ขอเริ่มเล่าที่มาปัญหาจนมาถึงขั้นตัดสินใจทำ ICSI นะคะ เราแต่งงานกับสามีมา 8 ปี ปัจจุบัน เราอายุ 35 แล้วค่ะ สามีอายุ 40 พอดี หลังแต่งงานเคยมีตรวจสุขภาพก่อนมีลูกที่โรงพยาบาลผลก็ปกติ แต่จนเข้าปีที่ 2 ก็ยังไม่มีลูก เลยไปตรวจสภาวะมีบุตรยากพบว่า มีปัญหาที่คุณสามีน้ำเชื้อน้อย และอ่อนแอ สาเหตุจากความเครียดจากการทำงาน บวกกับมีกินเหล้า และสูบบุหรี่ร่วมด้วย ส่วนเราเคยประวัติผ่าซีสในรังไข่ คุณหมอแจ้งว่ายังสามารถมีลูกได้อยู่ เพราะอายุยังไม่เยอะ ให้ลองวิธีธรรมชาติไปก่อน เน้นอาศัยการพักผ่อนให้เพียงพอ อาหารการกิน และบริหารความเครียดของตัวเองดีๆ พร้อมแนะนำวิธีการทำ IVF/ICSI แต่ช่วงนั้นติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ยังใช้วิธีธรรมชาติมาตลอด แต่ก็ยังไม่มีสักที ซึ่งอยู่ในช่วงที่เรากำลังอยู่ในช่วงสร้างครอบครัว สร้างฐานะไว้เตรียมตัวที่จะมีลูก ก็ผ่านมาหลายปีเลย แต่ยังไม่มีวี่แววจนปีที่แล้วตัดสินใจปรึกษาคุณหมอเรื่องการทำ ICSI ที่ iBaby Fertility ตามรอยเพื่อนของสามี เขาแนะนำให้มาที่นี่

          ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ เรากับสามีเข้ากระบวณการเมื่อช่วง มกราคมปี 63 ที่แล้ว วันแรกที่เขาปรึกษากับคุณหมอ คุณหมอมีซักประวัติครอบครัว เคยมีลูก การทำแท้ง โรคประจำตัว และความถี่ในการมีร่วมกิจกรรม ต่อสัปดาห์ ต่อเดือน และก็มีซาวน์ดูไข่ ขนาดไข่ ผนังมดลูก ว่ามีพังพืดหรือซิสไหม เริ่มด้วยการแนะนำเริ่มต้นให้ทำ IUI คือการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก เป็นวิธีใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด แต่ทำแล้วก็ยังไม่ติดค่ะ ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่แพงมาก แต่เลยขอข้ามรายละเอียดตรงนี้นะคะ ระยะเวลาในช่วงทำ IUI ประมาณ 2 เดือน (ม.ค - ก.พ.) 

          11/05/63 ปรึกษาเข้ารับการทำ ICSI จริงจัง คุณหมอนัดตรวจฮอร์โมนอีกครั้ง ต้องหลังรอประจำเดือนมาก่อนจึงเริ่มได้
          16/05/63 ประจำเดือนมาวันแรกค่ะ
          17/05/63 หลังประจำเดือนมา 2 วัน ก็นัดเจาะเลือดตรวจฮอร์โมน 8 ตัว เพื่อดูความพร้อม มี  LH  ,  FSH  ,  PRL   , E2 , AMH , TSH , FT3 ,FT4

          22/05/63 คุณหมอนัดอัลตาร์ซาวน์ช่องคลอดครั้งแรก เพื่อประเมินจำนวนไข่และดูผนังมดลูก เคสเราได้จำนวนไข่ 12 ใบ ผนังมดลูกหนา 9.5mm  และบอกผนังมดลูกอยู่ในเกณฑ์ดี และได้ยากระตุ้นไข่ 4 วัน และยาป้องกันไข่ตก Certrotide 0.25 mg  อีก 4 วัน 
( ยากันไข่ตกตัวนี้ ตอนฉีดเจ็บมากค่ะ T_T)

          26/05/63 มีนัดอัลตาร์ซาวด์ช่องคลอดครั้งที่ 2 ดูจำนวนไข่ประมาณ 15 ใบ ผนังมดลูกหนา 9.5 mm และให้ยาไข่ตก 1 เข็ม ฉีดตามเวลาที่คุณหมอแจ้ง และวันถัดไปคุณหมอนัดเก็บไข่ทันที 
         (ทำใจเรื่องการเจาะเลือดนิดนึงนะค่ะ เดี่ยวจะค่อยๆชินไปเอง -*-  )
         (สำหรับคนที่ได้ไข่เยอะๆ อาจจะรู้สึกดีเพราะทำได้หลายครั้ง แต่ คุณหมอแจ้งว่าอาจจะไม่ได้ดีเสมอไป เพราะอาจจะมีผลข้างเคียง มีโอกาสจะท้องบวมน้ำ ถ้ามีเยอะเกินไปต้องเจาะน้ำออก เจ็บตัวอีก คุณหมอจะคอยให้กำลังใจตลอดเลย เพราะไม่อยากให้เราเครียดค่ะ )

          เราใช้ชีวิตตามปกติเลยค่ะ เน้นแค่อาหารที่กินเพิ่ม กินไข่ต้มวันละ 3 ฟอง กินน้ำเต้าหู้ทุกวันเลย  มีกินอาหารเสริมโปรตีน เมล็ดฟักทอง น้ำขิง น้ำมะกรูด  และมีวิตามิน Elevit กับ Folic acid blackmore เสริม ส่วนแฟนเราในช่วงเริ่มทำ ก็พยายามลดบุหรี่ กับหยุดไปกินเหล้าเบียร์กับเพื่อน และแต่ยังคงบ้าทำงานอยู่เพราะมันหยุดไม่ได้ค่ะ และให้ไปวิ่งบนลู่วิ่งฟิตเนททุกวันะ ส่วนกิจกรรมร่วมรัก มีห่างกันวันเว้นวัน แต่ก่อนวันเก็บเชื้องด 3วัน ค่ะ ส่วนอาหารเสริม มีตัว Z-Bec เสริม น้ำมะเขือเทศ ไข่ต้มวัน 3 ฟอง ส่วนใหญ่เรากินอะไร สามีก็จะกินตามด้วยค่ะ 55555+

          หลังจากกลับมาบ้านเราก็นอนพักยาวเลยค่ะ มีกินยาตามที่คุณหมอให้ตามเป๊ะๆ  จะมีก็อาการปวดท้องหน่วงๆเหมือนปวดประจำเดือน เวลาเดินขึ้นบันได ก็ปวดค่ะ ต้องเดินช้าๆ ช่วงนี้สามีดูแลเป็นพิเศษ ปลื้มค่ะ 55555+ เราขอลางานเพิ่ม 1 วันหลังจากนั้นก็ไปทำงานได้ตามปกติค่ะ แต่พยาบาลแนะนำให้กินอาหารจำพวกโปรตีน เรามีกินไข่ขาวกับพวกอาหารเสริมโปรตีนเพิ่ม ด้วย เป็นช่วงเริ่มบำรุงผนังมดลูกเราให้แข็งแรง เพื่อลูกจะได้เกาะได้แน่นๆ^^

          อาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น เราไม่มีค่ะ แต่พยาบาลแนะนำวัดรอบเอวหลังจากเก็บไข่ เพื่อดูว่ารอบเอวเรามีขนาดเพิ่มไหม ถ้าขยายขึ้น เป็นผลมาจากร่างกายตอบสนองยากระตุ้นไข่มากไป สภาวะนี้เรียกว่า OHSS เหมือนร่างกายบวมน้ำประมาณนั้น ตอนแรกเพราะเรามีปรึกษากับภรรยาของแฟนสามี เขาเล่าให้ฟัง ถ้าเป็นต้องกินเกลือแร่ และดื่มน้ำให้น้อยลง  แต่เคสเราไม่เป็นค่ะ ถือว่าปกติ ค่ะ
  
          31/05/63 ดูผลรายงานตัวอ่อนทาง Email ผลยอดเก็บไข่ ลุ้นมากเรื่องจำนวนไข่ ตัวอ่อน เกรดไหนบ้าง สรุปคือ ณ วันเก็บไข่ เก็บไข่ได้ทั้งหมด 14 ฟอง ผสมตัวอ่อนที่ใช้ได้จริงเหลือ 11 ฟองค่ะ (Day 3) ที่เหลือผสมแล้วไม่ฟักเป็นตัวอ่อน  ได้เป็นเกรด A = 5 ตัว  B= 6 ตัว  ตอนนั้นใจชื้นเพราะคิดในใจว่าขอมีเกรด A บ้างเถอะ ดีใจมากค่ะ

          2/06/63 มีตัวอ่อน (Day 5) ระยะบลาสโตซิส เหลือทั้งหมด เหลือ เกรด A =  0 ตัว (แอบเสียใจค่ะ แต่คุณหมอก็ให้กำลัง ว่าบางครั้งใช้เกรด A แต่ถ้าคุณแม่มดลูกไม่พร้อมก็ไม่ติดเหมือนกัน อยู่ที่ตัวคุณแม่ด้วย สรุปเหลือทั้งหมด  B = 8 ตัว C=3  ตัว รวม  11 ตัว  และทางคลินิกจะมีตรวจโครโมโซมตัวอ่อนเพิ่มด้วยเนื่องจาก เราเข้าเกณฑ์อายุ 35 ปีขึ้นไป มีโอกาสที่จะมีความผิดปกติของโครโมโซมด้วย จะทราบผลในอีก 2  วัน และทำการ ฟรีสตัวอ่อนวันนั้นเลย หลังจากนี้จะเป็นช่วงที่เราต้องเตรียมตัว เตรียมมดลูกให้ดีๆค่ะ
          5/06/63 วันนี้คุณหมอนัดอธิบายผลเก็บไข่และระยะตัวอ่อนอีกรอบ และแนะนำให้ใช้ตัวอ่อน Day 5 เกรด B ใส่พร้อมกันทีเดียว 2 ตัวเลย มีโอกาสได้ลูกแฝด  และผลตรวจโครโมโซม ตัวอ่อนมีโอกาสความผิดปกติของโครโมโซมของเราอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เป็นปกติ 6 ตัว ถือว่าใช้ได้  เรากับสามีโล่งใจมากก หลังจากนั้นคุณหมอก็นัดครั้งต่อไปหลังประจำเดือนรอบที่ 2 มาแล้วประมาณ 2 วันเพื่อเตรียมมดลูกค่ะ
(คุณหมอแอบบอกว่า ถือว่าเคสเราโชคดีมากๆ ดีกว่าเคสคนอื่นที่คุณหมอเจอมาหลายๆเคสเลย เรื่องจำนวนที่ได้และเกรดของตัวอ่อน)

          7/06/63ประจำเดือนมาครั้งแรก เราเริ่มทำเรื่องลางานล่วงหน้า เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆไว้ค่ะ ช่วงนี้ก็พยายามออกกำลังกาย เบาๆไม่หนักมาก เน้นเดิน วันละประมาณ 30 นาที

          8/06/63 หลังประจำเดือนมาเข้าวันที่ 2 วัน ตอนนี้จะเป็นช่วงเริ่มกระตุ้นมดลูก คุณหมอให้ยากระตุ้นมดลูก คุณหมอสั่งยา Progynova 2 mg ให้กินเช้ากลางวันเย็น และ ทุกๆ 1 สัปดาห์ คุณหมอจะนัดอัลตราซาวน์ผนังมดลูก ประมาณสัปดาห์ที่ 2 (14 วันหลังเริ่มกินยา) ผนังมดลูกหนาประมาณ 10.2 มิล.ไม่พบซีสใดๆ  ถือว่าพร้อมกับการใส่ตัวอ่อน และคุณหมอสั่งละลายตัวอ่อน และ นัดอีกหลังจากนั้น 5 วัน มีกินยา Progynova 2mg มียาเพิ่มคือ Utrogestran สำหรับสอดเช้าเย็น และงดมีเพศสัมพันธ์ ออกกำลังกาย และงดกินอาหารที่ทำให้มีโอกาสท้องเสีย

            ขั้นตอนการใส่ตัวอ่อน