[BR] เที่ยวสบาย ๆ แบบ 1 Day Trip ที่อิบารากิ วิ่งเล่นในสวนดอกไม้ กินของอร่อยที่ตลาดปลา

กระทู้ผู้สนับสนุน
สวัสดีค่าเพื่อน ๆ นี่เป็นครั้งแรกของเราในการไปเที่ยวที่จังหวัด “อิบารากิ” ประเทศญี่ปุ่น จังหวัดที่หลาย ๆ คนอาจจะพอคุ้นหู หรือหลายคนอาจจะเคยไปขับรถผ่านตอนไปเที่ยวกันมาแล้วบ้าง แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักอิบารากิกันให้มากขึ้นด้วยการพาไปเก็บแลนด์มาร์กเด็ด ๆ บอกเลยว่าแต่ละที่คือปังมาก !


จังหวัดอิบารากิอยู่ในภูมิภาคคันโต มิโตเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของจังหวัด มีระยะทางห่างจากโตเกียวเพียง 100 กิโลเมตร ขอสารภาพเลยว่าก่อนที่จะไปเที่ยว เราก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าที่นี่อยู่ใกล้โตเกียวมาก ๆ เดินทางง่ายและสะดวกสบาย เราก็เลยคิดว่าทริปนี้น่าจะไปแบบเช้าเย็นกลับได้ ที่สำคัญคือทำให้เราไม่ต้องหาที่พักเพิ่มด้วย เพราะสามารถกลับมานอนที่โตเกียวได้เลย

ที่อิบารากินั้นเรียกว่าเป็นทั้งจังหวัดที่มีสีสัน และธรรมชาติสวย ๆ มากมายเลยนะคะ เราสามารถแวะมาเที่ยว เติมพลังใจได้ตลอดปี แลนด์มาร์กที่ขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น  Kairakuen Garden  เป็น 1 ใน 3 สวนที่ดังที่สุดของญี่ปุ่น, สวนดอกไม้  Hitachi Seaside Park  ซึ่งเป็นจุดหมายของการมาอิบารากิของเราวันนี้ แถมยังมีแหล่งของกินขึ้นชื่อ นั่นก็คือ Nakaminato Fish Market  ตลาดปลาที่เค้าว่ากันว่ามีของกินที่หาทานไม่ได้ง่าย ๆ ในโตเกียวเยอะมาก ๆ เลยค่ะ  

สำหรับทริปนี้เราได้เดินทางไปเที่ยวกันตั้งแต่ช่วงวันที่ 20 เมษายน ปี 2019 เป็นทริปสบาย ๆ เน้นชมบรรยากาศสวย ๆ  ซึ่งเราจะขอเริ่มต้นทริปด้วยการพาไปถ่ายรูปชิค ๆ กับดอกไม้ที่ Hitachi Seaside Park(国営ひたち海浜公園)  และไปทานอาหารกลางวันอร่อย ๆ ที่ Nakaminato Fish Market(おさかな市場)  และปิดทริปด้วยการไปเดินเล่นกันที่สวน Kairakuen Garden(偕楽園) ด้วยความที่อิบารากิไม่ไกลจากโตเกียว ทำให้ทริปนี้สะดวกสบาย เพราะเราสามารถนั่งรถไฟ JR จากโตเกียว หรือจากสนาบินฮาเนะดะไปอิบารากิ โดยใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น

เริ่มกันที่พิกัดแรก Hitachi Seaside Park (国営ひたち海浜公園)  เราเดินทางจาก Shinagawa โตเกียว ด้วยรถไฟและต่อด้วยรถบัสค่ะ

จากสถานีรถไฟ JR Mito ⇒ นั่ง JR Jōban Line (常磐線) ไปลงที่สถานี JR Katsuta  (勝田駅) ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ

เมื่อมาถึงสถานี Katsuta แล้ว ให้เรามองหาป้าย Transit bus ของบริษัท Ibaraki Kotsu โดยเทอร์มินัลรถบัสจะอยู่ที่ East Exit No.2 โดยจะต้องเป็นรถที่มุ่งหน้าไปยัง Hitachi Seaside Park West Gate ค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที


เจอแล้ว ป้ายบอกพิกัดไปขึ้นรถบัส  Hitachi Seaside Park  



สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวแบบสบาย ๆ เราแนะนำให้ซื้อ 1 day bus ticket ซึ่งเป็นตั๋วที่รวมค่าเข้า Hitachi Seaside Park + นั่งรถบัสแบบบุฟเฟ่ต์ 1 วัน (นั่งบัสกี่รอบก็ได้) ไว้ล่วงหน้าก่อน จะได้ไม่ต้องต่อแถวเข้าคิวซื้อตั๋วเข้าสวนค่ะ สำหรับราคาผู้ใหญ่ อยู่ที่ 1,100 เยน  และราคาผู้สูงอายุ (65ปีขึ้นไป)1,000 เยนโดยตั๋วจะเป็นแบบระบุวันที่เข้าสวน และระบุโซนกับวันที่ใช้ขึ้นรถบัส คุ้มมาก ๆ เหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับเหมือนเราค่ะ สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่เคาน์เตอร์ของบริษัท Ibaraki Kotsu ที่สถานี Katsuta หรือที่ Information Center หน้าสถานี Mito ค่ะ


มาถึงแล้วค่า Hitachi Seaside Park สวรรค์ของคนรักดอกไม้ !


Hitachi Seaside Park มีพื้นที่สวนอยู่ติดกับทะเลและมีบรรยากาศดีมาก ที่นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์กของจังหวัดอิบารากิ แถมยังถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน 31 สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกเนโมฟีลา ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งพร้อมกันกว่า 5,300,000 ต้น คนที่เคยมาเที่ยวเค้าบอกกันว่าวิวที่นี่สวยอย่างกับอยู่ในเทพนิยายเลยนะเออ

ก่อนที่จะเดินเข้าไปชมสวน แวะหยิบ GUIDE MAP เอาไว้หน่อย เดี๋ยวจะหลง เพราะสวนสาธารณะ Hitachi Seaside Park  มีบริเวณกว้างขวางมากถึง 215 ha (ประมาณ 2,150,000 ตารางเมตร )  เรียกว่าเดินเที่ยวได้ทั้งวันเลยถ้าไม่หมดแรงซะก่อน 55 ซึ่งภายในตัว GUIDE MAP เค้ามีภาษาไทยด้วยนะคะ 55 สบายใจได้เลย ด้านในก็จะมีรายละเอียดโซนดอกไม้ต่าง ๆ บอกไว้อย่างละเอียดเลยล่ะ


ที่นี่แบ่งเป็น 7 โซนค่ะ มีทั้งโซนให้พักผ่อนหย่อนใจกลางธรรมชาติและสวนดอกไม้ และด้วยความที่มีพื้นที่กว้างมาก เค้าก็มีบริการให้เช่าจักรยานชมวิวได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีคอร์ส BMX และโซน Forest athletic ลานบาร์บีคิวและมีสวนสนุก Pleasure Garden  ที่มีเครื่องเล่นกว่า  25 ชนิด  

Hitachi Seaside Park เปิดให้เราเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะในแต่ละฤดูก็จะมีดอกไม้ผลัดกันบานสวยงาม สลับกันตลอด ทั้งดอกกุหลาบ ทานตะวัน คอสมอส หญ้ากอเชีย รวมไปถึง ทุ่งนาร์ซิสซัส ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามกว่า 1,000,000 ดอกในช่วงใบไม้ผลิ (ปลายมีนาคม-กลางเดือนเมษายน)  และเป็นช่วงเดียวกันกับ ที่ต้นทิวลิปบานพอดี (ช่วงกลางเดือน-ปลายเดือนเมษายน) ใครอยากเจอดอกไม้ที่ชอบช่วงไหน วางแผนกันไว้ได้เลยะนะคะ

และในช่วงกลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม จะได้พบกับไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ ทุ่งดอกเนโมฟีลาสุดตระการตาจำนวนกว่า 5,300,000 ต้น ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง ณ เนินเขามิฮาราชิอีกด้วย


กิจกรรมที่ต้องทำเมื่อมาที่นี่ นอกจากซึมซับบรรยากาศสวย ๆ ของดอกไม้นานาชนิดให้เต็มที่แล้ว นั่นก็คือการถ่ายรูปค่ะ ไม่ว่าจะถ่ายคู่กับดอกไม้ หรือถ่ายดอกไม้เฉย ๆ ก็สวยแล้ว


นอกจากนั้นในฤดูร้อนจะมีดอกไม้อื่น ๆ  เช่น ดอกทานตะวัน ดอกบานชื่น และโคเกียสีเขียวสดใสที่กำลังโตให้เพื่อน ๆ ได้ชมด้วยนะ

ถ้าหากไปเที่ยวช่วงกลางเดือนกรกฏาคม-ปลายเดือนตุลาคม จะเจอกับภาพของ พุ่มโคเกีย (kochia) ซึ่งเป็นพืชวงศ์บานไม่รู้โรยทรงกลมที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดู และกำลังอยู่ในช่วงพีคสุด ๆ โดยน้องเค้าจะเปลี่ยนจากสีเขียว ๆ กลายเป็นสีแดงเข้มสวยงามสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ ดูแปลกตาแล้วก็สวยงามทีเดียว

(พุ่มโคเกียจะถูกปลูกด้วยมือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฏาคม)



พุ่มโคเกีย (kochia) จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มช่วงกลางเดือนตุลาคม



ถ่ายรูปมุมโน้นก็ดี มุมนี้ก็ดูแปลกตา นี่มันสวรรค์ของคนชอบถ่ายรูปชัด ๆ 555



KOCHIA LIGHT UP งานแสดงไฟและดนตรีสุดเพลิดเพลิน ซึ่งงานนี้เค้าจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี จะมีการประดับประดาไฟหลากหลายสีสันไปบนทุ่ง Kochia ที่เนินเขามิฮาราชิอีกด้วย เป็นอีเวนท์ที่พลาดไม่ได้เลยในยามค่ำคืน และยังมีอาหารอร่อย ๆ ให้ซื้อและเดินรับประทานในงานด้วย (1 ปีจะจัด 10 วันเท่านั้น ※งานอีเวนท์นี้ประจำปี 2020 ถูกยกเลิกเนื่องจากป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19)  




หลังจากที่จบช่วงฤดูดอกโคเกียกันไปแล้ว ก็จะถึงช่วงของดอกเนโมฟีลาบานสะพรั่งกันบ้าง สำหรับใครที่ตั้งใจมาชมทุ่งเนโมฟีลาสวย ๆ แนะนำให้มาเที่ยวช่วงกลางเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกกำลังบานสะพรั่งเต็มสวน สามารถรับชมภาพสวย ๆ ของดอกไม้ได้แบบ 360 องศาเลยค่ะ !   

(ช่วงที่ดอกเนโมฟีลาบาน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในแต่ละปีด้วยนะคะ แนะนำว่าให้เช็กก่อนดีกว่าว่าจะสามารถเข้าไปชมดอกไม้บานได้ถึงเมื่อไหร่ อย่างช่วงปี 2020 นี้ หน้าหนาวไม่นานมาก ดอกไม้จะบานแค่ในช่วงกลางเดือน-ปลายเดือนเมษายนเท่านั้นค่ะ)

และนี่คือโซนดอกเนโมฟีลา (Nemophila) หรือดอกเบบี้บลูอาย (baby blue eyes) โอ้โห ! บอกเลยว่านี่งดงาม อลังแบบสุด ๆ เค้าบอกว่าเจ้าดอกเนโมฟีล่านี้จะบานที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แอบเสียดายนิดนึง  ตอนที่เราไปถ่ายรูปไว้ได้ไม่ชัด แต่ไม่เป็นไรค่า เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เห็นสวย ๆ ภาพส่วนหนึ่งในกระทู้เลยเป็นภาพที่เราขอรูปจากทางสมาคมท่องเที่ยวมาลงค่ะ




มองไปทางไหนก็จะเจอแต่ภาพของดอกเนโมฟิลาสีฟ้าทอดยาวตลอดเนินเขา



ราคาเข้าสวน

***ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นม.ปลายขึ้นไป) / เที่ยว 1 วัน ราคา 450 เยน (ทั่วไป) 290 เยน (กรุ๊ป)

***ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นม.ปลายขึ้นไป) / เที่ยว 2 วัน ราคา 500 เยน (ทั่วไป) 350 เยน (กรุ๊ป)

***ผู้สูงวัย (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน / เที่ยว 1 วัน 250 เยน / เที่ยว 2 วัน  เด็กเล็ก - นักเรียนชั้นม.ต้น ฟรี

※ ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงจะมีค่าบริการในแต่ละฤดูอยู่ กรุณาตรวจสอบก่อนเข้าเยี่ยมชม
※ กรุณาตรวจสอบเวลาการเปิดสวน ช่วงเวลาการบานของดอกไม้ และรายละเอียดของอีเวนต์ต่างๆในเว็บไซต์ https://hitachikaihin.jp/th/

หลังจากดูสวนดอกไม้จนเพลิน ได้รูปถ่ายกับดอกไม้กว่าหลายล้านรูปแล้วจนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลาหาข้าวเที่ยงกันค่า อย่ารอช้าไป Nakaminato Fish Market กันเถอะ !  

การเดินทางมายัง Nakaminato Fish Market ให้เรานั่งรถบัส (ใช้ตั๋ว 1 day bus ticket ที่นั่งแบบบุฟเฟ่ต์) จาก Hitachi Seaside Park กลับมายังสถานี JR Katsuta ประมาณ 15 นาที จากนั้นนั่ง Hitachinaka Seaside Railway, Minato Line (ひたちなか海浜鉄道湊線)  ไปลงที่สถานี Nakaminato (那珂湊駅) ใช้เวลาอีกประมาณ 16 นาที



เมื่อมาถึงสถานี Nakaminato (那珂湊駅)  ให้เดินต่อไปใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือสามารถนั่งแท็กซี่ไปได้กรณีที่รีบนะคะ (แท็กซี่มิเตอร์ขึ้นแค่ราคาขั้นต่ำสุด เพราะไม่ไกลมาก) แต่เราไม่รีบ ก็เลยขอเดินชิล ๆ อิอิ
ชื่อสินค้า:   IBARAKI
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่