หลังจากการปลดล็อคของรัฐบาลก็ได้เวลาที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทริปนี้เราอยากจะไปเที่ยวทะเลจึงตัดสินใจที่จะไปเที่ยวกันที่ระนอง ทริปนี้เริ่มต้นการเดินทางในคืนวันศุกร์มุ่งตรงไปที่จังหวัดระนอง
   
           เมื่อมาถึงจังหวัดระนองแล้วเราก็ต้องหาข้าวเช้ากินกัน ติ่มซำเหมาะจะเป็นมือเช้าที่ดีที่สุด เราจึงแวะกินติ่มซำร้านเด็ดอย่างร้านยามเช้าติ่มซำ ที่มีเมนูติ่มซำให้เลือกมากมายจนนับไม่ถ้วน ที่ทั้งถูกและอร่อย
เวลาเปิดทำการติ่มซำยามเช้า: 6.30 - 12.00 น.
พิกัด: 130/171 ถ.เฉลิมพระเกียรติ ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จ.ระนอง ประเทศไทย
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่: มื้อเช้าฟินๆกับยามเช้าติ่มซำที่ระนอง


           เมื่ออิ่มท้องกันแล้วเราก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดบ้านหงาว ที่มีพระอุโบสถที่วิจิตรงดงามและยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อดีบุก เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทาง
เวลาเปิดทำการ: 8.00 - 17.00 น.
พิกัด: วัดบ้านหงาว 63/2 หมู่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:สักการะพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดบ้านหงาว


            จากนั้นก่อนที่เราจะข้ามไปยังเกาะพยามก็ขอแวะบ้านไร่ไออรุณ เพื่อดื่มเครื่องดื่มและถ่ายรูปเก๋ ๆ ซักเล็กน้อยเช้า ๆ แบบนี้เมนูเครื่องดื่มที่น่าจะทำให้เราสดชื่นตื่นเต็มตานั่นก็คือเสาวรสโซดา จากนั้นก็เดินถ่ายรูปชิค ๆ กับอ้อมกอดของธรรมชาติบริเวณคาเฟ่ของบ้านไร่ไออรุณซักเล็กน้อยก่อนเดินทางกันต่อ
เวลาเปิดทำการของคาเฟ่: 9.00 - 17.00 น.
พิกัด: 21 หมู่ 7 ตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ ระนอง
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:โอบกอดด้วยความรักจากธรรมชาติ ที่บ้านไร่ไออรุณ


            เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องเดินทางไปยังท่าเรือข้ามไปเกาะพยาม เพื่อเดินทางไปที่ The Blue Sky Resorts หรือที่รู้จักกันในนามมัลดีฟเมืองไทยโดยมีเจ้าหน้าที่ของ The Blue Sky Resorts มารับที่ท่าเรือ จากนั้นเราก็นั่งเรือสปีดโบ๊ทไปประมาณ 40 นาทีก็จะถึงเกาะพยาม ทางรีสอร์ตจะส่งรถกอล์ฟหรือรถอีแต๊กมารับที่ท่าเรือไปยังรีสอร์ต The Blue Sky Resorts เป็นที่พักที่เงียบสงบให้บรรยากาศเหมือนเราอยู่มัลดีฟ ซึ่งมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ให้โพสต์รูปไปอวดโซเชียลเพียบ
พิกัด: 122 หมู่ 1 เกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:มัลดีฟเมืองไทยที่บูสกายรีสอร์ทเกาะพยาม


              พักที่รีสอร์ตให้หายเหนื่อยสักพักเราก็นั่งรถอีแต๊กเที่ยวรอบเกาะพยามกัน จุดเช็กอินชุดแรกนั่นก็คือวัดเกาะพยามที่มีศาลากลางน้ำให้เราสักการะบูชา จุดต่อมาคืออ่าวเขาควายที่มีเขาทะลุให้เราได้โพสต์ท่าถ่ายรูปคู่กับทะเลและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและจุดสุดท้ายก็คืออ่าวใหญ่ที่เป็นชายหาดกว้างสุดลูกหูลูกตาให้เราได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ

พิกัด: เกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:3 จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดบนเกาะพยาม


               ปิดท้ายวันแรกด้วยมื้อเย็นกับร้านอาหารแบบบ้าน ๆ ที่ทั้ง อร่อย สด และถูกบอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจ เหมาะจะเป็นมื้อปิดท้ายของวันกับร้านพยามซีวิว ที่เราสามารถนั่งมองเห็นวิวทะเลและภูเขาไปกินอาหารไปได้อีกด้วย
พิกัด: เกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:ร้านบ้านๆที่มีความอร่อยเกินร้อยที่พยามซีวิว

            
   วันที่ 2 เมื่อถึงเวลาที่ต้องอำลาความสวยงามและเงียบสงบของเกาะพยาม และเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่ตอนกลับเราก็ต้องซื้อของชื่อดังของจังหวัดระนองกลับไปฝากคนที่บ้านอย่างเช่นซาลาเปาทับหลีที่เป็นของดีของจังหวัดระนอง เราแวะซื้อที่ร้านสุนันทา ทับหลี ใช่ที่ขอแนะนำนั่นคือไส้ถั่วดำที่ทั้งหอม หวาน มันกำลังดี แป้ง ซาลาเปาก็ทำออกมาได้เหนี่ยวนุ่มดีมาก ราคาลูกละ 6 บาท
พิกัด: หมู่ 4 ตำบลมะมุ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
เวลาเปิดทำการ: 8.00 - 16.00 น.
     
        จากนั้นเราขับรถมุ่งตรงกลับกรุงเทพฯ ผ่านจังหวัดชุมพร ซึ่งก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดีจึงขอแวะเติมพลังกันก่อนกลับ กลับร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของจังหวัดชุมพรอย่างก๋วยเตี๋ยวท้าพิสูจน์ ที่บอกได้เลยว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกอ่อนของร้านนี้อร่อยครบเครื่องกระดูกอ่อนของร้านนี้ทำออกมาได้ดีเยี่ยมเคี้ยวเพลินอร่อยสุด ๆ
เวลาเปิดทำการ: 8.00 - 15.00 น. 
พิกัด: 283/1 หมู่ 9 ถ.เพชรเกษม ตำบลวังใหม่ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกอ่อนสุดแซ่บที่ร้านก๋วยเตี๋ยวท้าพิสูจน์จังหวัดชุมพร


              ไหน ๆ ก็ผ่านจังหวัดชุมพรแล้วก็ขอมาชมวิวที่จุดชมวิวเขามัทรี และเติมความหวานให้กับร่างกายด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ จากร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ พร้อมกับชมวิวทะเล และถ่ายรูปเก๋ ๆ กับวิว 360 องศาที่จุดชมวิว
เวลาเปิดทำการร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ที่เขามัทรี: 7.00 - 19.00 น. 
พิกัด: จุดชมวิวเขามัทรี ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่:จิบชาชมวิวถ่ายรูปที่จุดชมวิวเขามัทรีและร้านกาแฟถ้ำสิงห์จังหวัดชุมพร


                ที่สุดท้ายที่เราจะแวะก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ นั่นก็คือศาลพ่อตาหินช้างเพื่อขอพรเป็นสิริมงคล นานน่าจะมีร้านขายของฝากมากมายให้เราได้แวะซื้อของฝากของดีจังหวัดชุมพรนั่นอย่างกล้วยเล็บมือนาง ซึ่งมีทั้งแบบอบน้ำผึ้ง อบธรรมชาติหรือแบบเคลือบช็อกโกแลตติดไม้ติดมือไว้ฝากคนที่บ้านกัน
พิกัด: 32 ถนนเพชรเกษม ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
              ใครกำลังมองหาที่เที่ยวเพื่อผ่อนคลายก็ลองมาตามรอยกันดูได้นะคะ บอกได้เลยว่าทริปนี้แวะกันแบบจุก ๆกันไปเลยทีเดียว เพื่อน ๆ ลองปรับเปลี่ยนโปรแกรมดูได้นะคะ

เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรกผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค่า ฝากเข้าไปอ่านบทความกันด้วยนะค่า😊