เราเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในวัยทำงานแต่ต้องการออกเดินทางนิดหน่อย แต่ก็ไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบแย่งเที่ยว ไม่ชอบรถติด และหลังจากเที่ยวแล้วก็อยากกลับมาพักผ่อนที่บ้านสักวันสองวัน จะได้ตื่นสายๆ ซักผ้าซักผ่อน (โรคคนแก่ 55) แพลนเที่ยวของเราก็เลยเกิดขึ้นแบบรีบๆ งงๆ หน่อยๆ แบบอยากไปวันธรรมดา แต่วันธรรมดา ช่วงกลางคืนก็ไม่ค่อยมีตลาดรึถนนคนเดินให้เดินเล่น แต่พอดี๊เปิดกูเกิ้ลเห็นตลาดโต้รุ่งหัวหิน เป็นตลาดนัดกลางคืนซึ่งเปิดทุกวัน และบวกกับไม่อยากออกเดินทางตอนเช้าที่ต้องฝ่าถนนมรณะในช่วงเวลาคับขันของชาวกรุงเทพฯ ทั้งหลาย เลยเลือกเก็บกระเป๋า หาพวก 1 คน กับรถยนต์ 1 คัน และออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หัวหินในตอนเย็นวันพุธกันเลยจ้า 

เราออกเดินทางเย็นวันพุธ จาก กทม. ไปหัวหินประมาณ 3-4 ชม. รถก็ไม่ได้ติดเท่าไรแม้จะผ่านถนนเส้นพระราม 2 (แต่ขาเข้า กทม.นี้ติดหนึบ) ประมาณ 20.30 น. ก็ถึงตลาดโต้รุ่งหัวหินละจ้า ที่นี้เราก็ไม่รู้ชาวบ้านเค้าจอดรถกันที่ไหน ก็เลยจอดข้างทาง (ตามชาวบ้าน) ตลาดนัดที่นี้ก็คล้ายๆ เยาวราชนะ ไม่ได้ยาวมากเท่าไหร่ มีของกิน street food เสื้อผ้า งาน handmade และที่สำคัญมีฝรั่ง 555 แต่เรามาวันธรรมดาเลยไม่ค่อยคึกคักเท่าไร แต่ช่วงเสาร์-อาทิตย์น่าจะคึกคักอยู่จ้า (จะบอกว่าเราแวะซื้อซี่โครงหมูกับข้าวเหนียว น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มอร่อยมว๊ากกกก เป็นร้านข้างๆ ร้านขายชากุหลาบ แต่พอดีรีบกิน เลยลืมถ่าย อิอิ)

จากนั้นเราก็หาที่พัก โดยเลือกพักที่ Stone Head ราคา 700 บาท ไม่มีอาหารเช้า แต่สภาพสะอาดอยู่ แนวกึ่งๆ ลอฟ 

เช้านี้ว่าจะไปหาร้านอาหารแห่งหนึ่งตามรีวิว แต่พอดีร้านยังตั้งไม่เสร็จ ผ่าม!! ก็เลยตัดสินใจขับรถออกไปตามเส้นทางประจวบ ค่อยๆ หาร้านข้าวข้างทางกิน แต่ก็เลยร้านตลอด เพราะอยู่เลนขวา 555 อยู่ดีๆ ก็ปวดห้องน้ำขึ้นมากะทันหัน และสายตาก็เห็นป้ายอุทยานราชภักดิ์ ตัดสินใจเลี้ยวเลยจ้าาา จะได้เข้าห้องน้ำและแวะถ่ายรูปหน่อย

หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ ฝั่งตรงข้ามอุทยานราชภักดิ์ เป็นสวนสนประดิพัทธ์ ก็เลยกะแวะถ่ายรูปนิดๆ หน่อยๆ พอมาถึงก็เจอร้านอาหารพอดีจ้า เย้ๆ จะได้ถ่ายรูป และหาข้าวกินด้วย (หิวแล้ว) ที่นี้มีร้านอาหารชื่อ ทิวสน เปิดตั้งแต่ 7.00-22.00 น. เลยจ้า เช้านี้ก็เลยจัดชุดอาหารเช้า ขนมปัง ไข่ดาว แฮม ข้าวต้ม น้ำส้ม ชุดละ 200 กว่าบาท ทานเสร็จก็แชะที่สวนสนฯ กันต่อจ้า

จากนั้นขับรถไปประมาณ 10 นาที ก็ถึงวนอุทยานปราณบุรี ที่นี้ก็อย่าลืมผ่านจุดคัดกรองและ Check In ใส่แมส กันด้วยนะจ้า

แล้วก็ขับรถต่อไปอีกประมาณ 40 นาที ก็ถึงศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัวกันจ้า ที่นี้เสียค่าเข้าอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด คนละ 40 บาท แต่เสียทีเดียวเที่ยวได้ทั้งอุทยานฯ กันเลยจ้า (แต่ต้องวัน/วันนะ) อย่าลืมจองคิวผ่านแอพ QueQ ตามมาตราการการป้องกันโรคโควิด-19 จ้า

จากนั้นก็หิวละจ้า ขับรถไปประมาณ 30 นาที ก็ถึงร้านแหลมทองซีฟู้ด ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวเขาแดง (ขอกินก่อนละค่อยขึ้น) สุ่มๆ สั่ง ทะเลผัดฉ่า แกงส้ม ซดน้ำทีฟื้นอะ (เข้มข้นมากกก) สั่งไป 3 อย่าง ข้าว น้ำ ก็ประมาณ 300-400 บาท ติดใจร้านนี้มากจ้า

เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมขึ้นเขาละจ้า ขับรถย้อนจากที่ร้านมานิดหน่อย ก็ถึงจุดชมวิวเขาแดงแบบเห็นทะเล เห็นวิว 360 องศา นอกจากนี้ถ้าใครสนใจอยากนั่งเรือชมวิวก็มีบริการด้วยนะจ้ะ แต่ต้องขับรถไปอีกหน่อยนึง (ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านแหลมทองเลยจ้า) ทางเดินเป็นหินปูนค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เดินขึ้นอย่างเดียว แนะนำผ้าใบจ้า เมื่อยหน้าขามาก ณ จุดนี้ 

หลังจากลงเขามาแล้ว ก็แวะหาดสามพระยา 

และก็จะแวะถ้ำแก้ว แต่พอดีฝนตก และหมดเวลาขึ้นพอดี (อุทยานจะปิดไม่ให้ขึ้น เวลา 15.30 น.) ก็เลยต้องแห้วกลับไป แต่ก็ทำให้เรามีเวลาหาที่พัก โดยเลือกที่พักแถวหาดสามร้อยยอด เพื่อที่เช้าจะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก และจะได้เดินขึ้นถ้ำพระยานคร (แต่ถ้าใครต้องการกางเต็นท์ก็สามารถกางได้ที่หาดสามพระยาจ้า) เราได้ที่พักชื่อ โรงแรมบ้านจีน อยู่หน้าหาดสามร้อยยอด ราคาประมาณ 1,3xx บาท รวมอาหารเช้า เรามาพักวันธรรมดาก็เลยเงียบดีมากกก ได้ที่พักชั้น 2 จะเห็นวิวทะเลนิดหน่อย มีสระว่ายน้ำให้โดดด้วยจ้า 

จากนั้นก็ออกมาหาอะไรทานมื้อเย็น แต่ด้วยความที่วันธรรมดา ก็จะหายากหน่อย 55 ขับรถออกมาจากที่พักประมาณ 10 นาที ก็มาเจอร้านครัวคุณน้อย ติดทะเลเลย สั่งยำไปอร่อยมากกก (อีกละ) หมดไปประมาณ 600 กว่าบาท (กินๆ อิ่มๆ ไม่รู้กินข้าวหรือกินลม 555) จากนั้นก็เข้าที่พักขอนอนเก็บแรงต่อจ้า

*** ต่อวันที่ 2 (กำลังลงจ้า) ***