อยากเพิ่มยอดขายด้วย digital advertising ต้องเพิ่ม content
เสียงตะโกนดังลั่นของผู้ที่ไม่รู้จริง
แต่เลือกที่จะหลอกตัวเองเพราะว่าขี้เกียจ
ว่าจะทำไปทำไมในเมื่อยิง ads ไปแล้ว
ก็มีแต่ต้องเสียเงินเพิ่ม
สู้ทำโพสขายยิงไปตัวเดียวแล้วเปลี่ยนกลุ่มเอา
ซึ่งเราก็จะบอกไว้ตรงนี้ได้เลยว่า
ระบบทำโฆษณาของ Facebook นั้น
มี fuction ทีเด็ดที่จะช่วยให้
แคมเปญของคุณนั้น
สามารถที่จะใช้ระบบประมวลผลแบบ realtime
เพื่อเลือกนำส่งชุดโฆษณาและโฆษณาที่ดีที่สุด
หรือที่เรียกว่าได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งค่าเอาไว้มากที่สุดนั่นเอง
เพราะระบบทำโฆษณาของ Facebook นั้นเป็นระดับ world class
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือประสิทธิภาพ
ซึ่งอ้างอิงตามผลลัพธ์ของแต่ละวัตุประสงค์ที่แยกเอาไว้อย่างชัดเจน
เพราะฉะนั้นคุณจะแทบไม่ได้ engage เลยยามเมื่อลง reach
และคุณแทบจะไม่ได้ reach เลยยามเมื่อลง message
ดังนั้นระบบก็ต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ลงโฆษณาพึงพอใจที่สุดนั่นเอง
เป็นที่มาของการสร้างปุ่ม cbo หรือ Campaign Budget Optimization
ที่ก็ยังให้เรานั้นสามารถเลือกเปิดปิดได้อีกต่างหาก
ในกรณีที่เรานั้นต้องการทดสอบตัวชุดโฆษณาและโฆษณา(content)
ว่าตัวไหนมีประสิทธิภาพอะไรอย่างไร
เพราะการทำ ab testing นั้นจะเป็นรอบ
แต่ก็ยัดเยียดความสามารถที่ทำให้เราต้องสนใจก็คือ cpc
แต่เราจะไม่ได้มาพูดถึงการทดสอบชุดโฆษณาหรือโฆษณาในที่นี้
ซึ่งตัว cbo นี้นั้นทำงานโดยอาศัยระบบ machinelearning อันเลิศล้ำระดับโลกอย่างแน่นอนเช่นเคย
ที่ไม่เพียงแต่จะเทไปที่ชุดโฆษณาใดโฆษณาหนึ่ง
แต่จะกระจายและวิ่งทดสอบอยู่ตลอดเวลา
(แต่จากที่เราทำมา ถ้าชุดโฆษณาและโฆษณาตัวไหนวิ่งดีก็จะวิ่งนำโด่งไปเรื่อยๆ)
หมายความว่าไม่ได้นำส่งแต่ตัวที่วิ่งดีที่สุดตัวเดียว
แต่ก็ยังคอยวิ่งทดสอบชุดโฆษณาและโฆษณาตัวอื่นๆในแคมเปญนั้นๆอยู่ตลอดนั่นเอง
เพราะฉะนั้นการที่คุณนั้นต้องการยอดขายเพิ่มขึ้นนั้น
อันคุณนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้หรือเดาได้ถูกต้อง100%
ซึ่งเป็นเรื่อที่น่าเสียดายโอกาส
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเจอมาตลอดการทำงานก็คือ รู้งี้
รู้งี้เลือกกลุ่มนี้ เลือกรูปนี้ แบบนี้แบบนั้น
หรือแม้กระทั่งไม่รู้แล้วเวลาผ่านไป
เราลองหยิบตัวที่เรานั้นคัดออกมาวิ่งเล่นๆ
กลับกลายเป็นตัวนั้นวิ่งดีกว่าที่คาดคิด
ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่เราหลงใหลในการทำโฆษณาระบบดิจิตอล
อันฝักใฝ่และหมกมุ่นมาถึงปัจจุบัน
คือเรานั้นสามารถที่จะทดสอบได้ทันที
และตัวไหนไม่ work เราก็สามารถปิดทิ้งได้ทันที
เป็นการอุดช่องโหว่แห่งการมโนที่สายofflineต้องเจอมาโดยตลอด
แต่ก็ยากที่หลายๆคนนั้นจะทำได้ดั่งที่เราบอกไปข้างต้น
เพราะว่าคนที่ไม่ได้มาทางสาย programm นั้น
การทีต้องมานั่งจ้อง ตัวจัดการโฆษณา
วิเคราะห้ตัวเลข
ระดมสร้างชุดโฆษณาพร้อมกับปรับเปลี่ยนรายละเอียด
และกดเผยแพร่
ที่มักจะกดไม่โดนบ้าง
กดไม่ไปบ้าง
เพิ่มไม่ได้บ้าง
กดแล้ว error สุดท้ายต้อง refresh ทิ้ง
หนักไปถึงโดนปิดบัญชี
เพราะว่าใช้ไม่เป็นเที่ยวไปกดมั่วซั่ว
ซึ่งระบบก็มั่วซั่วตาม
เพราะถูกวางโค้ดเอาไว้แล้วว่าถ้ามีการกดมั่วซั่วก็ให้ปิดบัญชีโฆษณา หรือถึงขั้นปิด บัญชี profile ที่เป็น profile ตุ๊ตาที่สร้างเอาไว้เพื่อทำธุรกิจนั่นเอง
เช่นไปสร้างแคมเปญเปล่าโดยไม่ตั้งใจ
และระบบก็ได้รับการตั้งค่าเอาไว้
เพราะจากข้อมูล
มักมีการทำในลักษณะนี้เพื่อที่จะ spam นั่นเอง
จึงเบื่อหน่ายและไม่อยากจะทำอะไรมาก
หรือถึงขั้นไม่อยากทำเลย
ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะสามารถที่จะเพิ่มยอดขาย
จากกการเพิ่ม content ที่เรานั้นสามารถที่จะยัดเข้าไปในชุดโฆษณา
ที่ในปัจจุบันราคาต่อ 1 ชุด โฆษณาคือ 1us
หรือ 100บาท/วัน ได้ 4 ชุดโฆษณา
และสามารถสร้างโฆษณาหรือ content เพื่อใส่ไว้ในชุดโฆษณาเหล่านั้น
โดยเปิดตัวเลือกที่เรียกว่า cbo
เพียงแค่นี้ระบบก็จะนำส่ง content เพื่อทดสอบไปยังกลุ่มเป้าหมาย
พร้อมกับเลือก ชุดโฆษณา และ โฆษณาที่ดีที่สุด แบบ realtime
และตลอดทั้งแคมเปญก็จะวิ่งหาชุดโฆษณาและโฆษณาที่ดีที่สุด
โดยทดสอบอยู่ตลอดเวลา
เมือนกับระบบของตัวระบบ Facebook เองที่ test และ ranking ทั้ง user และ content ต่างๆอยู่ตลอด
เพื่อที่จะหา feed ที่ตรงกับความสนใจของ user นั้นๆแบบ realtime นั่นเอง
ซึ่งในการทำ content นั้นหลายคนบอกว่าจะทำได้รูปแบบอะไรนักหนา
ในเมื่อเป็นธุรกิจ ก็ต้องขายสินค้า
จะให้ไปทำในรูปแบบ entertain เน้นสนุกสนาน
หรือ ให้ความรู้ แรงบรรดาลใจ
ลูกค้าก็ไม่ซื้อเปลืองเงินค่าโฆษณาเปล่าๆ
ซึ่งในส่วนนี้เราบอกได้เลยว่ากระบวนการทำ content+marketing นั้น
มีวิธีการและเทคนิคอยู่อย่างมากมายและเหลือเชื่อว่า
แบบนี้ก็ได้เหรอ
แต่ก็เป็นสิ่งที่ยากที่จะเข้าใจได้โดยง่าย
เพราะเป็น นิยาม หลักการ และจึงนำมาสู่ วิธีการ
ที่ไม่ใช่แค่เพียงนั่งกดปุ่มโดยที่ไม่ต้องเข้าใจก็สามารถที่จะทำโฆษณาออกมาวิ่งได้
เพราะเราเข้าใจในจุดนี้ดี
ดังนั้นเราจึงได้ทำบทความมากมายเพื่อช่วยให้เหล่าผู้คนที่ทำธุรกิจบนโลกดิจิตอล
ได้เข้าถึงโอกาสในการที่จะสำเร็จในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์โดยปลายทางเพื่อขายสินค้าได้
โดยที่ไม่ใช่เพียงการยิง ads นั่งเปลี่ยน กลุ่มเป้าหมาย keyword ไปวันๆ
ซึ่งเราเห็นมามากมายเพราะว่าไปเชื่อผู้ที่ไม่ได้รู้เรื่องการตลาด
แต่มาสอนการตลาดออนไลน์แต่เนื้อหามีแต่ digital media
ซึ่งถ้าคุณไม่ได้มี สินค้าหรือบริการ ที่ขายได้ด้วยตัวเองแล้วนั้นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
ยิ่งในภาวะปัจจุบันที่ทุกคนมุ่งหน้ามาสร้างธุรกิจบนโลกดิจิตอลกันหมดแล้ว
จากวิกฤต lockdown ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างไม่มีวันหวนคือ
จากทางเลือกกลายเป็นทางรอดของเหล่าธุรกิจด้วยโลกดิจิตอล
ซึ่ง content คือตัวช่วยให้ธุรกิจของคุณนั้นไม่ต้องไปต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่า
คุณภาพ ราคา
ของ
สินค้า หรือ บริการ ของคุณ
และค่าโฆษณาที่พุ่งทะยาน ด้วยระบบประมูล
ให้สามารถที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เลือกซื้อสินค้า
หรือบริการของคุณนั้นเอง
ซึ่งเรานั้นได้รวบรวม วิเคราะห์ แจกแจง
รูปแบบ วิธีการ หลักการ กลยุทธ์ ต่างๆมากมาย
ที่เรานั้นได้ หาความรู้ ทดสอบ ทดลอง ครุ่นคิด มาอย่างมากมาย
เพื่อให้คุณนั้นสามารถที่จะเข้าใจและเข้าถึง
ศาสตร์ แห่ง การทำ content marketing
ที่มีรูปแบบและวิธีการอยู่
ที่ไม่ใช่แค่การบอกคุณสมบัติ และใช้ รูป clip สวย
แล้วไปห้ำหั่นที่ราคา
เพื่อให้คุณนั้นสามารถที่จะเอา วิธีการ หลักการ
ในการทำ content marketing
ที่เรานั้นเรียบเรียงจัดเตรียมไว้ให้
นำไปปรับใช้กับ สินค้า หรือ บริการ ของธุรกิจของคุณนั้นได้ทันที
สนใจอ่านบทความเพิ่มเติม
https://bit.ly/karntalard101
อยากเพิ่มยอดขายด้วย digital advertising ต้องเพิ่ม content | โคตรเซียนการตลาด | episode 19
อยากเพิ่มยอดขายด้วย digital advertising ต้องเพิ่ม content
เสียงตะโกนดังลั่นของผู้ที่ไม่รู้จริง
แต่เลือกที่จะหลอกตัวเองเพราะว่าขี้เกียจ
ว่าจะทำไปทำไมในเมื่อยิง ads ไปแล้ว
ก็มีแต่ต้องเสียเงินเพิ่ม
สู้ทำโพสขายยิงไปตัวเดียวแล้วเปลี่ยนกลุ่มเอา
ซึ่งเราก็จะบอกไว้ตรงนี้ได้เลยว่า
ระบบทำโฆษณาของ Facebook นั้น
มี fuction ทีเด็ดที่จะช่วยให้
แคมเปญของคุณนั้น
สามารถที่จะใช้ระบบประมวลผลแบบ realtime
เพื่อเลือกนำส่งชุดโฆษณาและโฆษณาที่ดีที่สุด
หรือที่เรียกว่าได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งค่าเอาไว้มากที่สุดนั่นเอง
เพราะระบบทำโฆษณาของ Facebook นั้นเป็นระดับ world class
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือประสิทธิภาพ
ซึ่งอ้างอิงตามผลลัพธ์ของแต่ละวัตุประสงค์ที่แยกเอาไว้อย่างชัดเจน
เพราะฉะนั้นคุณจะแทบไม่ได้ engage เลยยามเมื่อลง reach
และคุณแทบจะไม่ได้ reach เลยยามเมื่อลง message
ดังนั้นระบบก็ต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ลงโฆษณาพึงพอใจที่สุดนั่นเอง
เป็นที่มาของการสร้างปุ่ม cbo หรือ Campaign Budget Optimization
ที่ก็ยังให้เรานั้นสามารถเลือกเปิดปิดได้อีกต่างหาก
ในกรณีที่เรานั้นต้องการทดสอบตัวชุดโฆษณาและโฆษณา(content)
ว่าตัวไหนมีประสิทธิภาพอะไรอย่างไร
เพราะการทำ ab testing นั้นจะเป็นรอบ
แต่ก็ยัดเยียดความสามารถที่ทำให้เราต้องสนใจก็คือ cpc
แต่เราจะไม่ได้มาพูดถึงการทดสอบชุดโฆษณาหรือโฆษณาในที่นี้
ซึ่งตัว cbo นี้นั้นทำงานโดยอาศัยระบบ machinelearning อันเลิศล้ำระดับโลกอย่างแน่นอนเช่นเคย
ที่ไม่เพียงแต่จะเทไปที่ชุดโฆษณาใดโฆษณาหนึ่ง
แต่จะกระจายและวิ่งทดสอบอยู่ตลอดเวลา
(แต่จากที่เราทำมา ถ้าชุดโฆษณาและโฆษณาตัวไหนวิ่งดีก็จะวิ่งนำโด่งไปเรื่อยๆ)
หมายความว่าไม่ได้นำส่งแต่ตัวที่วิ่งดีที่สุดตัวเดียว
แต่ก็ยังคอยวิ่งทดสอบชุดโฆษณาและโฆษณาตัวอื่นๆในแคมเปญนั้นๆอยู่ตลอดนั่นเอง
เพราะฉะนั้นการที่คุณนั้นต้องการยอดขายเพิ่มขึ้นนั้น
อันคุณนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้หรือเดาได้ถูกต้อง100%
ซึ่งเป็นเรื่อที่น่าเสียดายโอกาส
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเจอมาตลอดการทำงานก็คือ รู้งี้
รู้งี้เลือกกลุ่มนี้ เลือกรูปนี้ แบบนี้แบบนั้น
หรือแม้กระทั่งไม่รู้แล้วเวลาผ่านไป
เราลองหยิบตัวที่เรานั้นคัดออกมาวิ่งเล่นๆ
กลับกลายเป็นตัวนั้นวิ่งดีกว่าที่คาดคิด
ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่เราหลงใหลในการทำโฆษณาระบบดิจิตอล
อันฝักใฝ่และหมกมุ่นมาถึงปัจจุบัน
คือเรานั้นสามารถที่จะทดสอบได้ทันที
และตัวไหนไม่ work เราก็สามารถปิดทิ้งได้ทันที
เป็นการอุดช่องโหว่แห่งการมโนที่สายofflineต้องเจอมาโดยตลอด
แต่ก็ยากที่หลายๆคนนั้นจะทำได้ดั่งที่เราบอกไปข้างต้น
เพราะว่าคนที่ไม่ได้มาทางสาย programm นั้น
การทีต้องมานั่งจ้อง ตัวจัดการโฆษณา
วิเคราะห้ตัวเลข
ระดมสร้างชุดโฆษณาพร้อมกับปรับเปลี่ยนรายละเอียด
และกดเผยแพร่
ที่มักจะกดไม่โดนบ้าง
กดไม่ไปบ้าง
เพิ่มไม่ได้บ้าง
กดแล้ว error สุดท้ายต้อง refresh ทิ้ง
หนักไปถึงโดนปิดบัญชี
เพราะว่าใช้ไม่เป็นเที่ยวไปกดมั่วซั่ว
ซึ่งระบบก็มั่วซั่วตาม
เพราะถูกวางโค้ดเอาไว้แล้วว่าถ้ามีการกดมั่วซั่วก็ให้ปิดบัญชีโฆษณา หรือถึงขั้นปิด บัญชี profile ที่เป็น profile ตุ๊ตาที่สร้างเอาไว้เพื่อทำธุรกิจนั่นเอง
เช่นไปสร้างแคมเปญเปล่าโดยไม่ตั้งใจ
และระบบก็ได้รับการตั้งค่าเอาไว้
เพราะจากข้อมูล
มักมีการทำในลักษณะนี้เพื่อที่จะ spam นั่นเอง
จึงเบื่อหน่ายและไม่อยากจะทำอะไรมาก
หรือถึงขั้นไม่อยากทำเลย
ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะสามารถที่จะเพิ่มยอดขาย
จากกการเพิ่ม content ที่เรานั้นสามารถที่จะยัดเข้าไปในชุดโฆษณา
ที่ในปัจจุบันราคาต่อ 1 ชุด โฆษณาคือ 1us
หรือ 100บาท/วัน ได้ 4 ชุดโฆษณา
และสามารถสร้างโฆษณาหรือ content เพื่อใส่ไว้ในชุดโฆษณาเหล่านั้น
โดยเปิดตัวเลือกที่เรียกว่า cbo
เพียงแค่นี้ระบบก็จะนำส่ง content เพื่อทดสอบไปยังกลุ่มเป้าหมาย
พร้อมกับเลือก ชุดโฆษณา และ โฆษณาที่ดีที่สุด แบบ realtime
และตลอดทั้งแคมเปญก็จะวิ่งหาชุดโฆษณาและโฆษณาที่ดีที่สุด
โดยทดสอบอยู่ตลอดเวลา
เมือนกับระบบของตัวระบบ Facebook เองที่ test และ ranking ทั้ง user และ content ต่างๆอยู่ตลอด
เพื่อที่จะหา feed ที่ตรงกับความสนใจของ user นั้นๆแบบ realtime นั่นเอง
ซึ่งในการทำ content นั้นหลายคนบอกว่าจะทำได้รูปแบบอะไรนักหนา
ในเมื่อเป็นธุรกิจ ก็ต้องขายสินค้า
จะให้ไปทำในรูปแบบ entertain เน้นสนุกสนาน
หรือ ให้ความรู้ แรงบรรดาลใจ
ลูกค้าก็ไม่ซื้อเปลืองเงินค่าโฆษณาเปล่าๆ
ซึ่งในส่วนนี้เราบอกได้เลยว่ากระบวนการทำ content+marketing นั้น
มีวิธีการและเทคนิคอยู่อย่างมากมายและเหลือเชื่อว่า
แบบนี้ก็ได้เหรอ
แต่ก็เป็นสิ่งที่ยากที่จะเข้าใจได้โดยง่าย
เพราะเป็น นิยาม หลักการ และจึงนำมาสู่ วิธีการ
ที่ไม่ใช่แค่เพียงนั่งกดปุ่มโดยที่ไม่ต้องเข้าใจก็สามารถที่จะทำโฆษณาออกมาวิ่งได้
เพราะเราเข้าใจในจุดนี้ดี
ดังนั้นเราจึงได้ทำบทความมากมายเพื่อช่วยให้เหล่าผู้คนที่ทำธุรกิจบนโลกดิจิตอล
ได้เข้าถึงโอกาสในการที่จะสำเร็จในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์โดยปลายทางเพื่อขายสินค้าได้
โดยที่ไม่ใช่เพียงการยิง ads นั่งเปลี่ยน กลุ่มเป้าหมาย keyword ไปวันๆ
ซึ่งเราเห็นมามากมายเพราะว่าไปเชื่อผู้ที่ไม่ได้รู้เรื่องการตลาด
แต่มาสอนการตลาดออนไลน์แต่เนื้อหามีแต่ digital media
ซึ่งถ้าคุณไม่ได้มี สินค้าหรือบริการ ที่ขายได้ด้วยตัวเองแล้วนั้นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
ยิ่งในภาวะปัจจุบันที่ทุกคนมุ่งหน้ามาสร้างธุรกิจบนโลกดิจิตอลกันหมดแล้ว
จากวิกฤต lockdown ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างไม่มีวันหวนคือ
จากทางเลือกกลายเป็นทางรอดของเหล่าธุรกิจด้วยโลกดิจิตอล
ซึ่ง content คือตัวช่วยให้ธุรกิจของคุณนั้นไม่ต้องไปต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่า
คุณภาพ ราคา
ของ
สินค้า หรือ บริการ ของคุณ
และค่าโฆษณาที่พุ่งทะยาน ด้วยระบบประมูล
ให้สามารถที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เลือกซื้อสินค้า
หรือบริการของคุณนั้นเอง
ซึ่งเรานั้นได้รวบรวม วิเคราะห์ แจกแจง
รูปแบบ วิธีการ หลักการ กลยุทธ์ ต่างๆมากมาย
ที่เรานั้นได้ หาความรู้ ทดสอบ ทดลอง ครุ่นคิด มาอย่างมากมาย
เพื่อให้คุณนั้นสามารถที่จะเข้าใจและเข้าถึง
ศาสตร์ แห่ง การทำ content marketing
ที่มีรูปแบบและวิธีการอยู่
ที่ไม่ใช่แค่การบอกคุณสมบัติ และใช้ รูป clip สวย
แล้วไปห้ำหั่นที่ราคา
เพื่อให้คุณนั้นสามารถที่จะเอา วิธีการ หลักการ
ในการทำ content marketing
ที่เรานั้นเรียบเรียงจัดเตรียมไว้ให้
นำไปปรับใช้กับ สินค้า หรือ บริการ ของธุรกิจของคุณนั้นได้ทันที
สนใจอ่านบทความเพิ่มเติม
https://bit.ly/karntalard101