เราไปหาดูใน google บาง บ. บอกว่า บ.ประกัน ต้องจ่ายคู่กรณีไปก่อน แล้วไปเรียกคืนจากผู้ขับที่เป็นผู้เมาแล้วขับดั่ง บ. ที่ 1 

บ.ที่ 1  AXA 
(อันนี้ไม่ไม่แน่ใจเพราะอ่านแล้วตีความไม่ชัด เท่าที่อ่านคือ บ.ประกันของคนเมาต้องจ่าย  แต่อีกความหมายหนึ่งคืออาจจะ บ.ประกันของผู้ถูกชนเป็นผู้จ่ายให้ลุกค้าของตนเองไปก่อน แล้วไปเรียกเก็บจากคู่กรณี ) 
 
เนื้อหาในเว็ป AXA 

"คำถามแรกเลย คือ “เมาแล้วขับไปชนรถคันอื่น ประกันจ่ายหรือไม่ ?”
ตอบง่าย ๆ เลยว่า ประกันต้อง “จ่าย” ครับ แต่จ่ายให้รถคันที่ถูกชนนะครับ ส่วนคนขับที่เมาแล้วชนนั้น บริษัทประกันอาจจะเรียกเงินที่จ่ายไปนั้นคืนกลับมาได้ครับ
ซึ่งหลักเกณฑ์ว่าบริษัทประกันจะเรียกคืนจากคนเมาที่ขับชนหรือไม่นั้น ต้องดูว่าคนเมานั้น มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือไม่ ถ้าเกินก็บริษัทก็จะเรียกคืนจากคนขับครับ
แต่เกณฑ์นี้จะแตกต่างจาก กฎหมายเมาแล้วขับนะครับ เพราะกฎหมายจราจรบอกว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าผิดแล้วครับ แต่ทางที่ดีผมแนะนำว่า “ดื่มไม่ขับ” ดีที่สุดครับ เพราะไม่ผิดกฎหมายและปลอดภัยต่อตัวเราและคนอื่นด้วย"

 
บาง บ. บอกว่าไม่จ่ายเลยถ้าเมาแล้วขับ  ข้อมูลจาก https://www.ancbroker.com (อันนี้ปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า บ. อื่นๆ )

เนื้อหาในเว็ปของ ancbroker.com 

เมาแล้วขับ ชนเมื่อไหร่กรมธรรม์ไม่จ่ายครับ.. 
  กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ หมวดความคุ้มครองการรับผิดต่อบุคคลภายนอก และหมวดความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ เกี่ยวกับการยกเว้นทั่วไป ระบุว่า
    หากบุคคลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป แล้วมาขับขี่รถยนต์คันที่เอาประกันภัยจากนั้นได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอกพร้อมกับความเสียหายที่ได้เกิดกับบุคคลภายนอกนั้นก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง

คือมันไม่ตรงกันไปหมด  เลยอยากได้ข้อเท็จจริงจากบ.ประกันต่างๆ หรือ ผู้ที่รู้จริงด้านนี้ รบกวนด้วยจ้า