สวัสดีค่ะ เรื่องที่เราอยากจะถามและขอคำปรึกษาจากพี่ๆเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านก็ตามหัวกระทู้เลยค่ะ เอาหล่ะเข้าเรื่องกันดีกว่า
คือเรามีเพื่อนคนนึงสมมติให้นางชื่อ “ เอ ” เอเป็นเพื่อนสมัยประถมของเรา ตอนนี้คบกันได้จะ 10 ปีแล้วค่ะ ( ตอนนี้ จขกท. อยู่ ม.ต้นนะคะ ) ตอนสมัยประถม เออยู่กลุ่มเดียวกันกับเรา ถ้าถามว่าตอนนั้นสนิทกันมั้ย ก็สนิทแหละ แต่เราจะสนิทกับเพื่อนอีกคนมากกว่าประกอบกับที่เรากับเอชอบทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ (ตามประสาเด็กประถมอ่ะเนอะ) มันเลยทำให้เราสองคนไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่นัก จนมาถึงจุดจุดนึงตอน ป.6 ที่พวกเราต้องแยกย้ายกัน ต่างคนต่างสอบเข้าไปใช้ชีวิตมัธยมของตัวเอง กระจัดกระจายกันจนเริ่มห่างกันเรื่อยๆ แต่เรากับเพื่อนในกลุ่มก็ยังติดต่อกันอยู่ถึงจะไม่ได้สนิทกันเหมือนแต่ก่อนแล้วก็ตาม...
และด้วยอะไรไม่รู้ อยู่ๆเรากับเอก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกๆวัน จนตัว จขกท. เคยคิดว่าเอนี่แหละเป็นเพื่อนตายของฉัน มีไรปรึกษากันตลอด ขอท้าวความก่อนเลยว่า เอนางเป็นคนค่อนข้างเก็บกดอ่อนไหวง่ายและเจ้าน้ำตามากกก ซึ่งตรงกันข้ามกับ จขกท. ที่เป็นคนชอบพูดตรงๆห้าวๆ และจะไม่ยอมเสียน้ำตาให้เรื่องโง่ๆเด็ดขาด ด้วยนิสัยที่ขัดแย้งกันของเราเลยทำให้ทะเลาะกันเป็นปกติบ่อยๆ แต่ก็กลับมาคืนดีกันในวันสองวันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม จนกระทั่งช่วงนี้เรามีปัญหาขัดแย้งกันบ่อย เช่น เอชอบพูดถึงแต่เรื่องตัวเอง พอ จขกท. มาขอคำปรึกษาเอนางก็จะตอบส่งๆแบบ อืม อื้มมม เอ่อ อ่า...
มันทำให้บางที จขกท. ก็รู้สึกน้อยใจนะ ที่เพื่อนตอบเหมือนเรื่องของเราไม่สำคัญทั้งที่เวลาเอมันเล่าเรื่องไรเราไม่เคยตอบส่งๆหรือเมินมันเลยแต่พอเรี่องของเราแกกลับทำเหมือนไม่อยากฟัง โอเคถึงจุดนี้คุณอาจจะคิดว่าเรางี่เง่า ใช่ค่ะเราก็คิดว่าเรางี่เง่าที่มาน้อยใจกับเรื่องแค่นี้ แต่เราก็อดไม่ได้จิงๆเพราะมันทำอย่างงี้ทุกครั้งที่เรากำลังซีเรียส เราเลยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไปปรึกษาอะไรกับมันเพราะไม่อยากได้ความรู้สึกแย่ๆตอบแทน อ่ะแต่แต่ เรื่องที่ทำให้เราลังเลว่าจะคบกับมันต่อดีมั้ยยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ เรื่องที่เราไม่ค่อยชอบของเอคือ เอมันชอบเอาเพื่อนใหม่มันมานินทาให้เราฟังค่ะ แต่พออยู่กับเพื่อนใหม่ก็ทำตัวสนิทสนมกันเหมือนเดิม ง่ายๆคือตีสองหน้าซึ่งโดยส่วนตัว จขกท. ไม่ชอบคนประเภทนี้เท่าไหร่เลยทำให้ความไม่ชอบเอมันมากขึ้นทีละนิด ต่อมาคือ เวลาอยู่กับเพี่อนใหม่มัน เอชอบทิ้งเรา ทิ้งแบบทิ้งจริงๆค่ะ เวลาทักไรไปคือเมิน แล้วไปสนใจเพื่อนใหม่แทน เรื่องตรงจุดนี้เลยทำให้เราเอาเก็บไว้ในใจตลอด+กับเรื่องอื่นๆ เลยทำให้เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับมันละ จนกระทั่งวันนึงที่ความอดทนของ จขกท. ระเบิดออกมา เราได้พิมคุยกับเอดีๆอย่างมีสติถึงเรื่องที่เราน้อยใจมันต่างๆ แต่สิ่งที่มันตอบกลับเรามาคืออะไรรู้มั้ยคะ? นังเอมันตอบกลับเราว่า “ ถ้าเป็นอย่างงี้*ูไม่น่าแคร์แต่ทีแรกเลย ” บร๊ะ!! หล่อนเคยแคร์ฉันด้วยหรอ ฉันเห็นแต่หล่อนมาหาฉันแคร์ฉันแค่ตอนมีปัญหานะ ขอโทษค่ะใส่อารมณ์มากไปหน่อย... อะแฮ่ม! ด้วยความที่ตอนนั้นปรอทอารมณ์มันแตกแล้ว คือหัวร้อนมากจนต้องเอาหัวไปจุ่มโอ่งให้จิตใจสงบไม่ขี่รถไปทุบประตูบ้านมันซะก่อน เลยได้แต่พิมพ์ อืมๆอาๆไปแบบใจเย็นทั้งที่ตอนนั้นปี๊ดแตกไปแล้ว หลังจากเหตุการณ์นั้นสงบลงเรากับมันก็ไม่คุยกันได้สองสามวันแล้ว สุดท้ายเรื่องนั้นก็จบด้วยการที่เราขอโทษมัน คือเรายอมรับว่าเราผิดครึ่งนึงที่ตอนนั้นเผลอพลั้งปากพูดแรงเกินไป แต่...เอก็ไม่เคยสำนึกสำเนียกในสิ่งที่ จขกท. พูดด้วยตอนนั้นเลย และยังคงทำตัวเช่นเดิมซ้ำๆ เหมือนคำพูดของอิฉันเป็นเพียงลมปาก...
และล่าสุดนี้คือทะเลาะกันเพราะเรากับเพื่อนอีกคนในกลุ่มคุยกันอยู่แล้วเมินข้อความมัน(คนที่เมินคือเพื่อนอีกคนเพราะด้วยเหตุอันใดไม่รู้นางคนนั้นตอบกลับแต่ฉันคนเดียว) แล้วนางเอก็ประสาทแดรกอะไรไม่รู้ อยู่ๆดึงเข้าดราม่า งอนที่โดนเมินไปเป็นสองวันสามวัน (แล้วประเด็นคือมันไม่งอนไอ่คนที่เมินแต่มางอน จขกท. วอท!! ) ส่วน จขกท. กำลังคิดว่าจะกลับไปขอโทษในสิ่งที่ไม่ผิดหรือหายไปเงียบๆจากเพื่อนเห็นแก่ตัวคนนี้ดี....ที่บอกว่าเห็นแก่ตัวเพราะเอมาหาเราแค่ตอมีปัญหาแต่พอตอนหายเศร้าเอก็หายไป
ปล. กระทู้นี้อาจจะไม่ได้สำคัญเท่ากระทู้อื่นแต่ก็เป็นปัญหาระดับชาติของคนอย่าง จขกท. ที่กำลังจะตัดคนคนึงออกจากชีวิตไป
เราควรเลิกคบกับเพื่อนคนนี้มั้ย?
คือเรามีเพื่อนคนนึงสมมติให้นางชื่อ “ เอ ” เอเป็นเพื่อนสมัยประถมของเรา ตอนนี้คบกันได้จะ 10 ปีแล้วค่ะ ( ตอนนี้ จขกท. อยู่ ม.ต้นนะคะ ) ตอนสมัยประถม เออยู่กลุ่มเดียวกันกับเรา ถ้าถามว่าตอนนั้นสนิทกันมั้ย ก็สนิทแหละ แต่เราจะสนิทกับเพื่อนอีกคนมากกว่าประกอบกับที่เรากับเอชอบทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ (ตามประสาเด็กประถมอ่ะเนอะ) มันเลยทำให้เราสองคนไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่นัก จนมาถึงจุดจุดนึงตอน ป.6 ที่พวกเราต้องแยกย้ายกัน ต่างคนต่างสอบเข้าไปใช้ชีวิตมัธยมของตัวเอง กระจัดกระจายกันจนเริ่มห่างกันเรื่อยๆ แต่เรากับเพื่อนในกลุ่มก็ยังติดต่อกันอยู่ถึงจะไม่ได้สนิทกันเหมือนแต่ก่อนแล้วก็ตาม...
และด้วยอะไรไม่รู้ อยู่ๆเรากับเอก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกๆวัน จนตัว จขกท. เคยคิดว่าเอนี่แหละเป็นเพื่อนตายของฉัน มีไรปรึกษากันตลอด ขอท้าวความก่อนเลยว่า เอนางเป็นคนค่อนข้างเก็บกดอ่อนไหวง่ายและเจ้าน้ำตามากกก ซึ่งตรงกันข้ามกับ จขกท. ที่เป็นคนชอบพูดตรงๆห้าวๆ และจะไม่ยอมเสียน้ำตาให้เรื่องโง่ๆเด็ดขาด ด้วยนิสัยที่ขัดแย้งกันของเราเลยทำให้ทะเลาะกันเป็นปกติบ่อยๆ แต่ก็กลับมาคืนดีกันในวันสองวันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม จนกระทั่งช่วงนี้เรามีปัญหาขัดแย้งกันบ่อย เช่น เอชอบพูดถึงแต่เรื่องตัวเอง พอ จขกท. มาขอคำปรึกษาเอนางก็จะตอบส่งๆแบบ อืม อื้มมม เอ่อ อ่า...
มันทำให้บางที จขกท. ก็รู้สึกน้อยใจนะ ที่เพื่อนตอบเหมือนเรื่องของเราไม่สำคัญทั้งที่เวลาเอมันเล่าเรื่องไรเราไม่เคยตอบส่งๆหรือเมินมันเลยแต่พอเรี่องของเราแกกลับทำเหมือนไม่อยากฟัง โอเคถึงจุดนี้คุณอาจจะคิดว่าเรางี่เง่า ใช่ค่ะเราก็คิดว่าเรางี่เง่าที่มาน้อยใจกับเรื่องแค่นี้ แต่เราก็อดไม่ได้จิงๆเพราะมันทำอย่างงี้ทุกครั้งที่เรากำลังซีเรียส เราเลยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไปปรึกษาอะไรกับมันเพราะไม่อยากได้ความรู้สึกแย่ๆตอบแทน อ่ะแต่แต่ เรื่องที่ทำให้เราลังเลว่าจะคบกับมันต่อดีมั้ยยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ เรื่องที่เราไม่ค่อยชอบของเอคือ เอมันชอบเอาเพื่อนใหม่มันมานินทาให้เราฟังค่ะ แต่พออยู่กับเพื่อนใหม่ก็ทำตัวสนิทสนมกันเหมือนเดิม ง่ายๆคือตีสองหน้าซึ่งโดยส่วนตัว จขกท. ไม่ชอบคนประเภทนี้เท่าไหร่เลยทำให้ความไม่ชอบเอมันมากขึ้นทีละนิด ต่อมาคือ เวลาอยู่กับเพี่อนใหม่มัน เอชอบทิ้งเรา ทิ้งแบบทิ้งจริงๆค่ะ เวลาทักไรไปคือเมิน แล้วไปสนใจเพื่อนใหม่แทน เรื่องตรงจุดนี้เลยทำให้เราเอาเก็บไว้ในใจตลอด+กับเรื่องอื่นๆ เลยทำให้เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับมันละ จนกระทั่งวันนึงที่ความอดทนของ จขกท. ระเบิดออกมา เราได้พิมคุยกับเอดีๆอย่างมีสติถึงเรื่องที่เราน้อยใจมันต่างๆ แต่สิ่งที่มันตอบกลับเรามาคืออะไรรู้มั้ยคะ? นังเอมันตอบกลับเราว่า “ ถ้าเป็นอย่างงี้*ูไม่น่าแคร์แต่ทีแรกเลย ” บร๊ะ!! หล่อนเคยแคร์ฉันด้วยหรอ ฉันเห็นแต่หล่อนมาหาฉันแคร์ฉันแค่ตอนมีปัญหานะ ขอโทษค่ะใส่อารมณ์มากไปหน่อย... อะแฮ่ม! ด้วยความที่ตอนนั้นปรอทอารมณ์มันแตกแล้ว คือหัวร้อนมากจนต้องเอาหัวไปจุ่มโอ่งให้จิตใจสงบไม่ขี่รถไปทุบประตูบ้านมันซะก่อน เลยได้แต่พิมพ์ อืมๆอาๆไปแบบใจเย็นทั้งที่ตอนนั้นปี๊ดแตกไปแล้ว หลังจากเหตุการณ์นั้นสงบลงเรากับมันก็ไม่คุยกันได้สองสามวันแล้ว สุดท้ายเรื่องนั้นก็จบด้วยการที่เราขอโทษมัน คือเรายอมรับว่าเราผิดครึ่งนึงที่ตอนนั้นเผลอพลั้งปากพูดแรงเกินไป แต่...เอก็ไม่เคยสำนึกสำเนียกในสิ่งที่ จขกท. พูดด้วยตอนนั้นเลย และยังคงทำตัวเช่นเดิมซ้ำๆ เหมือนคำพูดของอิฉันเป็นเพียงลมปาก...
และล่าสุดนี้คือทะเลาะกันเพราะเรากับเพื่อนอีกคนในกลุ่มคุยกันอยู่แล้วเมินข้อความมัน(คนที่เมินคือเพื่อนอีกคนเพราะด้วยเหตุอันใดไม่รู้นางคนนั้นตอบกลับแต่ฉันคนเดียว) แล้วนางเอก็ประสาทแดรกอะไรไม่รู้ อยู่ๆดึงเข้าดราม่า งอนที่โดนเมินไปเป็นสองวันสามวัน (แล้วประเด็นคือมันไม่งอนไอ่คนที่เมินแต่มางอน จขกท. วอท!! ) ส่วน จขกท. กำลังคิดว่าจะกลับไปขอโทษในสิ่งที่ไม่ผิดหรือหายไปเงียบๆจากเพื่อนเห็นแก่ตัวคนนี้ดี....ที่บอกว่าเห็นแก่ตัวเพราะเอมาหาเราแค่ตอมีปัญหาแต่พอตอนหายเศร้าเอก็หายไป
ปล. กระทู้นี้อาจจะไม่ได้สำคัญเท่ากระทู้อื่นแต่ก็เป็นปัญหาระดับชาติของคนอย่าง จขกท. ที่กำลังจะตัดคนคนึงออกจากชีวิตไป