เราไปหาหมอที่โรงพยาบาลสายไหมเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ด้วยอาการมีเม็ดตุ่มคันที่หลัง ตรงสะโพก หมอวินิจฉัยว่าเป็นฝี โดยที่ไม่แตะต้องร่างกายดิฉันเลย คุณหมอดูแบบ หยิ่งหยิ่ง ไม่สัมผัสเนื้อตัวคนไข้ ไม่ตรวจดูแผล ใช้แค่สายตามอง และคุณหมอได้ให้ไปทำแผล พอไปพบพยาบาลพยาบาลบอกว่าไม่ใช่ผีค่ะนี่คือเริมพี่ต้องไปหาซื้อยามาทาและก็กินยาแล้วมันจะหาย รอบแรกผ่านไป มาอีกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ต่อมน้ำเหลืองตรงคอขวาด้านหลังบวมไล่ลงมาจากใต้ใบหูลงมาถึงกระดูกไหปลาร้า ก็เลยไปหาหมออีกครั้งโดยการใช้ประกันสังคมเช่นเดิม ปรากฏว่าเจอคุณหมอท่านเดิมค่ะ และนางก็ดูดิฉันแล้วก็บอกว่า ผิวหนังอักเสบ ดิฉันก็เลยท้าวความไปเรื่องฝีให้นางฟังนางถึงกับอึ้งและนางก็เลยใช้มือที่สะอาดสะอ้านของนางอ่ะ มาแตะดูตรงที่คอและดิฉันก็บอกว่ามันเจ็บ นางก็เลยบอกว่ามีแค่ 2 กรณีคือเป็นมะเร็งกับ ต่อมน้ำเหลืองติดเชื้อ ให้แพทย์หูตาคอจมูกตรวจแล้วกันแล้วก็ส่งดิฉันลงมาที่อายุรกรรม พอเจอหมออายุรกรรมเหมือนหงุดหงิดมาจากไหนก็ไม่รู้ มองดูแล้วก็บอกว่าเนี่ยฟันผุหรือเปล่า แล้วบอกให้เราอ้าปาก แล้วก็บอกว่านั่นไง ฟันผุ ไปหาหมอฟันเลยทำฟันก่อนเลย ดิฉันพยายามจะบอกว่าดิฉันเจ็บต่อมน้ำเหลือง แต่นางไม่ฟังค่ะ นางไล่ดิฉันขึ้นไปหาหมอฟัน และพอหมอฟันปวดฟันดิฉันหมอฟันก็บอกว่าเหงือกก็ไม่อักเสบฟันก็ไม่อักเสบอะไรได้ๆไม่เกี่ยวกันน่าจะเป็นเหมือนหมอคนแรกพูดไม่ตอบน้ำเหลืองอักเสบติดเชื้อก็เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แล้วก็ส่งดิฉันลงไป แล้วดิฉันก็นั่งเหวอ จนต้องเดินไปถามพยาบาลพยาบาลบอกว่าให้ไปรับยาได้เลย แล้วได้ยาฆ่าเชื้อกับยาพารามาค่ะ พร้อมกับจ่ายตังค์ค่าตรวจฟัน 500 บาท เป็นความทรงจำที่แย่มาก สำหรับโรงพยาบาลสายไหม ดิฉันคิดว่าพอกันทีกับการที่ดิฉันรักษาที่โรงพยาบาลสายไหมมาเป็น 10 ปี หมอชุดเก่าๆดีผู้บริหารชุดเก่าน่าจะดี พอมาตอนนี้น่าจะเป็นชุดใหม่ แย่สุดๆ
ใครเคยมีประสบการณ์แย่ๆที่โรงพยาบาลสายไหมมั่ง