สวัสดีค่า...วันนี้ติ๊กก็จะมาแชร์ประสบการณ์ แก้จมูกด้วยเกล็ดเลือดของตัวเอง ที่ติ๊กเพิ่งไปทำมาสดๆร้อนๆเลยนะคะ ก่อนที่ติ๊กจะเริ่มแชร์ประสบการณ์แก้จมูก รีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกันเนี่ย ต้องท้าวความไปก่อนว่าก่อนหน้านี้ ติ๊กเคยเสริมจมูกมาก่อนแล้ว 6 ปี จมูกซีรี่ย์แรกนี่ตั้งตั้งแต่ปี 2014 เป็นเสริมซิลิโคนธรรมดาแบบเพียวๆนี่แหละค่ะ ตอนนั้นเทคโนโลยีต่างๆมันก็ยังไม่ทันสมัยเหมือนตอนนี้อ่ะเนอะ ซึ่งติ๊กต้องบอกก่อนว่าที่แก้จมูกเนี่ย จมูกเก่าติ๊กไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยนะคะ แต่ด้วยความชอบและเทรนด์ที่เปลี่ยนไป อายุเราก็เพิ่มขึ้น แต่ความสวยมันยังต้องมีไง ตัวติ๊กเองเลยอยากทำจมูกให้เฉี่ยวกว่าเดิม แบบเปรี้ยวมากขึ้น ดูผู้ใหญ่มากขึ้น ให้เหมาะกับอายุเรา นั่นคือเหตุผลที่ติ๊กตัดสินใจ “แก้จมูก”
เสริมครั้งแรก ปี 2014 ตอนนั้นเราเน้นแบบธรรมชาติ มันก็จะดูแบบเด็กๆ
การแก้จมูกในครั้งนี้ของติ๊ก ติ๊กเลือกทำที่เดิมค่ะ (ที่เดียวกับที่ทำจมูกมาครั้งแรก) ก่อนแก้ก็มีแอบคิดนะว่าจะแก้จมูกที่ไหนดี แต่คิดไปคิดมาก็เลือกที่เดิม เพราะติ๊กไว้ใจที่นี่ที่เดียวค่ะ อย่างที่บอกจมูกเก่าเราจริงๆมันก็ไม่ได้มีปัญหา ก็สวยประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ไม่ใช่แค่ผลหลังทำที่ได้ เราประทับใจในตัวคุณหมอ การบริการทั้งก่อนและหลังทำจมูก ติ๊กเลยไม่ได้เปลี่ยนไปทำที่ไหน เพราะความไว้วางใจเงินซื้อไม่ได้เลยค่ะ ถ้ามันดีอยู่แล้ว ติ๊กก็จะไม่เปลี่ยนใจ (เดี๋ยวเปลี่ยนแล้วพังมาไม่คุ้มค่ะ) แล้วติ๊กแก้จมูก เจ็บไหม? รอบนี้พักฟื้นกี่วัน? เรามาเริ่มเล่ากันเลยดีกว่า...ปายยยยๆๆๆ ~~~
ก่อนแก้ (เสริมครั้งแรก)
ติ๊กก็ไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็แนะนำเป็นการเสริมจมูกโดยใช้เกล็ดเลือดของตัวเราเอง เรียกว่า V Active Nose ค่ะ เราเองไม่เคยได้ยินการทำจมูกแบบนี้มาก่อน เชื่อว่าเพื่อนๆเองก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน เพราะว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ งั้นถือว่าการแก้จมูก รีวิวนี้ของติ๊ก จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะคะ
ขอเล่าแบบที่คุณหมออธิบายให้ติ๊กฟังเลยแล้วกันนะคะ ก็คือคุณหมอจะเอาเกล็ดเลือดของเราไปทำให้เป็นเนื้อเจลลี่มาใส่พร้อมซิลิโคนแล้วเสริมให้เรา ตัวเจลลี่ก็จะปล่อย Growth Factor ออกมาฟื้นฟู + ซ่อมแซม ให้เนื้อและกระดูกสมานตัวได้เร็วและหายไวขึ้น ช่วยเพิ่มความหนาของเนื้อจมูก ป้องกันซิลิโคนทะลุได้ เหมือนเราใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อเทียมรองปลาย และทำให้บวม ช้ำ น้อยมากด้วย เรารู้สึกมันคงไม่ได้ผลอะไรกับเรามาก เพราะเคยได้ยินมาว่ามันจะบวมหนักกว่าทำจมูกครั้งแรก เพราะต้องขูดพังผืด เราก็เตรียมใจที่จะบวมช้ำมาอยู่แล้ว ยิ่งเราผ่านการทำครั้งแรกมาแล้วเนี่ย เราก็รู้ว่าจะบวมช้ำประมาณไหน แต่ก็แอบมีสงสัยในใจลึกๆว่าเฮ้ยจะเป็นไปได้หรอที่บวม วัน 2วันแล้วหาย บวมน้อยขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่เราก็ไม่ซีเรียสเรื่องบวมช้ำอยู่แล้ว เราเลือกเสริมแบบนี้เพราะมันแทนกระดูกอ่อนหลังหูได้
ก่อนแก้ (เสริมครั้งแรก)
ส่วนเรื่องทรงจมูก ติ๊กก็มีอยู่ 1 ทรงที่ชอบ ก็คือจมูกแบบน้องเก้า สุภัสสรา ก็เอาทรงจมูกมาให้คุณหมอดู คุณหมอก็บอกว่าจะพุ่งแบบนี้นะ แต่เราก็บอกหมอว่าจริงๆก็อยากได้ทรงคล้ายๆเดิมด้วย เพราะทรงเก่าติ๊กก็ค่อนข้างถูกใจและเหมาะกับหน้าเราอยู่แล้ว แต่ติ๊กแค่อยากเพิ่มตรงปลายให้มันดูมากขึ้น เพราะติ๊กรู้สึกว่าปลายตัวเองมันบานด้วย แต่คุณหมอบอกว่าจริงๆปลายไม่ได้บาน แต่เนื้อปลายเรามันเยอะ เราก็ยกพุ่งขึ้นไป มันก็จะช่วยได้ โดยที่ไม่ต้องตัดปีก ประมาณนี้ คุณหมอก็จะทำให้เหมาะกับหน้าเราที่สุด โดยปรับจากที่เราชอบค่ะ ในระหว่างที่ปรึกษาติ๊กก็มีคำถามเยอะแยะเลย ซึ่งคุณหมอก็ให้คำแนะนำดีมากๆค่ะ
รูปนี้เป็นรูปน้องเก้าสุ ภัสสรา ที่เอาให้คุณหมอดูค่ะ
คำถามสุดฮอต แก้จมูกเจ็บไหม? เป็นคำถามที่เพื่อนๆและคนรอบข้างทักถามติ๊กกันทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งของติ๊กเป็นการผ่าตัดแบบใช้ยาชานะคะ และถ้าถามว่า แก้จมูกเจ็บไหม? บอกเลยว่า ไม่เจ็บเลยค่ะ ไม่เจ็บตั้งแต่ฉีดยาชาแล้ว ถ้าถามความเจ็บจริงๆก็คงแล้วแต่คนด้วย แต่สำหรับติ๊กคือไม่เจ็บเลย พอฉีดยาชาปุ๊บ หลังจากนั้นก็คือไม่รู้สึกเลย ตอนผ่าตัดคุณหมอก็จะคอยถามเราตลอดว่า เราชอบรึยัง? ถ้าไม่ชอบคุณหมอจะเอาออกมาเหลาให้ใหม่ ก็ให้เราดูกระจก เราก็ชอบตั้งแต่ในห้องผ่าตัดแล้ว พอเราเห็นตอนเสร็จ ก็ยิ่งชอบ คือหมอมือ เบาและใจเย็น ติ๊กเลยไม่รู้สึกเจ็บและกังวลค่ะ
หลังทำทันที
จริงๆติ๊กว่านี่เป็นข้อดีของการเสริมจมูกแบบใช้ยาชานะคะ เพราะว่าเราได้คุยกับหมอ ได้ดูทรงจมูก ได้เสนอความคิดเห็น ความพอใจไปด้วยกันกับหมอตอนทำ เพราะถ้าเราหลับ เราก็จะไม่เห็นทรง และออกความคิดเห็นไม่ได้ ส่วนการดูแลหลังทำนี่ดูแลเหมือนเดิมค่ะ กลับไปก็ประคบเย็นที่แก้ม 2 ข้าง และหน้าผาก , นอนหงาย หมอนสูง , ไม่ให้น้ำโดนแผล , ไม่ทานของแสลงค่ะ
Day 2 ♥
รอบนี้รู้สึกว่าหายเร็วมาก อย่างรอบที่แล้ว เราทำจมูกแล้วบวมเป็นสิงโตอยู่ประมาณ 3-4 วัน กว่าจะเริ่มยุบ วันที่ 4-5 ก็ยังบวมตุ่ยๆอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่อันนี้วันที่ 3 คือยุบหมดเลย เหมือนหายปกติ เราเลยรู้สึกว่าเออ! มันเร็วมากจริงๆอย่างที่หมอบอก ได้เห็นความแตกต่างในการใช้เทคโนโลยีแบบจริงๆเลยค่ะ
3 วันแรกจ้าาา ♥
Day 3 ♥ แกะเฝือกจมูกออกได้แล้ว จมูกสวยมากกกก ชอบมากกกกก
คือมันบวมแค่วันที่ 2 และวันที่2ก็ไม่ได้บวมเยอะด้วยนะ แล้วตื่นมาวันที่ 3 คือแบบปกติเลย มีรอยช้ำนิดหน่อย แต่ไม่มีแบบช้ำม่วงเหมือนตอนเสริมครั้งแรก จะมีก็แค่จ้ำเขียว 2จุดเองค่ะ ตรงที่ฉีดยาชา ก็เลยรู้สึกว่า amazing มากเลยอ่ะ แฟนยังตกใจเลยว่าแบบ พรึ่บ! หายไปเลยอ่ะ เหมือนนอนตื่นมาแล้วโดนธานอสดีดนิ้วใส่ดัง เป๊าะ! หายเลย 555+
เปรียบเทียบให้ดู ครั้งก่อนกับครั้งนี้นะคะ วันที่ 3 เหมือนกัน แต่ความบวมช้ำ แตกต่างกันมากค่ะ
Day 4 ♥ ต้องสังเกตดีๆถึงจะเห็นรอยจ้ำเขียวเล็กๆ ออกไปข้างนอกชิลๆ สบายๆ
Day 5 ♥ สุดปังมาก ชอบ!!!
สำหรับติ๊ก ติ๊กรู้สึกว่าเราเป็นคนที่เปลี่ยนน้อยมากนะ บางคนทำไป 2 ปี ไม่ชอบก็เปลี่ยน ของเราตั้ง 6-7 ปีกว่าจะเปลี่ยน จริงๆเพราะเราก็รู้สึกว่าจมูกไม่ได้มีปัญหา ไม่ใช่ไม่ชอบอันเก่า เราถึงพยายามคีพทรงเก่าเอาไว้
Day 6 ♥
Day 7 ♥ แค่ 1 อาทิตย์ก็สวยเป๊ะเหมือนครบเดือนแล้ว
แล้วที่ติ๊กแก้จมูก ราคาแพงรึป่าว? เพราะว่าเป็นการเสริมด้วยเกล็ดเลือดด้วย ต้องบอกก่อนที่ติ๊กแก้จมูก ราคาก็ไม่ได้สูงมากค่ะ อยู่ในเกณฑ์ที่จับต้องได้ ติ๊กแก้จมูก ราคาประมาณ 35,000 บาทค่ะ (รวมค่าแก้แล้วนะคะ) และจะมีค่ายาเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย
Day 8 ♥
Day 10 ♥
Day 11 ♥
Day 14 ♥ เย้ๆๆ 2 อาทิตย์แล้วจ้า ไหมละลายหลุดออกหมดแล้ว ไม่แน่ใจว่าหมดตั้งแต่วันไหน แต่วันนี้ส่องดูไม่เห็นแล้ว
Day 16 ♥
ปัจจุบันครบ 18 วันแล้วค่ะ ที่แก้จมูกมา จะเห็นได้เลยว่า จมูกสวยตั้งแต่วันที่ 3 แล้ว คือมันร่นระยะเวลาจากเสริมแบบปกติมาก ปกติต้องเดือนนึง หรืออย่างเร็วสุด 2 อาทิตย์กว่าจะออกมาเป็นทรงที่ดูสวย เข้าที่ แต่นี่คือแบบไวเวอร์ 3 วันเอง ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีก้าวไปไกลมากจริงๆ อีกหน่อยคงมีเสริมจมูก วันเดียวหาย อิอิ
Day 18 ♥ ปัจจุบันค่าาา...
ติ๊กพอใจมากๆ กับซีรี่ย์นี้นะคะ เพราะได้ผลตรงใจที่เราต้องการ และก็หายไวแบบติดจรวดสุดอะไรสุด ติ๊กรู้สึกว่า มันทำให้เรามีเวลาเหลือ ที่จะทำอะไรมากขึ้น (มากกว่าการนอนซมพักฟื้นอยู่บนเตียง)
สำหรับใครที่กำลังอยากเสริมจมูก แก้จมูก และกำลังคิดว่าจะทำหรือแก้จมูกที่ไหนดีอยู่นะคะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรก หรือครั้งที่ 2 – 3 – 4 – 5 ก็ตาม ติ๊กคิดว่าการใช้เกล็ดเลือดเสริมจมูกก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ดีค่ะ ไม่ต้องเจ็บตัวหลายที่ สมมติถ้าเราใช้กระดูกอ่อนหลังหู ก็จะต้องเจ็บที่หูด้วยใช่มั้ยคะ? ก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่อยากเจ็บหลายที่ มีเวลาพักฟื้นน้อย หรือคนที่มีเนื้อน้อยแล้วอยากลดความเสี่ยงทะลุของซิลิโคน หวังว่าแก้จมูก รีวิวของติ๊กคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วยังไงติ๊กจะกลับมาอัพเดตอีกทีตอนครบ 1 เดือนนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ ♥
ลองเทียบภาพคู่กับน้องเก้า สุภัสรา จมูกต้นแบบของเรากันบ้าง
ถือว่าได้เคร้าทรงจมูกน้องเก้า ผสมกับทรงเดิม ได้ทรงจมูกแบบที่เราตั้งใจไว้จริงๆแหละ >.<
ปล. ใครสงสัยอยากทิ้งคำถาม เม้นไว้ได้เลยนะคะ ติ๊กจะเข้ามาอ่านและตอบนะคะ
ใครชอบรีวิวของติ๊กฝากกดโหวต และแชร์ให้ติ๊กด้วยนะคะ ขอบคุณค่าาา ♥
[CR] แชร์ประสบการณ์ แก้จมูก ด้วยเกล็ดเลือดของตัวเอง รีวิวแบบวันต่อวัน สวยไวเหมือนธานอสดีดนิ้ว
ติ๊กพอใจมากๆ กับซีรี่ย์นี้นะคะ เพราะได้ผลตรงใจที่เราต้องการ และก็หายไวแบบติดจรวดสุดอะไรสุด ติ๊กรู้สึกว่า มันทำให้เรามีเวลาเหลือ ที่จะทำอะไรมากขึ้น (มากกว่าการนอนซมพักฟื้นอยู่บนเตียง)
สำหรับใครที่กำลังอยากเสริมจมูก แก้จมูก และกำลังคิดว่าจะทำหรือแก้จมูกที่ไหนดีอยู่นะคะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรก หรือครั้งที่ 2 – 3 – 4 – 5 ก็ตาม ติ๊กคิดว่าการใช้เกล็ดเลือดเสริมจมูกก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ดีค่ะ ไม่ต้องเจ็บตัวหลายที่ สมมติถ้าเราใช้กระดูกอ่อนหลังหู ก็จะต้องเจ็บที่หูด้วยใช่มั้ยคะ? ก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่อยากเจ็บหลายที่ มีเวลาพักฟื้นน้อย หรือคนที่มีเนื้อน้อยแล้วอยากลดความเสี่ยงทะลุของซิลิโคน หวังว่าแก้จมูก รีวิวของติ๊กคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วยังไงติ๊กจะกลับมาอัพเดตอีกทีตอนครบ 1 เดือนนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ ♥
ใครชอบรีวิวของติ๊กฝากกดโหวต และแชร์ให้ติ๊กด้วยนะคะ ขอบคุณค่าาา ♥
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้