🙏วัดนางสาว🙏อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
📸ถ่ายภาพวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
⭕️ภาค1 พาไปชมมณฑปวิหารหลวงพ่อดำและ มณฑปวิหารหลวงพ่อป่าเลไลยก์กันก่อนครับ 📌เมื่อเดินทางมาที่วัดนางสาวถ้าขับรถเข้าไปทางด่านริมแม่น้ำจอดรถปุ๊ปก็จะเห็นอาคารศาลาใหญ่โต และมี มณฑบอยู่2 ข้าง ซึ่เป็นที่ประดิษฐาน วิหารหลวงพ่อดำ ทางขวา และมณฑบทางซ้ายจะเป็นที่ประดิษฐาวิหารหลวงพ่อป่าเลไลย์ หันหน้าไปทางแม่น้ำ (ทิศตะวันตก)
**หลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อายุเกือบร้อยปีเป็นที่นับถือและสักการะของประชาชนทั่วไปทั้งจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียง ตามที่เขาเล่ากันว่าเมื่อก่อนมีเจ้าอาวาสท่านนึงจะสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนโบสมหาอุตเก่าแก่ที่อยู่ริมแม่น้ำ ก็ได้หล่อพระประธานไว้ก่อน แต่ก็ไม่ได้สร้างพระอุโบสถใหม่สักทีจนผ่านมาหลายรุ่นของเจ้าอาวาส หลวงพ่อดำจะถูกไว้อยู่กลางแจ้งโดนแดดโดนฝนจนผิวขององค์ท่านเป็นสีดำชาวบ้านจึงเรียกหลวงพ่อดำกันมาจนทุกวันนี้ จนมาสร้างวิหาร ประดิษฐานท่านไว้ กับ วิหารพระป่าเลบไลย์อย่างที่เห็นในทุกวันนี้ครับ
-----------------------------------
🙏เล่าประวัติคร่าวๆของวัดนางสาวตามตำนานให้อ่านกันก่อน
วัดนางสาว เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งนึงในจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีสิ่งเก่าแก่คือ 📌“โบสถ์มหาอุด”สมัยอยุธยาจะมาเสนออีกทีในตอนถัดไปนะครับ ⭕️ประวัติความเป็นมาของวัดมีเรื่องเล่ากันว่า เมืองสาครบุรี คือ เมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดสงครามในพม่าชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้อพยพหนีมาตามริมแม่น้ำท่าจีน คนชราและผู้หญิงได้พากันไปหลบซ่อนในโบสถ์เก่า ต่อมาคนไทยได้ช่วยกันต่อสู้กับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ และผู้ที่อพยพมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ในกลุ่มนี้มีสองพี่น้องที่เคยอาศัยโบสถ์หลบหนีภัย ทั้งสองมีความคิดที่จะบูรณะโบสถ์ใหม่ แต่พี่สาวเห็นว่าโบสถ์ทรุดโทรมมากจึงไปสร้างวัดใหม่แทน น้องสาวต้องการทำตามสัจจาธิษฐานของตนว่าถ้ารอดตายจะบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ จึงดำเนินการบูรณะจนเสร็จและตั้งชื่อว่า วัดพรหมจารีย์ ต่อมาชาวบ้านเรียกว่าวัดน้องสาว จนปัจจุบันเพี้ยนมาเป็น วัดนางสาว
------------------------------------
ในวัดนางสาวยังมีสถานที่น่าสนใจในวัดหลายจุดนะครับผมจะเล่าแบ่งเป็นตอนๆเหมือนโพสวันอื่นๆทีผ่านมาครับ โปรดติดตามตอนต่อไป วัดนางสาว ในโพสหน้าครับ 💙