ครับแน่นอนว่าแม้จะไม่ใช่ Adaptive หรือ MATRIX อะไรแต่ก็มีความสว่างคมเข้มแบบที่รู้สึกได้ว่าใช้งานได้ดี ส่องสว่างไม่แพ้คันอื่นๆรวมถึงมีระบบเลี้ยวตามวงเลี้ยวรถได้ด้วย เวลาขับทางไกลช่วยได้เยอะ และยังให้ไฟ LED DRL เป็นตัว C ที่ต้องบอกว่าสวยเลย เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ แต่ไฟเลี้ยวนั้นยังคงเป็นหลอดไส้ปกติครับ เพราะส่วนอื่นๆนั้นเป็น LED ทั้งหมดแล้ว ตัวทรงของโคมนั้นไม่ได้หนีจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก แต่มีความคมเส้นสายสวยขึ้นนิดหน่อย โคมหลักเป็น LED Projector ใหญ่ๆดวงเดียว และยังคงมีที่ล้างไฟหน้ามาให้ แม้จะประกอบไทยแล้วก็ตาม ส่วนทางด้านไฟท้ายเป็น LED ทรงตัว C คมๆสวยงามพร้อมกับไฟเบรกในแนวตั้ง และไฟถอยรวมถึงไฟเลี้ยวเป็นหลอดไส้นะ แต่รุ่นนี้ให้ตัดหมอกด้านหลังมาให้ 1 ข้างด้วยนะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้