[CR] เยือนกระบี่ยามหน้าฝน ณ ทับแขกซันเซ็ท บีช รีสอร์ท

สวัสดีครับ ห่างหายจากการรีวิวไปนาน รอบนี้จะนำภาพบรรยากาศของโรงแรมแห่งหนึ่ง ณ หาดทับแขก จ.กระบี่ ที่ๆ ผมเคยคิดฝันมานานแล้วว่า สักวันหนึ่งจะพาแม่ไปพักผ่อนที่นี่ให้ได้ ด้วยเพราะวิวด้านหน้าของรีสอร์ทที่ไม่ธรรมดา เราสามารถดูพระอาทิตย์ตกท่ามกลางป่าเกาะ ซึ่งประกอบไปด้วย...เกาะห้อง เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ และเราจะเห็นสีของท้องฟ้ายามเย็นที่เปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติในทุกๆ วัน คาดเดาไม่ได้เลยว่าวันไหนจะสวย วันไหนจะธรรมดา ผมเลยตัดสินใจจองห้องพักจากงานไทยเที่ยวไทย ตั้งแต่ปลายปี 2562 เพื่อจะมาเดินทางช่วงปลายเมษายน 2563 แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาด จึงได้เดินทางเมื่อ 20 - 23 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมาครับ เป็นการไปพักผ่อนจริงจัง อยู่แต่ในรีสอร์ทล้วนๆ ไม่ออกไปไหนเลยครับ

ที่นี่ คือ ทับแขกซันเซ็ท บีช รีสอร์ท หาดทับแขก จ.กระบี่ 


เริ่มต้นการเดินทางกับทริปนี้ด้วยสายการบินไทยสมายล์ โดยผมซื้อตั๋วก่อนเดินทางไม่เกิน 1 เดือน ในราคาคนละ 1,000 บาท ถือว่าโอเคครับ และเวลาดีสุดถ้าเทียบกับเจ้าอื่นๆ ในขณะนั้น แต่ก็มีวุ่นวายเล็กน้อยจนได้ เดิมจองไว้ในเที่ยวเช้า แต่หลังจากจองไปไม่นาน ได้รับการแจ้งว่าเที่ยวบินตอนเช้ายกเลิก และย้ายผมไปอยู่เที่ยวบิน WE249 ออกจากสุวรรณภูมิ 16.45 น. แหม่ จัดให้ผมซะเย็นย่ำเลยนะครับไทยยิ้ม แต่ก็เอาน่ะ ไหนๆ ตั้งใจจะไปนอนพักผ่อนแล้ว ไม่อยากคิดอะไรมากแล้ว เดินทางกันดีกว่า บนเที่ยวบินไม่มีบริการอาหารว่างครับ แจกแต่เลจล้างมือ (หอมมาก) และน้ำดื่มคนละ 1 ขวดเมื่อถึงปลายทาง


วิวงามๆ รอต้อนรับแล้วก่อนลงจอดสนามบินกระบี่


ถึงสนามบินกระบี่แล้ว ผมติดต่อรถจากโรงแรมไว้ให้มารับผมกับแม่ครับ ในราคาขาละ 800 บาท สำหรับคนไม่เช่ารถขับอย่างผม ถือว่าโอเคครับ ราคารับได้ เพราะกว่าจะถึงที่พัก ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่อนข้างไกล แนะนำว่าใครที่ให้รถโรงแรมมารับ ก่อนถึงที่พักให้แวะซื้อของที่คิดว่าจำเป็นสำหรับคุณเข้าไปด้วยเลยนะครับ เพราะแถวรีสอร์ทไม่มีร้านค้าอะไรเลย ใกล้ๆที่สุด ต้องขับรถออกมาเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาที อยู่ละแวกหาดคลองม่วงครับ 

ตัดภาพตอนมาถึงที่รีสอร์ทเลยนะครับ แค่วันแรกวิวก็เด็ดซะแล้ว เสียดายมาถึงช้าไปนิด ไม่งั้นผมคงใช้กล้องถ่ายรูปกับขาตั้งกล้อง เก็บบรรยากาศสุดๆแบบนี้แทนละ (ภาพนี้ถ่ายจากมือถือครับ)


มาดูบรรยากาศของที่พักกันนะครับ ที่นี่จะมีห้องพักหลายแบบ เริ่มตั้งแต่ Deluxe Building, Deluxe Pool Access, Deluxe Garden และ Deluxe Beach Front สำหรับผมเลือกพักแบบ Deluxe Garden ในราคา 2,500 บาทต่อคืน พร้อมอาหารเช้า เนื่องจากผมมีสูงวัยไปด้วย ขึ้นลงห้องได้สะดวกหน่อย อีกอย่างห้อง Type นี้จะใกล้ทั้งสระว่ายน้ำและชายหาดครับ ห้องพักสะอาด กว้างขวาง และสะดวกสบายดีครับ 
    

มุมมินิบาร์ในห้องพัก มีน้ำดื่มให้วันละ 2 ขวด ตามมาตรฐานทั่วไป พร้อมตู้เย็น (อันนี้สำคัญมาก เพราะผมจะเอาไว้แช่เครื่องดื่มให้เย็นฉ่ำครับ อิอิ)

 

มาดูบรรยากาศภายในรีสอร์กันครับ เมื่อออกจากห้อง เลี้ยวซ้ายจะเจอทางเดินลงหาด 

 
หากเลี้ยวขวาก็จะเจอสระว่ายน้ำ ผมใช้บริการสระว่ายน้ำทุกวัน เพราะแทบไม่มีลูกค้าใช้บริการ แต่ละวันมีลูกค้าเข้าพัก 4 - 5 ห้องเอง จึงได้ความส่วนตัวมากๆ ครองสระได้เลย (สุดสัปดาห์คนน่าจะเยอะ)


ห้องพักแบบ Deluxe Building (ชั้นบน) และ Deluxe Pool Access (ชั้นล่าง) เดินลงสระได้สบายๆ เลยครับ


มาดูบรรยากาศบริเวณโซนหน้าชายหาดบ้างครับ เงียบสงบดีจริงๆ แต่น้ำทะเลไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไรครับ น้ำจะสีขุ่น ไม่ใส เพราะใกล้ปากอ่าวครับ และช่วงที่ผมไปเป็นช่วงรอยต่อระหว่าง 15 ค่ำและ 1 ค่ำ น้ำทะเลจะขึ้นสูงสุด แล้วน้ำพัดพาขยะมาเต็มเลย แต่ที่นี่จะมีพนักงานคอยทำความสะอาดชายหาดตลอดนะครับ  


ห้องแบบ Deluxe Beach Front


มาดูบรรยากาศช่วงเย็นกันบ้างครับ ธรรมชาติทำให้สีของท้องฟ้าแตกต่างกันไปในแต่ละวันและช่วงเวลาจริงๆ


รีสอร์ทจะมีร้านอาหาร Red Leaf Bar ตั้งอยู่ริมหาดทับแขก ถ้ามาช่วงหน้าไฮ บรรยากาศช่วงเย็นคงจะสุดๆ นี่ขนาดผมมาหน้าฝน ยังมองว่าบรรยากาศดีเลยครับ

 
สิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ คือเรื่องอาหารการกิน อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า ทริปนี้ผมไม่ออกไปไหนเลย ใช้ชีวิตในรีสอร์ทตลอดเวลา ดังนั้นอาหารทุกมื้อ ฝากท้องในรีสอร์ทตลอดครับ ร้านข้างๆ รีสอร์ทก็ไม่กล้าไปทาน ได้ยินมาว่าราคาโหดมาก เพราะมีร้านเดียวในละแวกนั้นที่ไม่ใช่ร้านในรีสอร์ท

- อาหารเช้า มีเมนูตามมาตรฐานรีสอร์ททั่วไป คือ มีทั้งแบบ ABF หรือข้าวต้ม สลัด ผลไม้ ขนมปัง ชา กาแฟ และน้ำผลไม้ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหารแบบปรุงร้อนเพิ่มได้เช่นกัน เช่น ข้าวผัด หรือผัดซีอิ๊ว ช่วงที่ผมเข้าไปเข้าพักมีลูกค้าน้อย จึงบริการแบบ a la carte ครับ สามารถเติมได้ตลอดจนกว่าจะอื่ม

- อาหารมื้ออื่นๆ ราคาอาหารจานเดียวเริ่มที่ 170 บ. ++ อาจจะดูราคาสูงไปนิดตามสไตล์ในรีสอร์ท แต่สำหรับผมถือว่าคุ้มครับ ให้เยอะมาก จานเดียวอิ่มเลย ที่สำคัญอร่อยมากครับ วัตถุดิบสดทุกอย่าง เมนูที่ผมติดใจ คือ ผัดไทกุ้งสด ผมว่ารสอร่อยกว่าร้านดังๆ ในกรุงเทพซะอีก ส่วนอาหารที่สั่งเป็นกับข้าว รสอร่อยทุกอย่างเช่นกัน ราคา 200-300++ ครับ


วันเวลาผ่านไปเร็ว แป้บๆ เข้าสู่วันที่ 4 ของการเดินทาง ต้องกลับแล้ว เก็บภาพก่อนขึ้นรถไปสนามบินซะหน่อยครับ...วันกลับมักจะอากาศดีเสมอ


กลับสู่เมืองกรุงกับสิงห์โต เที่ยวบิน SL 807 ได้ราคาตั๋ว 1,000 บาทต่อคนอีกเช่นกัน เป็นช่วงโปรที่รวมน้ำหนักให้คนละ 20 กิโลกรัม บรรยากาศช่างแตกต่างจากขามามาก คนเกือบเต็มลำครับ ตอนลงที่ดอนเมือง ก็ไม่มีการจัดระเบียบการปล่อยผู้โดยสารออกจากเครื่อง ภาพเดิมๆกลับมาแล้ว คือ แย่งกันออกจากเครื่อง ส่วนผมขอรอสุดท้ายแล้วกันนะ เพราะมีสูงวัยไปด้วย
- ในภาพกำลังบินผ่านเหนือหมู่เกาะอ่างทอง ที่เห็นไกลๆนั่น เกาะสมุย และเกาะพะงัน


สรุป...ทับแขกซันเซ็ท บีช รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งในที่พัก ที่ผมแนะนำนะครับ หากใครที่มองหาความเงียบสงบ ส่วนตัว มาแล้วได้พักผ่อนจริงๆ และราคาห้องพักที่ไม่สูงเกินไป (หากเทียบกับที่อื่นๆในละแวกใกล้เคียง ที่นี่ถือว่าราคาไม่แรงครับ) พร้อมด้วยการได้รับการบริการที่ดี พบรอยยิ้มจากพนักงานทุกคน และลิ้มรสอาหารอร่อยๆ ที่นี่คือตอบโจทย์เลยครับ

ขอบคุณทุกที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ และร่ำลาไปด้วยภาพนี้ครับ

ชื่อสินค้า:   ทับแขกซันเซ็ท บีช รีสอร์ท
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่