ว่าจะพูดเรื่องการไม่อ่านสัญญาและทำความเข้าใจเงื่อนไขดอกเบี้ย แต่คุณแพมก็เหมือนจะยอมรับแล้ว งั้นผ่านไป

สรุปว่า เป็นบทเรียนของคุณแพมเอง ว่าจะไม่กู้ Kbank และ ธอส. อันนี้เป็นสิทธิของคุณเลย คุณมาถูกทางแล้วครับ ลูกค้าเป็นผู้เลือก

คุณแพมก็ได้แนะนำ ธนาคารที่น่าสนใจ คือ SCB ด้วยเหตุผลหลักคือ เขาอนุมัติ ในเวลาที่สถาบันการเงินอื่นปฏิเสธ

ดอกก็ไม่ถูกหรอก แต่รับได้ เออ... จะว่าไป Kbank เขาก็ให้กู้ แต่ดอกแพง(เมื่อเทียบกับแบงค์อื่น .. ?) เกินจะรับ นี่เอง คุณแพมเลยต้องบาย ?

กับ ออมสิน อันนี้ดอกถูกจริง ไรจริง แต่การบริการ อาจสู้ธนาคารอื่นไม่ได้ ... ก็จ่ายแพงกว่า ควรจะได้รับบริการดีกว่า แต่จะคุ้มที่จ่ายหรือไม่ แต่ละท่านต้องตัดสินใจเอาเองละ

จึงนำมาสู่คำตอบ ของคำถามหัวข้อกระทู้ที่ว่า ทำไงดีครับ ว่า

ในเมื่อคุณแพมไม่พอใจกับ Kbank แล้วตอนนี้ก็หมดช่วงโปรดอกถูกไปละ ทั้งมีอีกตั้งอย่างน้อยสองแบงค์ที่คุณแพมเองก็พอใจจะใช้บริการ

งั้น refinance กันไปเลย น่าจะได้โปรดอกถูกรอบใหม่อีกตะหาก จึงเป็นคำตอบที่ work สุด

แต่ที่บอกว่า ให้กำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัญญาตายตัวไปเลยว่า กี่ % ผมคิดว่า ไม่น่ามีนะครับรวมทั้ง 2 แบงค์ที่ว่า

เพราะอายุการกู้มันยาว เป็นความเสี่ยง ทั้งผู้กู้ และผู้ให้กู้ เรื่องความผันผวนอัตราดอกเบี้ย เลยต้องหาจุดอ้างอิงที่เป็นกลาง ในที่นี้คือ MRR

หรือท่านใด เคยเจอสัญญากู้บ้าน ที่ระบุอัตราดอกเบี้ย "ตายตัว " ไม่อ้างกับมาตรฐานใด ๆ ตลอดอายุสัญญา ช่วยแชร์ด้วยนะครับ

สุดท้ายคือ " ดูเอกสารทุกหน้าที่เราเซ็นต์ ไม่ต้องรีบเด็ดขาด ถึงแม้เซลล์จะรีบไปไหน หรือพูดจาดีขนาดไหน ดูเป็นผู้ใหญ่น่าเชื่อถือขนาดไหน อย่าไปหลงเชื่อที่เขาพูด  หลังต่อไป ซื้อสด ไม่กู้   "

ถูกต้องที่สุดเลยครับ ผมขอยืนยันว่า การอ่านและทำความเข้าใจสัญญาเงินกู้ เป็นสิทธิของผู้กู้

ไม่ให้อ่าน หรือเห็นว่าสัญญาไม่เป็นธรรม งั้นไม่กู้ก็ได้

และที่ถูกใจผมมากคือ " ซื้อสด ไม่กู้ " ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ จริงแท้แน่นอนครับ