เราไม่ยกมือไหว้รุ่นพี่แฟน ประเด็นคือก่อนแต่งงานแฟนเราไม่ซื้อรถให้รุ่นพี่โดยรถเป็นชื่อแฟนเรา(รถมือสอง)โดยรุ่นพี่เขาจะเป็นคนผ่อนเอง ผ่อนมา11เดือนหนังสือทวงหนี้มาที่บ้านแล้วเราบังเอิญเป็นคนรับจากไปรษณีย์(เราไม่รู้มาก่อนว่าแฟนออกรถให้คนอื่น เราก็โวยวาย) หนังสือแจ้งว่าขาดส่งงวดรถ3เดือน เขาจะยืดรถ ถ้ารถถูกยืดไปแฟนเราต้องติดแบล็คลิส แถมธนาคารยังแจ้งอีกว่าถ้ารถถูกยืดไปแล้วประมูลได้ราคาต่ำกว่าที่แฟนเราเป็นหนี้ธนาคาร จะต้องจ่ายส่วนต่างให้กับธนาคารเกือบ2แสน เราไม่อยากให้ปัญหามันหนักขนานนั้น เลยตัดสินใจจะไปเอารถกลับมาผ่อนต่อเอง แต่รถอยู่กับเมียของรุ่นพี่ ซึ่งอยู่คนละจังหวัดกับที่เราอยู่ห่างกัน600กิโล โดยเรากับแฟนขับรถเพื่อไปเอารถคันนั้นกลับคืนมา พอไปถึงที่นัดรับรถสองคนนั้นกลับลีลาไม่ยอมมาสักที เปลี่ยนที่นัดไปเรื่อย เราก็โมโหมาก อารมณ์เดือดสุดๆเรานั่งรถมาไกล600กิโล ต้องเสียเวลามาเจออะไรแบบนี้อีก พอถึงที่นัดรับครั้งที่3กลับขับรถอีกคันหนึ่งมาไม่ใช่รถที่แฟนเราซื้อ เราก็คิดในใจแล้วละว่ากุเจอปัญหาหนักแล้ว แฟนเราเดินลงจากรถแล้วยกมือไหว้เขาสองคน เราไม่ยกมือไหว้ เขาเป็นพี่ห่างจากเรา10ปี เขาอายุ36แล้วละ ส่วนเรา26 เขายืนคุยกันกับแฟนอยู่ประมาณ5นาที เราไม้ได้ฟังหรอกว่าเขาพูดอะไรกันเราโกรธจนหูอื้อ เราพูดขึ้นมาคำเดียวว่าไปเรารถเถอะ รุ่นพี่เขาเลยบอกให้ขับรถตามจะพาไปเอารถคันนั้น พอขับตามไปเรื่อยๆเขาก็พาจอดตรงร้านที่เป็นอู่ซ่อมรถ มีแต่ซากรถเต็มไปหมดเราตกใจมากสั่นมากตอนนั้น ตอนนั้นจอดตรงหน้าร้านเฉยๆนะ ไม่ได้ลงไป รุ่นพี่ขับจอดรถอยู่ตรงหน้าก็โทรมาบอกแฟนเราว่า แฟนที่เอารถไปขายดาว์ให้คนอื่นแล้วราคา2หมื่น
เขาจะเอารถมาคืนให้ถ้ารุ่นพี่สองคนนั้นเอาเงิน2หมื่นคืนเขา แล้วสองคนนี้ก็ไม่ยอมคืนเงินเขาเพื่อที่จะไปรถมา เรื่องไปกันใหญ่จนถึงโรงพัก ระหว่างรุ่นพี่กับเจ้าของเงิน2หมื่น ตอนนั้นเรื่องยังไม่ถึงมือตำรวจนะคะคู่กรณีทั้ง2คนนั้น ยังไม่กล้าแจ้งความเพราะถ้าแจ้งจะมีความผิดทั้งคู่คือ ลักทรัพย์กับรับซื้อของโจร
ทั้งสองฝ่ายยืนเคลียร์กันอยู่หน้าโรงพัก เรากับแฟนรอให้เขาเคลียร์กันประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ยังไม่เสร็จ แฟนเราไม่อยากแจ้งความเพราะถ้าแจ้งความเรื่องมันจะไม่จบสักที เรากับแฟนต้องการแค่มาเอารถกลับต้องพรุ่งนี้ต้องทำงานต่อและลูกรออยู่ที่บ้านคนเดียว สุดท้ายรุ่นพี่มายืมเงินเพื่อที่จะเอาไปคืนฝ่ายนั้น เราเลยให้ยืม5000(โดยทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร)เพราะเราอยากเห็นรถเราอยู่ในสภาพไหนใจจะขาด สุดท้ายสองฝ่ายนั้นเคลียร์กันจบก็เอารถมาคืนให้แฟนเรา โดยรถยังอยู่ในสภาพเดิม เรากับแฟนก็เอารถขับกลับบ้าน พอถึงบ้านแฟนเราพูดกับเราว่า การที่คนเราไม่ยกมือไหว้คนเขาจะมองว่าเป็นคนไม่ดีไม่มีการศึกษานะ ทำอะไรไว้หน้าเขาบ้าง คนเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก เราได้ยิก็โกรธเลยพูดว่า มือฉัน ฉันจะไหว้หรือไม่ไหว้ใครก็ได้ เขาทำกับเธอขนานนั้นยังต้องไว้หน้าเขาอีกหรอ เราพูดแค่นี้
สุดท้ายเราอยากถามว่าเราผิดมากหรอที่ไม่ยกมือไหว้รุ่นพี่เขา
ไม่ยกมือไหว้เราผิดมากหรอ
เขาจะเอารถมาคืนให้ถ้ารุ่นพี่สองคนนั้นเอาเงิน2หมื่นคืนเขา แล้วสองคนนี้ก็ไม่ยอมคืนเงินเขาเพื่อที่จะไปรถมา เรื่องไปกันใหญ่จนถึงโรงพัก ระหว่างรุ่นพี่กับเจ้าของเงิน2หมื่น ตอนนั้นเรื่องยังไม่ถึงมือตำรวจนะคะคู่กรณีทั้ง2คนนั้น ยังไม่กล้าแจ้งความเพราะถ้าแจ้งจะมีความผิดทั้งคู่คือ ลักทรัพย์กับรับซื้อของโจร
ทั้งสองฝ่ายยืนเคลียร์กันอยู่หน้าโรงพัก เรากับแฟนรอให้เขาเคลียร์กันประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ยังไม่เสร็จ แฟนเราไม่อยากแจ้งความเพราะถ้าแจ้งความเรื่องมันจะไม่จบสักที เรากับแฟนต้องการแค่มาเอารถกลับต้องพรุ่งนี้ต้องทำงานต่อและลูกรออยู่ที่บ้านคนเดียว สุดท้ายรุ่นพี่มายืมเงินเพื่อที่จะเอาไปคืนฝ่ายนั้น เราเลยให้ยืม5000(โดยทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร)เพราะเราอยากเห็นรถเราอยู่ในสภาพไหนใจจะขาด สุดท้ายสองฝ่ายนั้นเคลียร์กันจบก็เอารถมาคืนให้แฟนเรา โดยรถยังอยู่ในสภาพเดิม เรากับแฟนก็เอารถขับกลับบ้าน พอถึงบ้านแฟนเราพูดกับเราว่า การที่คนเราไม่ยกมือไหว้คนเขาจะมองว่าเป็นคนไม่ดีไม่มีการศึกษานะ ทำอะไรไว้หน้าเขาบ้าง คนเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก เราได้ยิก็โกรธเลยพูดว่า มือฉัน ฉันจะไหว้หรือไม่ไหว้ใครก็ได้ เขาทำกับเธอขนานนั้นยังต้องไว้หน้าเขาอีกหรอ เราพูดแค่นี้
สุดท้ายเราอยากถามว่าเราผิดมากหรอที่ไม่ยกมือไหว้รุ่นพี่เขา