คนเป็นแม่คิดอย่างไรถ้าลูกสาวพาแฟนมาค้างที่บ้านโดยไม่ได้แต่งงาน

สวัสดีค่ะ จขกท อายุสามสิบปลายๆแล้วค่ะ มีแฟนที่คบมาเกือบ6ปี และยังไม่ได้แต่งงานกัน
แฟนเราจะมาค้างที่บ้านเราทุกๆปลายสัปดาห์ เป็นแบบนี้มาเกือบ6ปี โดยไม่เคยพูดเรื่องแต่งงาน
ถามว่าเราอยากแต่งไหม ก็อยากทำอะไรๆให้ถูกต้องมากกว่าค่ะ สงสารแม่ แต่ก็กลัวเรื่องสินสอด
เพราะเรารู้ว่าแม่อยากได้เยอะๆแน่ๆ
ส่วนแฟนเรา มีเงินเก็บนะคะ เก็บเงินเก่งด้วย แต่ก็เอาไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หมด
เค้าบอกว่าอยากซื้อเก็บไว้เก็งกำไร หรือเอาไว้เป็นทำเลเปิดร้านค้า
เราก็ได้แต่อึดอัดใจค่ะ เป็นคนกลาง ไม่รู้จะทำยังไงดี
แฟนเองก็แสดงออกเลย ว่าเสียดายเงินค่าสินสอด
เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆค่ะ
ห่วงความรู้สึกแม่ก็ห่วง เรามักจะคิดว่า เราอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าลงทุนก็ได้ค่ะ แฟนเลยคิดว่าไม่คุ้มที่จะจ่ายเม่าเหม่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 106
อ่านเม้นแล้วโมโหมากๆ เราทั้งหมดล้วนไม่รู้รายละเอียด ทั้งนิสัยแฟน ข้อดีข้อเสียแฟน พื้นเพจขกท นิสัยแม่จขกท แต่หลายคนด่าจขกทสาดเสีย ย่ำยีแม่บ้าง ให้ฟรีบ้าง เราเกลียดค่านิยมที่ตีค่าผญเป็นเหมือนสินค้า เป็นสมบัติมากๆ ถ้าทั้งจขกทและแฟนไม่ได้ร่ำรวยล่ะ?ถ้าการที่เขาเอาเงินทั้งในชีวิตเขามาเป็นค่าสินสอดเพราะความหน้าใหญ่ของแม่ยายล่ะ?แล้วถ้าแม่ยายฮุบหมดล่ะ?แล้วถ้าเกิดเรื่องต้องใช้เงินไม่มีขึ้นมา ปัญหาเกิดตามมา ทีนี้คนสองคนแตกหัก พวกคุณทั้งหลายคงจะพอใจกับการแต่งงานเพื่อแค่รักษาหน้าใช่มั้ย?

ถึง จขกท นะคะ พวกเราทั้งหมดมันคนนอก จขกทลองถามเพื่อนที่สนิทดูจะโอเคกว่า เราไม่รู้จขกทมีทัศนคติในชีวิตยังไง คนใกล้ตัวจะบอกดีที่สุด ว่าผู้ชายคนนี้โอเคไหม แม่คุณโอเคไหม และสุดท้ายอย่าลืมถามตัวเองว่าคุณโอเคกับทางไหน ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้มองว่าการจัดงานแต่งคือเรื่องสำคัญในชีวิตขนาดนั้น ถ้าเรียบง่ายก็แค่ผูกข้อไม่ข้อมือ กราบผู้ใหญ่แต่ละฝ่าย ที่สำคัญคือจดทะเบียนสมรส เอาเท่าที่เราไหวค่ะ และการอยู่กินกันก่อน มันไม่ได้แปลว่าคุณฟรี ทัศนคตินี้ควรหมดไปจากสังคมไทยได้แล้ว ทั้งผญผชได้ผลประโยชน์กันทั้งคู่ ได้ลองใช้ชีวิตด้วยกันก่อน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไรเลย ดีกว่าการแต่งงานและสรุปอยู่ด้วยกันไม่ได้ สิ่งที่ได้คือหน้า แต่ถ้าเลิกกันคนนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณก็แค่นินทาสนุกปาก แต่ไม่ได้ช่วยอะไรชีวิตคุณเลย

ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าเราเป็นแม่ เราคงเสียใจ
ที่ลูกไม่รู้จักคุณค่าของตัวเอง
และไม่รู้จักถนอมน้ำใจแม่
ปล่อยให้คนมาเอาเปรียบถึงบ้านตัวเอง

ถ้าเขารักคุณจริง ต้องให้เกียรติมากกว่านี้
เกียรติคือทำพิธี ไม่ใช่เรื่องเงินทอง
ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ คุณต้องกลับไปทบทวนว่า
คนๆ นี้ มีค่ากับชีวิตคุณถึงขนาดนั้นเชียวหรือ
ความคิดเห็นที่ 4
เรามักจะคิดว่า เราอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าลงทุนก็ได้ค่ะ แฟนเลยคิดว่าไม่คุ้มที่จะจ่าย

จขกท อาจคิดถูกครับ ผมไม่ได้ว่าคุณนะ แค่แชร์ในมุมเรียล ๆ ของโลกฝั่ง ผช. ซึ่งระยะเวลาที่คบกับความรู้สึกเรื่องการแต่งงานมีโอกาสที่จะสวนทางกับฝ่ายหญิง ผช. คบกับ ผญ ไปหลายปี เช่น เกินครึ่งทศวรรษขึ้นไป และยังได้ไป ๆ มา ๆ นอนบ้านกันแล้ว Passion ที่จะแต่งงานมีโอกาสเหลือน้อย

ณ เวลานี้ยังรักไหมไม่รู้ แต่คิดว่าผูกพันแน่นอน สามารถคบต่อไปได้เรื่อย ๆ หากไม่มีเหตุจำเป็นต้องเลิกก็คงไม่เลือก เลิก (พิมพ์ผิด) แต่ไม่สเน่หามากพอที่จะอยากแต่งงานด้วยเหมือนเมื่อแรกเจอครับ ณ จุดนี้คงต้องเผื่อใจ 50/50 ครับ
ความคิดเห็นที่ 20
โกรธสิ โกรธลูก โกรธตัวเอง
โกรธลูก ที่ไม่เห็นหัวแม่
โกรธตัวเอง ที่สอนลูกมาอย่างไร จึงไม่รู้จักคิด

แต่งงาน ไม่ต้องใช้เงินเลยก็ได้ โอเคใช้บ้าง แต่ไม่ถึงขนาดจะจัดหาไม่ได้
แค่แสดงให้แม่เห็นว่า รักกันจริง มีการงานที่มั่นคง
เอาทรัพย์สินทุกอย่างที่มี มาแสดงให้แม่ดู  เป็นสินสอด
กราบสู่ขอลูกสาวท่าน ไม่ต้องรบกวนผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนให้ยุ่งยาก
มีพิธีทางศาสนา ที่บ้าน ที่วัด หรือที่รพ.สงฆ์ก็ได้
แล้วจดทะเบียนสมรส รับประทานอาหารร่วมกันในหมู่เครือญาติ เพื่อนสนิท
แค่นี้เอง
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่อยากให้อะไร แต่ก็ยังไปนอนบ้านเขาทุกปลายอาทิตย์ แหมก็นะ
ความคิดเห็นที่ 6
ควรทำพิธีให้ถุกต้องสินสอดมากน้อยก็ควรให้แม่ และตกลังกันเอง
ส่วนคุณบอกแม่ไปว่าขอให้เป็นพิธีที่ถุกต้องแต่อย่าเรียกค่าสินสอดเกินกำลัง
ส่วนแฟนคุณถ้ารักกันจริงควรทำพิธีให้ถูกต้องเพราะพวกคุณคือคนไทย สินสอดให้เพื่อเป็นพิธี หรือให้เท่าไหร่ก็คุยกันเอาเอง พ่อแม่จะได้สบายใจไม่อายเพื่อนบ้าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่