การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ไม่อยากเดินทางเป็นที่สุดเนื่องจากเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเราและครอบครัว
แต่ทั้งหมดทั้งมวลเราทุกคนก็หนีช่วงเวลานั้นไม่พ้น เราเดินทางกลับจากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย วันที่19 กรกฎาคม 2563 โดยสารการบิน emirate
อันดับแรกทางเราต้องขออนุญาตจากทางการออสเตรเลีย Australian Border Force เพื่อเดินทางออกนอกประเทศเพราะเราเป็นผู้พำนักอาศัยถาวรและหรือผู้ที่ถือสัญชาติออสเตรเลีย ใช้เวลารอการอนุมัติทั้งสิ้น 3 สัปดาห์ เราต้องแนบเอกสารสำคัญต่างๆพร้อมทั้งระบุเหตุผลที่ต้องการออกนอกประเทศออสเตรเลีย เร่งไม่ได้ รีบที่สุดก็ต้องรอ.......
จากนั้นเราถึงทำการยืนยันการเดินทางกับกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ (ถ้าไม่มีเอกสารอนุมัติจากทางการออสเตรเลีย เราจะไม่สามารถบินออกนอกประเทศออสเตรเลียได้และทำการสำรองที่นั่งกับกงสุลไม่ได้อีกด้วย)
ถึงเวลาบินเป็นช่วงที่ไม่ปกติมาก เรายืนรอเช็คอินเป็นเวลา 2.30 ชั่วโมง จากนั้นต้องผ่านตม และผ่านการตรวจเช็คต่างๆอีก สรุปคือโดน final call
ทั้งๆที่ไปถึงสนามบินล่วงหน้า 3 ชั่วโมงเป็นปกติของการบินออกต่างประเทศ ร้านค้าในสนามบินปิดเกือบหมด สนามบินเงียบเหงามากเช่นกัน
การโดยสารมาครั้งนี้ทุกคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา (ยกเว้นเวลาทานอาหาร) การบริการเสมือนปกติที่ไม่ปกติ
ที่นั่งโดยสารมีระยะห่างนั่งที่เว้นที่แต่นั่งทุกแถวคือไม่ได้รู้สึกว่ามีระยะห่างอะไร
รอแถวเพื่อทำการเช็คอิน นานมาก
ส่วนด้านนี้รอแถวเพื่อเตรียม security check
ถุงใช้จำเป็นจากกงสุล มีขนม หน้ากากอนามัย เจลแฮลกอฮอล์
การเดินทางที่ไม่อยากเดินทาง COVID-19 ซิดนีย์-กรุงเทพฯ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลเราทุกคนก็หนีช่วงเวลานั้นไม่พ้น เราเดินทางกลับจากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย วันที่19 กรกฎาคม 2563 โดยสารการบิน emirate
อันดับแรกทางเราต้องขออนุญาตจากทางการออสเตรเลีย Australian Border Force เพื่อเดินทางออกนอกประเทศเพราะเราเป็นผู้พำนักอาศัยถาวรและหรือผู้ที่ถือสัญชาติออสเตรเลีย ใช้เวลารอการอนุมัติทั้งสิ้น 3 สัปดาห์ เราต้องแนบเอกสารสำคัญต่างๆพร้อมทั้งระบุเหตุผลที่ต้องการออกนอกประเทศออสเตรเลีย เร่งไม่ได้ รีบที่สุดก็ต้องรอ.......
จากนั้นเราถึงทำการยืนยันการเดินทางกับกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ (ถ้าไม่มีเอกสารอนุมัติจากทางการออสเตรเลีย เราจะไม่สามารถบินออกนอกประเทศออสเตรเลียได้และทำการสำรองที่นั่งกับกงสุลไม่ได้อีกด้วย)
ถึงเวลาบินเป็นช่วงที่ไม่ปกติมาก เรายืนรอเช็คอินเป็นเวลา 2.30 ชั่วโมง จากนั้นต้องผ่านตม และผ่านการตรวจเช็คต่างๆอีก สรุปคือโดน final call
ทั้งๆที่ไปถึงสนามบินล่วงหน้า 3 ชั่วโมงเป็นปกติของการบินออกต่างประเทศ ร้านค้าในสนามบินปิดเกือบหมด สนามบินเงียบเหงามากเช่นกัน
การโดยสารมาครั้งนี้ทุกคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา (ยกเว้นเวลาทานอาหาร) การบริการเสมือนปกติที่ไม่ปกติ
ที่นั่งโดยสารมีระยะห่างนั่งที่เว้นที่แต่นั่งทุกแถวคือไม่ได้รู้สึกว่ามีระยะห่างอะไร
รอแถวเพื่อทำการเช็คอิน นานมาก
ส่วนด้านนี้รอแถวเพื่อเตรียม security check
ถุงใช้จำเป็นจากกงสุล มีขนม หน้ากากอนามัย เจลแฮลกอฮอล์