** บาเซโลน่า - เวลาหกปี ด้วยผู้บริหารที่มือไม่ถึง สามารถทำให้ทีมบอลชั้นหนึ่ง ตกต่ำกลายเป็นทีมบอลชั้นสองได้ **

ผมได้อ่านบทความจากเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง เขียนถึงสาเหตุความตกต่ำของบาซ่าว่ามีสามส่วน คือ ปัญหาของนักเตะและโค้ช, ปัญหาของผู้บริหาร - เรื่องการซื้อขายผู้เล่น, และ การขาดเสถียรภาพ แต่โดยที่ส่วนตัวผมโทษสาเหตุจากผู้บริหารมากที่สุด เพราะทำงานในองค์กรเอกชนมาสามสิบปีแล้ว พบเห็นสาเหตุแห่งความรุ่งเรืองหรือล่มสลายขององค์กร มาจากผู้บริหารเป็นสัดส่วนสูงสุด จึงขอนำเฉพาะส่วนปัญหาเรื่องผู้บริหารมาเผยแพร่

ลองอ่านดูนะครับ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ยิ่งเห็นต่าง ยิ่งแลกเปลี่ยนความเห็น ก็ยิ่งเป็นประโยชน์

ขอให้มีความสุขกับชีวิตครับ

(แหล่งที่มา เฟซบุ๊ค วิเคราะห์บอลจริงจัง)
[ ปัญหาของผู้บริหาร - เรื่องการซื้อขายผู้เล่น ]

แน่นอน นักเตะกับโค้ชโดนเล่นงานหนักอยู่แล้ว แต่คำถามมันก็จะโยงไปจนได้ว่า 
ถ้านักเตะไม่ดี แล้วทำไมไม่ซื้อตัวดีๆมาล่ะ? บาร์ซ่ารวยยิ่งกว่าใครไม่ใช่หรือ เช่นกัน กับเรื่องกีเก้ เซเตียน ก็มีคำถามว่า อ้าว ถ้ารู้ว่าเซเตียนไร้ประสบการณ์แล้วจะเซ็นมาทำไมแต่แรก ทำไมไม่หาโค้ชระดับท็อปไปเลย 
นักเตะและโค้ชคุณภาพไม่ถึง จุดเริ่มต้นของปัญหาก็คือผู้บริหารไม่ใช่หรือ ดังนั้นการโทษแค่นักเตะกับโค้ช มันออกจะไม่แฟร์นัก
ย้อนกลับไปเดือนมกราคม 2014 ซานโดร โรเซลล์ ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากต้องไปสู้คดี ที่ซื้อเนย์มาร์จากซานโตส โดยใช้เงินทุนผิดกฎหมาย 
นั่นทำให้โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ที่เป็นรองประธาน ขึ้นมาเป็นประธานสโมสรเฉพาะกิจแทน ก่อนการเลือกตั้งประธานสโมสรวาระใหม่ จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2015
เป็นโชคดีของบาร์โตเมว ที่บาร์เซโลน่าในชุดหลุยส์ เอ็นริเก้ มีความแข็งแกร่งมาก ซีซั่น 2014-15 บาร์ซ่ายุค MSN คว้าแชมป์ทุกรายการ รวมถึงแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย นั่นทำให้การเลือกตั้งประธานสโมสรในเดือนกรกฎาคม เหล่า Socio หรือสมาชิกที่มีสิทธิออกเสียง เทคะแนนให้บาร์โตเมวเป็นอันดับหนึ่ง เอาชนะโจน ลาปอร์ต้าได้สำเร็จ
สมาชิกที่โหวตมองว่า ทีมประสบความสำเร็จสูงสุดขนาดนั้น มันคงไม่เวิร์กนัก ถ้าจะเปลี่ยนประธานสโมสรตอนนี้ ดังนั้นบาร์โตเมว จึงได้เป็นประธานต่อไป จนครบวาระในปี 2021
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ได้ตำแหน่งมา บาร์โตเมว สร้างความผิดพลาดหลายสิ่งให้เกิดขึ้น 
ตัวอย่างเช่น ในช่วงซัมเมอร์ 2014 โทนี่ โครส ต้องการย้ายไปบาร์เซโลน่า และบาเยิร์นก็พร้อมปล่อยในราคา 25 ล้านยูโร แต่บาร์โตเมวปฏิเสธ ทำให้โครสย้ายไปเรอัล มาดริดแทนหลังจบบอลโลก
ในตอนนั้นแฟนบอลก็เข้าใจแหละว่ามี ชาบี, อิเนียสต้า, บุสเกตต์, ราฟินญ่า และราคิติชอยู่ ก็อาจไม่จำเป็นต้องมีโครส แต่อีกมุมก็น่าคิดนะว่าแล้วไม่ห่วงเลยหรอว่าอนาคตเดี๋ยวชาบี กับอิเนียสต้าก็จะรีไทร์แล้ว ทำไมไม่เตรียมตัวหากองกลางเกรดเอ อย่างโทนี่ โครสเก็บไว้ 
ปี 2016 บาร์โตเมวตัดสินใจปล่อยดานี่ อัลเวสแบบไม่มีค่าตัว ทั้งๆที่อัลเวส ยังเล่นในระดับสูงได้สบายๆ สุดท้ายเขาย้ายไปยูเวนตุส และเปแอสเช ก่อนคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้กับทั้งสองสโมสร
ปี 2017 บาร์โตเมว ไปยั่วเปแอสเช ด้วยการบอกว่าต้องการมาร์โก แวร์รัตติ และตัวนักเตะก็อยากย้ายมาด้วย ซึ่งในเชิงธุรกิจ คุณควรที่จะเจรจากับต้นสังกัดก่อน ไม่ใช่ให้ประธานสโมสรออกมาปล่อยข่าวแบบนี้ ซึ่งพอบาร์โตเมวพูดแบบนั้น นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสรเปแอสเช นอกจากจะไม่ขายแวร์รัตติแล้ว ยังจ่ายเงินซื้อเนย์มาร์ จากอ้อมอกบาร์ซ่ามันซะเลย 
ในดีลของเนย์มาร์นั้นน่าสนใจ เพราะเนย์มาร์มีค่าฉีกสัญญา 222 ล้านยูโร ซึ่งถามว่าเยอะไหม ก็เยอะ แต่ยังอยู่ในขอบข่ายที่ทีมใหญ่สามารถจ่ายได้ บาร์โตเมวไม่ได้ฉุกคิดเลย ว่าควรจะเพิ่มค่าฉีกสัญญาให้สูงขึ้นกว่านี้ รู้ตัวอีกทีก็โดน ปารีสแย่งเนย์มาร์ไปดื้อๆแล้ว
ตอนยังมีเนย์มาร์ บาร์เซโลน่าจะดีจะร้ายก็มี MSN สามารถถล่มคู่แข่งได้ทุกทีม แต่พอไม่มีเนย์มาร์ มันก็เหมือนขาดสุดยอดตัวรุกไปหนึ่งคน 
ด้วยความที่เสียเนย์มาร์อย่างกะทันหัน บาร์โตเมว ยังเสียเหลี่ยมในตลาดซื้อขาย ด้วยการไปซื้ออุสมาน เดมเบเล่ จากดอร์ทมุนด์ ในราคาถึง 105 ล้านยูโร แบบ Panic Buy คือซื้ออย่างร้อนรนรีบหาตัวแทน ทั้งๆที่ถ้ามองตามจริง เดมเบเล่ ไม่มีทางราคาขนาดนั้นแน่ๆ คือกลายเป็นหมูให้ดอร์ทมุนด์เชือดนิ่มๆเลย
นอกจากนั้นตั้งแต่ยุคโรเซลล์แล้ว บาร์โตเมวเป็นตัวตั้งตัวตีซื้อนักเตะหลายคน เช่น อเล็กซ์ ซง, ดักกลาส, อาร์ด้า ตูราน, อเล็กซ์ วีดัล, อันเดร โกเมส และ โทมัส แฟร์มาเล่น ทั้งหมดนี้จ่ายเงินไปรวม 130 ล้านยูโร ซึ่งรวมกันทั้งหมดลงเล่นนับเกมได้เลย
ไม่ใช่แค่การซื้อขายที่พลาดบ่อยมากๆ แต่บาร์โตเมวมีพลังน้อยมาก ในการเก็บนักเตะจากอคาเดมี่ไว้กับทีมต่อไป อย่างเช่นทาเคฟุสะ คุโบะ โตมากับลา มาเซีย แล้วพลาดปล่อยให้เรอัล มาดริด เซ็นสัญญาได้ยังไง
ชาบี ซิมม่อนส์ ดาวรุ่งที่อนาคตไกลมากย้ายไปเปแอสเช เช่นเดียวกับเอริค การ์เซีย อยู่กับลา มาเซียมา 10 ปี สุดท้ายโดนแมนฯซิตี้ตัดหน้าเซ็นสัญญาอาชีพเฉยเลย แล้วสุดท้ายส่อแววจะเสียเงินโดยใช่เหตุด้วยการเซ็นกลับมาเล่นให้บาร์ซ่าชุดใหญ่ในซีซั่นหน้า คือนักเตะของตัวเองแท้ๆ กลับรั้งไม่ได้ 
ความผิดพลาดในแง่การซื้อขายเกิดขึ้นบ่อยจนเกินไป ยังไม่นับตัวที่จ่ายเงินมหาศาลซื้อมาแล้วไม่เข้าเป้าอีกหลายคน เช่นคูตินโญ่ จ่ายเงิน 120 ล้านยูโร สุดท้ายปล่อยให้บาเยิร์น มิวนิคยืมตัว
หรืออ็องตวน กรีซมันน์ จ่ายไป 120 ล้านยูโรเท่ากัน แต่ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างใดๆให้บาร์เซโลน่ามากนัก 
ในเกมที่แพ้บาเยิร์น 8-2 สามนักเตะราคา 100 ล้านยูโร ไม่มีใครได้ลงเป็นตัวจริงเลย กรีซมันน์ลงสำรองในครึ่งหลังแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนเดมเบเล่ ไม่ได้เล่นตลอด 90 นาที ขณะที่คูตินโญ่ลงมาครึ่งหลังให้บาเยิร์น ยิงใส่บาร์ซ่าได้สองลูก ซื้อมาเอง แต่โดนยิงตัวเอง ก็แปลกดีเหมือนกัน
สำหรับในซีซั่นหน้า บาร์เซโลน่าเดินเกมในตลาดซื้อขายแล้ว ด้วยการปล่อยอาตูร์ เมโล่ แลกกับมิราเล็ม ปานิช ซึ่งก็แน่นอน โดนแฟนๆด่ายับว่าเอากองกลางอนาคตของทีมไปแลกกับตัวเก๋าที่โรยราแล้ว ถามจริงว่ามันคุ้มกันหรือนั่น
----------------------------
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่