::::::: GRAB FILM / อิสรภาพทางการฟิล์ม02 ::::::::
: การจัดแสงเหมือนมีรถไฟวิ่งอยู่ข้างบ้านและการdecoration ฉากด้วยคน
ถ้าใครดูงานไปแล้วจะพบว่าในแต่ละฉากมันจะวุ่นวายสัดๆเต็มไปด้วยคนอัดกันเต็มฉากและแสงไฟอะไรทำไมมันมีไฟวิ่งตลอดเวลา, จะเล่าที่มาของไอเดียของสิ่งเหล่านี้ให้ฟัง
หลังจากทำบทเสร็จเราก็ต้องหาบรรยากาศให้กับหนังเรื่องนี้จริงๆทีแรกมีคิดว่าจะทำเหมือนเป็นเกมโชว์ตอบคำถามกันไปเลยระหว่างบรรดาหัวหน้าออฟฟิศ-รุ่นพี่-แม่และเยาวชนทั้งหลายมีขึ้นไฟปิ๊งป่องเปิดป้ายขอคำใบ้เพิ่มอะไรแบบนั้น55 แต่รู้สึกว่ามันติงต๊องเกินเลยตกไป/ อีกไอเดียนึงคือจะทำให้ทุกคนเหมือนเป็นคาวบอยมาดวลปืนกันแต่รู้สึกว่ามุขคาวบอยมันไม่ค่อยจะไทยเท่าไหร่ก็ตกไปเช่นกัน
สุดท้ายกลับมาที่คำว่าอิสรภาพทางการกินเลยคิดถึงการประท้วงและriot ต่างๆบู๊กันไปเลยแล้วอยู่ๆก็คิดว่าถ้าจะสู้กันแล้วเราชอบหนังที่แอ็คชั่นซีนมันมีไลท์ติ้งmoving ตลอดเวลาเพราะมันจะดูรุนแรงและสวยมากในเวลาเดียวกันเพราะแสงมันเคลื่อนไหวตลอดเราจะเห็นความสว่างและเงาดำสลับกันคล้ายๆฉากต่อสู้ในskyfall / จากนั้นก็ค่อยๆคิดถึงซีนการต่อสู้กันในโบกี้รถไฟในsnowpiercer ของบองจุนโฮคิดถึงซีนไต่หลังคารถไฟในmission impossible ทั้งคู่มีจุดร่วมอันนึงคือเป็นแอ็คชั่นซีนที่ไลท์ติ้งมันมากๆบ้าคลั่ง, เราเลยบอกนายแฮมตากล้องคู่บุญbnk ว่าการถ่ายเรื่องนี้เราอยากได้แสงแบบนี้เลยวูบวาบฟูบฟาบตลอดเวลาราวกับว่าข้างออฟฟิศนายปัญเนยมีรถไฟหัวกระสุนวิ่งผ่านบ้านมิวสิคเหมือนอยู่ข้างไฮเวย์รถบรรทุกวิ่งผ่านตลอดห้องรับน้องจอนอเหมือนอยู่ในโรงงานที่มีใบพัดพัดตลอดเวลาดีไซน์เพิ่มเข้าไปดื้อๆแบบนั้นและคิดว่าการเคลื่อนไหวของแสงพวกนี้มันมีผลต่อคนดูในระดับจิตใต้สำนึกนะ(ลองเทียบฉากที่มีแสงวิ่งกับไม่มีแสงวิ่งดู) และช่วยให้ตัวช็อตนั้นดูไม่นิ่งเกินไปด้วย/ ถ้าใครมากองถ่ายจะเห็นว่าด้านนอกฉากที่เราถ่ายทำจะมีคนคอยหมุนไฟตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลทางแสงแบบนั้น
ต่อมาเรารู้สึกว่าพอเป็นบรรยากาศแบบriot นิดๆมันอิมแพคเวลามีคนออๆกันเยอะและคนที่ออๆกันนั้นก็เหมือนกลายเป็นdecorate ฉากแบบหนึ่งมีความเป็นแพทเทิร์นเหมือนๆกันต้องการปลดปล่อยก็เลยรีเควสน้องๆเอ๊กซ์ตร้าเยอะนิดนึงแล้วให้ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันแล้วมายืนในฉากเพื่อทำให้ฉากนั้นดูแน่นสวยงามและยังตรงกับสิ่งที่บทต้องการด้วยตัวอย่างเช่นฉากออฟฟิศและฉากรับน้อง
เอาจริงๆสองอย่างนี้ก็ไม่เคยได้ลองทำจริงๆจังๆสักทีเดียวก็ได้ลองทำเต็มๆในงานนี้/ ถ้าอ่านแล้วชอบอยากแนะนำให้ลองกลับไปดูตัวหนังอีกรอบหนึ่งน่าจะสังเกตเห็นกันมากขึ้นนะ🙂
==================
.
.
.
ย้อนอ่านตอนที่1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/40155164/
ถึงกับต้องไปดูอีกรอบ เมื่อได้อ่านเบื้องหลังโฆษณา Grab Food ตอนที่ 2 จากพี่เต๋อ นวพล
::::::: GRAB FILM / อิสรภาพทางการฟิล์ม02 ::::::::
: การจัดแสงเหมือนมีรถไฟวิ่งอยู่ข้างบ้านและการdecoration ฉากด้วยคน
ถ้าใครดูงานไปแล้วจะพบว่าในแต่ละฉากมันจะวุ่นวายสัดๆเต็มไปด้วยคนอัดกันเต็มฉากและแสงไฟอะไรทำไมมันมีไฟวิ่งตลอดเวลา, จะเล่าที่มาของไอเดียของสิ่งเหล่านี้ให้ฟัง
หลังจากทำบทเสร็จเราก็ต้องหาบรรยากาศให้กับหนังเรื่องนี้จริงๆทีแรกมีคิดว่าจะทำเหมือนเป็นเกมโชว์ตอบคำถามกันไปเลยระหว่างบรรดาหัวหน้าออฟฟิศ-รุ่นพี่-แม่และเยาวชนทั้งหลายมีขึ้นไฟปิ๊งป่องเปิดป้ายขอคำใบ้เพิ่มอะไรแบบนั้น55 แต่รู้สึกว่ามันติงต๊องเกินเลยตกไป/ อีกไอเดียนึงคือจะทำให้ทุกคนเหมือนเป็นคาวบอยมาดวลปืนกันแต่รู้สึกว่ามุขคาวบอยมันไม่ค่อยจะไทยเท่าไหร่ก็ตกไปเช่นกัน
สุดท้ายกลับมาที่คำว่าอิสรภาพทางการกินเลยคิดถึงการประท้วงและriot ต่างๆบู๊กันไปเลยแล้วอยู่ๆก็คิดว่าถ้าจะสู้กันแล้วเราชอบหนังที่แอ็คชั่นซีนมันมีไลท์ติ้งmoving ตลอดเวลาเพราะมันจะดูรุนแรงและสวยมากในเวลาเดียวกันเพราะแสงมันเคลื่อนไหวตลอดเราจะเห็นความสว่างและเงาดำสลับกันคล้ายๆฉากต่อสู้ในskyfall / จากนั้นก็ค่อยๆคิดถึงซีนการต่อสู้กันในโบกี้รถไฟในsnowpiercer ของบองจุนโฮคิดถึงซีนไต่หลังคารถไฟในmission impossible ทั้งคู่มีจุดร่วมอันนึงคือเป็นแอ็คชั่นซีนที่ไลท์ติ้งมันมากๆบ้าคลั่ง, เราเลยบอกนายแฮมตากล้องคู่บุญbnk ว่าการถ่ายเรื่องนี้เราอยากได้แสงแบบนี้เลยวูบวาบฟูบฟาบตลอดเวลาราวกับว่าข้างออฟฟิศนายปัญเนยมีรถไฟหัวกระสุนวิ่งผ่านบ้านมิวสิคเหมือนอยู่ข้างไฮเวย์รถบรรทุกวิ่งผ่านตลอดห้องรับน้องจอนอเหมือนอยู่ในโรงงานที่มีใบพัดพัดตลอดเวลาดีไซน์เพิ่มเข้าไปดื้อๆแบบนั้นและคิดว่าการเคลื่อนไหวของแสงพวกนี้มันมีผลต่อคนดูในระดับจิตใต้สำนึกนะ(ลองเทียบฉากที่มีแสงวิ่งกับไม่มีแสงวิ่งดู) และช่วยให้ตัวช็อตนั้นดูไม่นิ่งเกินไปด้วย/ ถ้าใครมากองถ่ายจะเห็นว่าด้านนอกฉากที่เราถ่ายทำจะมีคนคอยหมุนไฟตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลทางแสงแบบนั้น
ต่อมาเรารู้สึกว่าพอเป็นบรรยากาศแบบriot นิดๆมันอิมแพคเวลามีคนออๆกันเยอะและคนที่ออๆกันนั้นก็เหมือนกลายเป็นdecorate ฉากแบบหนึ่งมีความเป็นแพทเทิร์นเหมือนๆกันต้องการปลดปล่อยก็เลยรีเควสน้องๆเอ๊กซ์ตร้าเยอะนิดนึงแล้วให้ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันแล้วมายืนในฉากเพื่อทำให้ฉากนั้นดูแน่นสวยงามและยังตรงกับสิ่งที่บทต้องการด้วยตัวอย่างเช่นฉากออฟฟิศและฉากรับน้อง
เอาจริงๆสองอย่างนี้ก็ไม่เคยได้ลองทำจริงๆจังๆสักทีเดียวก็ได้ลองทำเต็มๆในงานนี้/ ถ้าอ่านแล้วชอบอยากแนะนำให้ลองกลับไปดูตัวหนังอีกรอบหนึ่งน่าจะสังเกตเห็นกันมากขึ้นนะ🙂
==================
.
.
.
ย้อนอ่านตอนที่1 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/40155164/