การใช้ยานหรือสัตว์พาหนะนั้น ในภาษาไทยเราโชคดีที่มีความเรียบง่าย สามารถใช้ ขึ้น ลง ได้กับทุกๆอย่างเลย
แต่กับภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างออกไป เพราะมันมีสุดยอดความวุ่นวายจากการแยกเป็น 2 ระบบ
คือ ระบบ In and Out (Get in and Get out) และ ระบบ On and Off (Get on and Get off)
เมื่อก่อนผมเข้าใจมาตลอดว่า ระบบ In and Out เนี่ย ใช้สำหรับสิ่งพาหนะขนาดเล็ก
และ ระบบ On and Off ก็ไว้สำหรับสิ่งพาหนะขนาดใหญ่ และ สิ่งที่เราต้องขึ้นคร่อมแม้มันจะเล็กก็ตาม เช่น จักรยาน ม้า ก็นะ ตามความเป็นจริง เราอยู่บนมัน ไม่ใช่ในมัน
ดังสังเกตได้จาก
ระบบ In and Out ใช้กับ รถยนต์ แท็กซี่ รถตู้ รถพยาบาล รถดับเพลิง รถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งขนาดเล็ก
ระบบ On and Off ใช้กับ บัส เครื่องบิน รถไฟ รถราง Boat Ship มอเตอร์ไซด์ ช้าง ซึ่งเป็นสิ่งขนาดใหญ่
เข้าใจได้ แต่ไม่สมบูรณ์แบบ ! แม้จะไม่พิจารณา สิ่งที่เราต้องขึ้นคร่อม
ระบบนี้ผมพบ Conflict อยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเรื่องขนาด ต้องใหญ่แค่ไหนถึงกลายเป็นระบบ On and Off ไปได้ ?
เช่น เฮลิคอปเตอร์ ที่ใช้ระบบ In and Out ซึ่ง ในโลกเรามี Private Jet ขนาดพอๆกับเฮลิคอปเตอร์อยู่เยอะนะ
เครื่องบินส่วนตัว ความยาว 12 เมตร
เฮลิคอปเตอร์ ความยาว 12 เมตร
แต่ Private Jet กลับต้องใช้ระบบ On and Off เพราะตามเครื่องบิน..
หรือ Boat ใช้ระบบ On and Off
เจ็ทสกีก็เป็น Boat นะครับ และมันเล็กกว่ารถบรรทุกขนาดใหญ่เสียอีก
แต่รถบรรทุกกลับใช้ระบบ In and Out เอาซะดื้อๆ
จะบอกว่า In and Out คือระบบที่ใช้กับอะไรที่เราเอาทั้งตัวเราเข้าไปในเหล็ก ก็ไม่ได้นะ
เพราะ On and Off ก็มีแบบนั้น เช่น Private Jet นี่เลย และ บัส รถไฟ เป็นต้น
On and Off สำหรับขนส่งสาธารณะหรอ ?
ก็ไม่นะ แม้จะมองว่าแท็กซี่เป็นการจ้างส่วนตัวเลยใช้ In and Out ได้ ก็ยังมี ข้อยกเว้น
Boat ตามความหมาย a small vessel propelled on water by oars, sails, or an engine.
มันรวมถึง เรือแจว เรือหางยาว เรือใบ และ เจ็ทสกี ซึ่งบางอันไม่ได้ขับเพื่อขนส่งขนเลย
นี่ละผมเลยเรียกระบบแห่งความวุ่นวาย มันไม่ได้จำแนกตามความจริงเสมอไป
จากการพยายามหาคำจัดกัดความอย่างหนักหน่วงของผมก็พบว่า
ระบบ On and Off คือ สิ่งพาหนะที่มีความเป็น
Board
ทางเดินเป็นพื้นกระดาน แบนๆ ใหญ่ๆ มีที่ว่างดีๆระหว่างที่นั่ง ไม่ใช่แค่ช่องแคบๆแบบในรถตู้และเฮลิคอปเตอร์
คำจำกัดความนี้ทำให้สามารถครอบคลุม
ทุกตัว บัส เครื่องบิน รถไฟ รถราง Boat Ship
ส่วน In and Out ก็อะไรที่ไม่ใช่ Baod และเราไม่ได้ขึ้นคร่อม
รถยนต์ แท็กซี่ รถตู้ รถพยาบาล รถดับเพลิง รถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ ทางเดินในเฮลิคอปเตอร์ ไม่ต่างจากรถตู้เท่าไหร่
ผ่าน
ยังมีความสงสัยอยู่บ้างสำหรับยานพาหนะแปลกๆ
เรือดำน้ำ พารามอเตอร์ แฮงไกลเดอร์ ตุ๊กตุ๊ก จะใช้อะไร
เรือดำน้ำ ถ้าแบบท่องเที่ยวก็ On and off แหละ มีความเป็น Board ชัดเจน
แบบสู้รบนี่ ทางเดินมีความเป็นช่องแคบไม่ต่างจากรถตู้เลย ก็ควรใช้ In and Out มั้ย
หรือมันยังถือว่าเป็นแบบ Board ได้อยู่
พารามอเตอร์ แฮงไกลเดอร์ จะถือว่าเอาตัวขึ้นคร่อมมั้ย ใช้ On and Off ใช่มั้ย
ตุ๊กตุ๊ก ถือว่าเป็น Board มั้ยละแบบนี้
ไม่ว่าจะมองว่าใช่หรือไม่ ก็มีเหตุผลสนับสนุนได้หมดนะครับ
จริงๆพอ Set เป็นการจำแนกว่าสิ่งพาหนะนั้นมีความเป็น Baord มั้ย มันก็ดูจะแถๆได้หมดนะสำหรับการจำแนกเป็นระบบ
แต่...
Canoe กลับใช้ระบบ In and Out
เพราะอะไรละครับ มันก็เป็น Ship ประเภทหนึ่งนี่นา
สิ่งนี้ ทำให้ผมกลับมาคิดแบบเดิมว่า ระบบการใช้ Phrasal Verbs สำหรับ Transportation นั้น เละเทะและไร้ซึ่งความชัดเจน
Get in / Get out / Get on / Get off ระบบจำแนกที่เป็นสุดยอดแห่งความเละเทะ ไร้ความชัดเจน และ วุ่นวาย..
แต่กับภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างออกไป เพราะมันมีสุดยอดความวุ่นวายจากการแยกเป็น 2 ระบบ
คือ ระบบ In and Out (Get in and Get out) และ ระบบ On and Off (Get on and Get off)
เมื่อก่อนผมเข้าใจมาตลอดว่า ระบบ In and Out เนี่ย ใช้สำหรับสิ่งพาหนะขนาดเล็ก
และ ระบบ On and Off ก็ไว้สำหรับสิ่งพาหนะขนาดใหญ่ และ สิ่งที่เราต้องขึ้นคร่อมแม้มันจะเล็กก็ตาม เช่น จักรยาน ม้า ก็นะ ตามความเป็นจริง เราอยู่บนมัน ไม่ใช่ในมัน
ดังสังเกตได้จาก
ระบบ In and Out ใช้กับ รถยนต์ แท็กซี่ รถตู้ รถพยาบาล รถดับเพลิง รถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งขนาดเล็ก
ระบบ On and Off ใช้กับ บัส เครื่องบิน รถไฟ รถราง Boat Ship มอเตอร์ไซด์ ช้าง ซึ่งเป็นสิ่งขนาดใหญ่
เข้าใจได้ แต่ไม่สมบูรณ์แบบ ! แม้จะไม่พิจารณา สิ่งที่เราต้องขึ้นคร่อม
ระบบนี้ผมพบ Conflict อยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเรื่องขนาด ต้องใหญ่แค่ไหนถึงกลายเป็นระบบ On and Off ไปได้ ?
เช่น เฮลิคอปเตอร์ ที่ใช้ระบบ In and Out ซึ่ง ในโลกเรามี Private Jet ขนาดพอๆกับเฮลิคอปเตอร์อยู่เยอะนะ
เครื่องบินส่วนตัว ความยาว 12 เมตร
เฮลิคอปเตอร์ ความยาว 12 เมตร
แต่ Private Jet กลับต้องใช้ระบบ On and Off เพราะตามเครื่องบิน..
หรือ Boat ใช้ระบบ On and Off
เจ็ทสกีก็เป็น Boat นะครับ และมันเล็กกว่ารถบรรทุกขนาดใหญ่เสียอีก
แต่รถบรรทุกกลับใช้ระบบ In and Out เอาซะดื้อๆ
จะบอกว่า In and Out คือระบบที่ใช้กับอะไรที่เราเอาทั้งตัวเราเข้าไปในเหล็ก ก็ไม่ได้นะ
เพราะ On and Off ก็มีแบบนั้น เช่น Private Jet นี่เลย และ บัส รถไฟ เป็นต้น
On and Off สำหรับขนส่งสาธารณะหรอ ?
ก็ไม่นะ แม้จะมองว่าแท็กซี่เป็นการจ้างส่วนตัวเลยใช้ In and Out ได้ ก็ยังมี ข้อยกเว้น
Boat ตามความหมาย a small vessel propelled on water by oars, sails, or an engine.
มันรวมถึง เรือแจว เรือหางยาว เรือใบ และ เจ็ทสกี ซึ่งบางอันไม่ได้ขับเพื่อขนส่งขนเลย
นี่ละผมเลยเรียกระบบแห่งความวุ่นวาย มันไม่ได้จำแนกตามความจริงเสมอไป
จากการพยายามหาคำจัดกัดความอย่างหนักหน่วงของผมก็พบว่า
ระบบ On and Off คือ สิ่งพาหนะที่มีความเป็น Board
ทางเดินเป็นพื้นกระดาน แบนๆ ใหญ่ๆ มีที่ว่างดีๆระหว่างที่นั่ง ไม่ใช่แค่ช่องแคบๆแบบในรถตู้และเฮลิคอปเตอร์
คำจำกัดความนี้ทำให้สามารถครอบคลุม ทุกตัว บัส เครื่องบิน รถไฟ รถราง Boat Ship
ส่วน In and Out ก็อะไรที่ไม่ใช่ Baod และเราไม่ได้ขึ้นคร่อม
รถยนต์ แท็กซี่ รถตู้ รถพยาบาล รถดับเพลิง รถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ ทางเดินในเฮลิคอปเตอร์ ไม่ต่างจากรถตู้เท่าไหร่
ผ่าน
ยังมีความสงสัยอยู่บ้างสำหรับยานพาหนะแปลกๆ
เรือดำน้ำ พารามอเตอร์ แฮงไกลเดอร์ ตุ๊กตุ๊ก จะใช้อะไร
เรือดำน้ำ ถ้าแบบท่องเที่ยวก็ On and off แหละ มีความเป็น Board ชัดเจน
แบบสู้รบนี่ ทางเดินมีความเป็นช่องแคบไม่ต่างจากรถตู้เลย ก็ควรใช้ In and Out มั้ย
หรือมันยังถือว่าเป็นแบบ Board ได้อยู่
พารามอเตอร์ แฮงไกลเดอร์ จะถือว่าเอาตัวขึ้นคร่อมมั้ย ใช้ On and Off ใช่มั้ย
ตุ๊กตุ๊ก ถือว่าเป็น Board มั้ยละแบบนี้
ไม่ว่าจะมองว่าใช่หรือไม่ ก็มีเหตุผลสนับสนุนได้หมดนะครับ
จริงๆพอ Set เป็นการจำแนกว่าสิ่งพาหนะนั้นมีความเป็น Baord มั้ย มันก็ดูจะแถๆได้หมดนะสำหรับการจำแนกเป็นระบบ
แต่...
Canoe กลับใช้ระบบ In and Out
เพราะอะไรละครับ มันก็เป็น Ship ประเภทหนึ่งนี่นา
สิ่งนี้ ทำให้ผมกลับมาคิดแบบเดิมว่า ระบบการใช้ Phrasal Verbs สำหรับ Transportation นั้น เละเทะและไร้ซึ่งความชัดเจน