โดนด่าว่าสก๊อยค่ะ.

ถ้าไม่อ่านสรุปจะบอกว่าเราพิมพ์ยาวมากค่ะ;-;


****มีสรุปข้างล่างสุดค่ะ!!!


ตอนม.1-2เทอม1 หนูค่อนข้างเรียบร้อย ตั้งใจเรียนในชั่วโมงระดับนึง แต่ไม่ได้ขยันมาก หนูเป็นติ่งkpop ส่วนตัวชอบเต้นค่ะ ชอบเต้นมาก จนปัจจุบัน(ม.3)เต้นนออกมาได้ดี หนูแต่งหน้าไปเรียนค่ะ ทาครีมกันแดดแต่แบบเบาบางไม่ได้ช่วยให้หน้าขาวค่ะ ทาแค่ลิปมันเปลี่ยนสี วันๆอ่านแต่นิยาย เล่นเกมค่ะ ติดนิยายหนักมาก จนกลายเป็นคนเงียบ ไม่ได้ใส่กระโปรงอยู่ในความยาวพอดีค่ะ ถุงเท้ายาวคลุมข้อ

ม.2เทอม2หนูได้ย้ายไปร.รแถบนนทบุรี หนูเริ่มถ่ายรูปในฟิลเตอร์ไอจี เริ่มถ่ายรูปบ่อย การไปอยูที่นั้นทำให้หนูกล้าแสดงออกในหลายๆเรื่อง กล้าที่จะพูดแสดงความคิดเห็น กล้าที่จำสิ่งในที่ชอบมากขึ้น หนูขึ้นโชว์เต้นcoverคนเดียว เป็นเด็กกิจกรรมกับวิชาการ(ลงโครงงานกับค่ายต่างๆ)

ม.3หนูย้ายกลับมาเรียนที่เดิม หนูเริ่มเต้นtiktokค่ะ ส่วนใหญ่เต้นเพลงสากล ไม่ค่อยเต้นเพลงไทย หนูเริ่มเปิดเพลงkpopเต้นในห้องเรียนตอนช่วงพักเที่ยง แต่ไม่ได้เต้นน่าเกลียด แหกแข้งแหกขา หนูก็ใส่ชุดนักเรียนถูกกฎ งานส่งทุกงาน ไปติวสอบกับเพื่อน ซื้อคอสเรียนแบบเทปเรียนอยู่บ้าน แล้วหนูขับรถไม่เป็นค่ะ ไม่เคยคิดจะแต่งนถเพราะส่วนตัวไม่ชอบ ไม่เคยซ้อนท้ายรถผู้ชายแล้วไปแว้นรบกวนชาวบ้าน เพราะหนูก็ยังเอาเวลาว่างไปที่อ่านนิยาย ดูอนิเมะ

เพื่อนหนูคนนึงบอกว่าหนูเปลี่ยนไป ค่ะ หนูเปลี่ยนไป หนูเริ่มทาแป้งและลิปสี แต่หนูไม่ได้ทาเข้มค่ะทาให้ปากพอดูอมชมพูเพราะส่วนตัวปากคล้ำเพราะเลียปากบ่อยค่ะ หนูเริ่มพูดตรงกับเพื่อนในหลายๆเรื่อง ปกติเวลาเพื่อนปรึกษาหนูหนูมักจะพูดให้เพื่อนมีความสุขโดยไม่สนว่าจะมีเหตุผลหรือมันถูกต้องมั้ย

ถ้าเป็น% 80%คือพูดเท็จให้เพื่อนมีความสุข 20%คือความจริงที่พูดอ้อมๆหวังเพื่อนจะคิดได้ ปัจจุบันหนูจะพูดกับเพื่อนตรงๆอาจจะมีคำที่แบบเพื่อนไม่ได้หวังที่จะได้ยิน หนูพูดไปเพื่อให้เขาคิดในของอีกฝ่ายที่มีปัญหากับเพื่อนเรา อย่างเช่น เพื่อนเราไปด่าเขา แต่แค่อยากหยอก แล้วบอกว่าแค่พูดเล่นๆ เวลาเพื่อนเล่าแบบนี้ให้เราเรามักจะตอบว่าแล้วเพื่อนเล่นด้วยมั้ย เราเข้าใจว่าเพื่อหวังให้พูดเข้าข้างเพื่อนแหละ ถ้าเป็น% 90%คือพูดมีเหตุผลมากขึ้นพูดตามความจริงที่น่าจะสมเหตุสมผลสุดและพยายามไม่กระทบจิตใจเพื่อนที่มาปรึกษา 10%เราพูดให้เพื่อนดีใจเราพูดเข้าข้างในบางช่วง เราสงสารเพื่อนเราไม่อยากให้เพื่อเสียใจ

และย่อหน้าข้างบนที่เราพิมพ์ไปน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดที่สุด คือการพูดค่ะ เราเริ่มพูดกู- พูดคำว่าว่าไอ้สัส  ยิ้ม เราพูดแค่นี้ค่ะ เพราะเราไม่กล้าพูดเยอะกว่านี้แล้ว เมื่อก่อนเราพูดเค้า-ชื่อเพื่อน มีคำหยาบที่ด่าบางคำ แต่ปัจจุบันเราก็พูด เค้า อยู่นะแค่สลับพูดไปมา


พอkโทรมาก็เล่าเรื่องให้ฟัง สุดท้ายเขาบอกเราว่า อย่าเป็นสก๊อยเหมือนอิพวกนั้นนะ แล้วก็พูดยาว เราเลยถามไปว่าเราเป็นสก๊อยปล้วหรอ kบอกว่า เริ่มเป็นสก๊อยละ เรารู้สึกไม่ชอบมากที่โดนพูดใส่แบบนี้ เราเลยบอกเขาไป”ขนาดท้องฟ้ายังเปลี่ยน จะมาหวังให้เป็นแบบเดิมตลอดก็ไม่ได้” คือเราหงุดหงิดมาก

เราเริ่มนึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเรา แต่ที่เราทำๆมมันคือความสุขของเรานะ เราเริ่มทาแป้งทาลิปสี แต่เราไม่ทาจนหน้าวอกหน้าลแย ปากแดงจ๋า เราเริ่มพูดตรงอย่างสมเหตุสมผลที่สุดที่เราทำได้ เราเริ่มพูดคำหยาบเพราะเราเริ่มติดมาจากสังคมอื่น เราเริ่มกล้าเต้น แต่เราไม่ได้เต้นร่อนเอว หรือท่าที่นอนดึ๊บๆที่พื้น คลุกขี้ดินไปมาหรอกนะ เราไม่แต่งท่อ แต่งรถด้วย แค่รถยังขับไปเป็นเลย อยู่บ้านปั่นแต่จักรยานคิตตี้!



***สรุปจากที่พิมพ์!!!!



การเปลี่ยนแปลงของเรา
1.กล้าแสดงออกมากขึ้น(เต้นtiktokเพลงสากล เต้นkpopในห้องตอนพักเที่ยง แต่ไม่ได้เต้นจนน่าเกลียดนะ)
2.เริ่มพูดตรงๆ(เมื่อก่อนเรามักจะเงียบ ไม่ปฏิเสธคนเพราะไม่อยากให้เพื่อนเสียใจ พูดเข้าข้างเพื่อน ปัจจุบันเรา เราเริ่มพูดตรงอย่างสมเหตุสมผลที่สุดที่เราทำได้ เริ่มปฏิเสธเพราะเราเหนื่อย)
3.เริ่มแต่งหน้า (ทาแป้งพอหน้าไม่มัน ทาลิปสีพอปากอมชมพู)
4.พูดคำหยาบ (พูดกู สัส  ยิ้ม)



ขอโทษที่พิมพ์ยาวนะคะ ทุกคนคิดว่าไงจากที่พิมพ์มาคะ เราเป็นสก๊อยมั้ย นิยายของสก๊อยที่เราเสริชมาคือผญ.ซ้อมท้ายผู้ชายที่แว้นรบกวนคนอื่น ที่เราพิมพ์ทั้งหมดคือเรื่องจริงค่ะ  ส่วนเรื่องของKเราอยากรู้จากคนอื่นๆว่าเหตุการณ์ของkที่เก้ดขึ้นมันเกี่ยวกับเหตุผลที่เขาด่าเราสก๊อยมั้ยหรือไม่เกี่ยว และเหตุการณ์ที่ของเราที่เล่ามาเข้าค่ายสก๊อยมั้ยคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่