วันนี้ผมขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับร้านขายหนังสือเด็ก BOOKSBERRY สวรรค์แห่งจินตนาการสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน เป็นอาหารสมองในวัยเยาว์สำหรับลุกหลานที่จะเติบโตในอนาคต พูดคุยและร่วมรับรู้เกี่ยวกับมหัศจรรย์แห่งการอ่านหนังสือนิทาน , นิยายภาพ ฯลฯ
โดยคุณโสภณา เตริยาภิรมย์ หรือคุณมิ้น เจ้าของร้านหนังสือเด็กที่น่ารักแห่งนี้
คุณโสภณา เตริยาภิรมย์ หรือคุณมิ้น
(สำหรับรายละเอียดในส่วนนี้ผมเรียบเรียงมาจากการสัมภาษณ์คุณมิ้น คุณโสภณา เตริยาภิรมย์ เจ้าของร้านหนังสือ BOOKSBERRY)
-ที่มาของชื่อร้านมาจากลูกชายมีแก้มแดง ๆ เหมือนลูกเชอรี่ แล้วทางร้านเป็นร้านขายหนังสือก็เลยกลายเป็น BOOKSBERRY คุณมิ้นออกแบบโลโก้เองที่เป็นภาพกราฟฟิคง่าย ๆ ที่ดูเป็นรูปผลเชอรี่ ปัจจุบันนี้ร้านเปิดมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยเปิดร้านเมื่อลูกชายคนโตอายุสัก 2 ขวบเริ่มขายออนไลน์เพียงอย่างเดียวก่อน หลังจากนั้นคุณมิ้นจึงมาเปิดหน้าร้านที่แห่งนี้ได้ประมาณ 2 ปี
-คุณมิ้นเจ้าของร้านอ่านหนังสือที่นำเข้ามาขายเกือบทุกเล่ม เพื่อดูว่าหนังสือเล่มนั้น ๆ เป็นอย่างไร? เนื้อหาเหมาะสมกับเด็กในวัยไหน? รวมทั้งต้องคอยอ่านรีวิวหนังสือเด็กโดยนักวิชาการการศึกษาต่าง ๆ เป็นประจำด้วย
-ตัวคุณมิ้นเคยเป็นสถาปนิกมาก่อน ก่อนจะผันตัวจากการเป็นสถาปนิกมาทำกิจการเป็นของตัวเอง ด้วยความที่ตัวคุณมิ้นเป็นคนชอบหนังสือ ชอบอ่านหนังสือ และประจวบเหมาะกับช่วงโอกาสหลายๆ อย่าง อีกทั้งคุณมิ้นเคยทำงานเขียนมาก่อนด้วย เคยเป็น บ.ก. นิตยสารมาก่อน คิดว่าการเขียนน่าจะถูกโฉลกกับตัวคุณมิ้นเอง จึงคิดว่าเปิดร้านขายหนังสือน่าจะดีกว่า จึงทำให้เปิดร้าน BOOKSBERRY แห่งนี้ขึ้นมาได้
-ส่วนสาเหตุที่เปิดร้านขายหนังสือเด็กก็เพราะคิดว่า ในตอนนั้น (เมื่อ 10 ปีที่แล้ว) ตลาดหนังสือเด็กภาษาอังกฤษในบ้านเรายังมีไม่ค่อยเยอะ ตัวคุณมิ้นเองอยากอ่านก็ยังหาไม่ได้ ไปที่ร้านขายหนังสือก็ไม่มีวางขายเลย คือคุณมิ้นมีรายการหนังสือเด็กที่เด็กควรจะอ่าน แต่ว่าหาซื้อหนังสือเหล่านั้นไม่ได้เลย จึงคิดว่าเปิดร้านขายหนังสือเด็กเองเลยดีกว่า จะได้เป็นผู้คัดสรรหนังสือเด็กภาษาอังกฤษที่ดี ๆ มาขายในบ้านเราด้วย จนมาถึงวันนี้คุณมิ้นคิดว่าร้าน BOOKSBERRY นี้มีส่วนผลักดันให้เด็ก ๆ ในบ้านเราได้อ่านหนังสือที่ดี และทำให้ผู้ปกครองเปิดใจให้กับหนังสือเด็กเล่มใหม่ ๆ ด้วย
คลิปวีดีโอแนะนำร้านหนังสืออิสระ BOOKSBERRY
BOOKSBERRY เป็นผู้คัดสรรหนังสือดีให้ยังคงมีอยู่บนชั้นหนังสือ
-คือคุณมิ้นไม่อยากให้หนังสือดีในกระแสเล่มไหนหลุดจากร้านขายหนังสือในบ้านเรา เมื่อ 10 ปีที่แล้วคนอาจจะอ่านหนังสือในสไตล์หนึ่ง แต่ทุกวันนี้อาจจะเปลี่ยนสไตล์การอ่านไปแล้วก็ได้ เมื่อก่อนหนังสือจำเป็นต้องมีรางวัลติดบนหน้าปกหนังสือคนถึงจะอ่าน แต่ทุกวันนี้อาจจะกลายเป็นว่าปกหนังสือภาพต้องสวย ต้องน่ารักสะดุดตาคนถึงจะอ่าน เมื่อกระแสการอ่านเปลี่ยนแปลงไปก็อาจจะมีการตกหล่นหลงลืมหนังสือดีที่มีคุณค่าไปบ้าง ร้าน BOOKSBERRY จึงพยายามเก็บตกหนังสือดีเหล่านั้นให้ยังมีขายอยู่ในร้าน คือหนังสือที่อยู่ในกระแสก็ต้องขาย ส่วนหนังสือที่ดีก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาได้วางอยู่บนชั้นหนังสือด้วย
-ในร้านมีเครื่องดื่มและขนมคบเคี้ยวให้บริการ คุณมิ้นบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเปิดเป็นร้านกาแฟ เพียงแค่มีเครื่องดื่มและของว่างไว้ให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งมาที่ร้านเท่านั้น เพราะทางร้านอยู่ได้ด้วยยอดขายหนังสือมาตลอด ส่วนกาแฟและอาหารของว่างยอดขายแค่เล็กน้อยเอง แต่การที่มีกาแฟหรือเครื่องดื่มแล้วทำให้มีคนเข้ามาที่หน้าร้านมากขึ้น เหมือนลูกค้าสะดวกที่จะนั่งได้นานขึ้นโดยไม่ต้องคิดว่าจะออกไปกินข้าวที่อื่น กินรองท้องที่ร้านได้เลย ตอนนี้ที่ร้าน BOOKSBERRY นอกจากกาแฟแล้วยังมีไอศกรีม มีขนมของทานเล่น และมีน้ำผลไม้ ให้บริการด้วย
-สำหรับยอดขายของทางร้านส่วนใหญ่มาจากการขายทางออนไลน์มากกว่า เพิ่งจะมีช่วงหลังนี้ที่เริ่มมียอดขายจากทางหน้าร้านมากขึ้น ลูกค้าที่อยากจะสั่งซื้อหนังสือทางออนไลน์สามารถสั่งซื้อได้ที่แฟนเพจของร้าน BOOKSBERRY ได้ที่
https://www.facebook.com/Booksberryshop/
-วิธีการขายหนังสือออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กของคุณมิ้นมีวิธีการดังนี้ 1.สินค้าต้องมีความหลากหลาย ถ้าใครขายสินค้าประเภทเดียวคนซื้อจะรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก ดังนั้นคุณมิ้นเวลาลงสินค้าขายในเฟซบุ๊กก็จะลงให้เยอะ ให้ภาพรวมดูว่ามีหนังสือขายเยอะ มีทั้งหนังสือเด็กเล็ก เด็กโต มีทั้งนิทานภาพ ทั้งนวนิยายภาพ ทั้งวรรณกรรมเยาวชน ลงขายให้มีหนังสือทุกแนว 2.ต้องมีการรีวิวสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก โดยคุณมิ้นจะรีวิวแบบตรง ๆ โดยไม่ได้เชียร์หนังสือให้มันโอเว่อร์เกินกว่าที่หนังสือมันเป็น เพราะถ้าลูกค้าซื้อหนังสือเล่มนั้นไปอ่านแล้วมันตรงกับที่เราเขียนรีวิวไว้ ก็จะทำให้ลูกค้าก็จะเชื่อถือในการรีวิวของเรา
-เอกลักษณ์ของร้านหนังสือ BOOKSBERRY คือเป็นร้านหนังสือเด็กที่เลือกหนังสือให้เด็กแล้วเด็กชอบ โดยส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะพาบุตรหลานมาด้วยโจทย์ที่ว่า เด็กอายุเท่านี้ ชอบอ่านหนังสืออะไร ไม่ชอบอ่านอะไร อยากจะให้เด็กอ่านหนังสืออะไรได้บ้าง? แล้วให้ทางร้านช่วยเลือกหนังสือให้ ถือว่าเป็นความน่าเชื่อถือของร้าน BOOKSBERRY ที่ผู้ปกครองมักจะมอบความไว้วางใจให้เสมอ เพราะการเลือกหนังสือให้เด็กได้นั้น ทางร้านขายหนังสือควรจะต้องอ่านหนังสือเด็กเล่มนั้น ๆ ก่อนด้วย
-ราคาขายหนังสือทุกเล่มในร้าน BOOKSBERRY จะขายตามราคาปกเลย มีน้อยมากที่จะลดราคาอาจจะเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นที่จะลดราคาให้ (3-4 วันเท่านั้น) โดยใช้วิธีซื้อ 5 เล่มแถมให้ 1 เล่ม หรือซื้อ 6 เล่มแถมให้ 1 เล่มเลือกเองได้เลย ฯลฯ หรือใช้วิธีการพรีออเดอร์หนังสือในราคาพิเศษ หรือในกรณีที่ทางร้านจำเป็นต้องลดราคาขายเพราะทางสำนักพิมพ์เป็นผู้ลดราคาขายเอง
-สินค้าที่ไม่ใช่หนังสือจะเป็นพวกสื่อการเรียนรู้ (ของเล่นเด็กเล็ก) ที่ส่วนใหญ่มาจากกระดาษ เช่น เกมปริศนา คำศัพท์ การ์ด จิ๊กซอร์ ของเล่นกระดาษต่าง ๆ สื่อการสอนเด็กอ่านโน้ตเพลง ฯลฯ สำหรับสินค้าพวกนี้เอาไว้รองรับลูกค้าที่อยากจะซื้อของขวัญให้แก่เด็กแต่ไม่อยากซื้อหนังสือให้
-ที่ร้าน BOOKSBERRY มีสนามหญ้าโล่งกลางแจ้งด้านหน้า ให้เด็ก ๆ มาวิ่งเล่นได้ แต่สิ่งที่ทำให้เด็กเล็กมีความสุขเวลาที่มาที่ร้าน BOOKSBERRY ก็คือ ในเวลาที่มีหลายครอบครัวมาที่ร้านพร้อม ๆ กัน เด็ก ๆ เขาจะได้เล่นกัน โดยให้พ่อแม่ของแต่ละครอบครัวมักอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ ฟัง รวมทั้งลูกชายคนเล็กของคุณมิ้นเองก็ชอบที่จะเรียกให้ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้ฟัง ต้องถือว่าเป็นการเสริมสร้างทักษะการเข้าสังคมให้แก่เด็ก ๆ ด้วย ส่วนตัวผู้ใหญ่ที่ได้อ่านหนังสือให้เด็กฟังก็จะได้รับความสุขจากความน่ารักและความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ ติดตัวกลับบ้านไปด้วยเช่นกัน
-สำหรับร้านหนังสืออิสระ BOOKSBERRY ตั้งอยู่เขตดุสิต ในซอยสันทัด ถนนเศรษฐศิริ ไม่ไกลจากถนนพระราม 5 (มณฑลทหารบก 11 ) และไม่ไกลจากสถานีรถไฟสามเสน หน้าร้านจอดรถได้ 2 คัน ร้านเปิดทำการทุกวันจันทร์ถึงศุกร์เวลา 10.00 – 18.00 น. , วันเสาร์เปิด 7.00 – 18.00 น. ส่วนวันอาทิตย์เปิดครึ่งวัน 7.00 – 12.00 น.
-ใครที่อยากให้บุตรหลานของท่านอ่านหนังสือ ก็ลองไปที่ร้านไปพูดคุยปรึกษากับคุณมิ้นได้ครับ แผนที่ทางไปร้าน BOOKSBERRY ตามนี้เลยครับ
https://bit.ly/3ipNWov
-ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่
https://www.facebook.com/Booksberryshop/?epa=SEARCH_BOX
ท้ายสุดนี้ผมอยากให้ทุกท่านอุดหนุนซื้อหนังสือจากร้านหนังสืออิสระ เพื่อช่วยให้ร้านหนังสืออิสระอยู่รอดครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือ และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงด้วยครับ
ร้านหนังสืออิสระ BOOKSBERRY
-คุณมิ้นเจ้าของร้านอ่านหนังสือที่นำเข้ามาขายเกือบทุกเล่ม เพื่อดูว่าหนังสือเล่มนั้น ๆ เป็นอย่างไร? เนื้อหาเหมาะสมกับเด็กในวัยไหน? รวมทั้งต้องคอยอ่านรีวิวหนังสือเด็กโดยนักวิชาการการศึกษาต่าง ๆ เป็นประจำด้วย
-ตัวคุณมิ้นเคยเป็นสถาปนิกมาก่อน ก่อนจะผันตัวจากการเป็นสถาปนิกมาทำกิจการเป็นของตัวเอง ด้วยความที่ตัวคุณมิ้นเป็นคนชอบหนังสือ ชอบอ่านหนังสือ และประจวบเหมาะกับช่วงโอกาสหลายๆ อย่าง อีกทั้งคุณมิ้นเคยทำงานเขียนมาก่อนด้วย เคยเป็น บ.ก. นิตยสารมาก่อน คิดว่าการเขียนน่าจะถูกโฉลกกับตัวคุณมิ้นเอง จึงคิดว่าเปิดร้านขายหนังสือน่าจะดีกว่า จึงทำให้เปิดร้าน BOOKSBERRY แห่งนี้ขึ้นมาได้
-ส่วนสาเหตุที่เปิดร้านขายหนังสือเด็กก็เพราะคิดว่า ในตอนนั้น (เมื่อ 10 ปีที่แล้ว) ตลาดหนังสือเด็กภาษาอังกฤษในบ้านเรายังมีไม่ค่อยเยอะ ตัวคุณมิ้นเองอยากอ่านก็ยังหาไม่ได้ ไปที่ร้านขายหนังสือก็ไม่มีวางขายเลย คือคุณมิ้นมีรายการหนังสือเด็กที่เด็กควรจะอ่าน แต่ว่าหาซื้อหนังสือเหล่านั้นไม่ได้เลย จึงคิดว่าเปิดร้านขายหนังสือเด็กเองเลยดีกว่า จะได้เป็นผู้คัดสรรหนังสือเด็กภาษาอังกฤษที่ดี ๆ มาขายในบ้านเราด้วย จนมาถึงวันนี้คุณมิ้นคิดว่าร้าน BOOKSBERRY นี้มีส่วนผลักดันให้เด็ก ๆ ในบ้านเราได้อ่านหนังสือที่ดี และทำให้ผู้ปกครองเปิดใจให้กับหนังสือเด็กเล่มใหม่ ๆ ด้วย
-คือคุณมิ้นไม่อยากให้หนังสือดีในกระแสเล่มไหนหลุดจากร้านขายหนังสือในบ้านเรา เมื่อ 10 ปีที่แล้วคนอาจจะอ่านหนังสือในสไตล์หนึ่ง แต่ทุกวันนี้อาจจะเปลี่ยนสไตล์การอ่านไปแล้วก็ได้ เมื่อก่อนหนังสือจำเป็นต้องมีรางวัลติดบนหน้าปกหนังสือคนถึงจะอ่าน แต่ทุกวันนี้อาจจะกลายเป็นว่าปกหนังสือภาพต้องสวย ต้องน่ารักสะดุดตาคนถึงจะอ่าน เมื่อกระแสการอ่านเปลี่ยนแปลงไปก็อาจจะมีการตกหล่นหลงลืมหนังสือดีที่มีคุณค่าไปบ้าง ร้าน BOOKSBERRY จึงพยายามเก็บตกหนังสือดีเหล่านั้นให้ยังมีขายอยู่ในร้าน คือหนังสือที่อยู่ในกระแสก็ต้องขาย ส่วนหนังสือที่ดีก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาได้วางอยู่บนชั้นหนังสือด้วย
-ในร้านมีเครื่องดื่มและขนมคบเคี้ยวให้บริการ คุณมิ้นบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเปิดเป็นร้านกาแฟ เพียงแค่มีเครื่องดื่มและของว่างไว้ให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งมาที่ร้านเท่านั้น เพราะทางร้านอยู่ได้ด้วยยอดขายหนังสือมาตลอด ส่วนกาแฟและอาหารของว่างยอดขายแค่เล็กน้อยเอง แต่การที่มีกาแฟหรือเครื่องดื่มแล้วทำให้มีคนเข้ามาที่หน้าร้านมากขึ้น เหมือนลูกค้าสะดวกที่จะนั่งได้นานขึ้นโดยไม่ต้องคิดว่าจะออกไปกินข้าวที่อื่น กินรองท้องที่ร้านได้เลย ตอนนี้ที่ร้าน BOOKSBERRY นอกจากกาแฟแล้วยังมีไอศกรีม มีขนมของทานเล่น และมีน้ำผลไม้ ให้บริการด้วย
-สำหรับยอดขายของทางร้านส่วนใหญ่มาจากการขายทางออนไลน์มากกว่า เพิ่งจะมีช่วงหลังนี้ที่เริ่มมียอดขายจากทางหน้าร้านมากขึ้น ลูกค้าที่อยากจะสั่งซื้อหนังสือทางออนไลน์สามารถสั่งซื้อได้ที่แฟนเพจของร้าน BOOKSBERRY ได้ที่ https://www.facebook.com/Booksberryshop/
-วิธีการขายหนังสือออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กของคุณมิ้นมีวิธีการดังนี้ 1.สินค้าต้องมีความหลากหลาย ถ้าใครขายสินค้าประเภทเดียวคนซื้อจะรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก ดังนั้นคุณมิ้นเวลาลงสินค้าขายในเฟซบุ๊กก็จะลงให้เยอะ ให้ภาพรวมดูว่ามีหนังสือขายเยอะ มีทั้งหนังสือเด็กเล็ก เด็กโต มีทั้งนิทานภาพ ทั้งนวนิยายภาพ ทั้งวรรณกรรมเยาวชน ลงขายให้มีหนังสือทุกแนว 2.ต้องมีการรีวิวสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก โดยคุณมิ้นจะรีวิวแบบตรง ๆ โดยไม่ได้เชียร์หนังสือให้มันโอเว่อร์เกินกว่าที่หนังสือมันเป็น เพราะถ้าลูกค้าซื้อหนังสือเล่มนั้นไปอ่านแล้วมันตรงกับที่เราเขียนรีวิวไว้ ก็จะทำให้ลูกค้าก็จะเชื่อถือในการรีวิวของเรา
-เอกลักษณ์ของร้านหนังสือ BOOKSBERRY คือเป็นร้านหนังสือเด็กที่เลือกหนังสือให้เด็กแล้วเด็กชอบ โดยส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะพาบุตรหลานมาด้วยโจทย์ที่ว่า เด็กอายุเท่านี้ ชอบอ่านหนังสืออะไร ไม่ชอบอ่านอะไร อยากจะให้เด็กอ่านหนังสืออะไรได้บ้าง? แล้วให้ทางร้านช่วยเลือกหนังสือให้ ถือว่าเป็นความน่าเชื่อถือของร้าน BOOKSBERRY ที่ผู้ปกครองมักจะมอบความไว้วางใจให้เสมอ เพราะการเลือกหนังสือให้เด็กได้นั้น ทางร้านขายหนังสือควรจะต้องอ่านหนังสือเด็กเล่มนั้น ๆ ก่อนด้วย
-ราคาขายหนังสือทุกเล่มในร้าน BOOKSBERRY จะขายตามราคาปกเลย มีน้อยมากที่จะลดราคาอาจจะเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นที่จะลดราคาให้ (3-4 วันเท่านั้น) โดยใช้วิธีซื้อ 5 เล่มแถมให้ 1 เล่ม หรือซื้อ 6 เล่มแถมให้ 1 เล่มเลือกเองได้เลย ฯลฯ หรือใช้วิธีการพรีออเดอร์หนังสือในราคาพิเศษ หรือในกรณีที่ทางร้านจำเป็นต้องลดราคาขายเพราะทางสำนักพิมพ์เป็นผู้ลดราคาขายเอง
-สินค้าที่ไม่ใช่หนังสือจะเป็นพวกสื่อการเรียนรู้ (ของเล่นเด็กเล็ก) ที่ส่วนใหญ่มาจากกระดาษ เช่น เกมปริศนา คำศัพท์ การ์ด จิ๊กซอร์ ของเล่นกระดาษต่าง ๆ สื่อการสอนเด็กอ่านโน้ตเพลง ฯลฯ สำหรับสินค้าพวกนี้เอาไว้รองรับลูกค้าที่อยากจะซื้อของขวัญให้แก่เด็กแต่ไม่อยากซื้อหนังสือให้
-ที่ร้าน BOOKSBERRY มีสนามหญ้าโล่งกลางแจ้งด้านหน้า ให้เด็ก ๆ มาวิ่งเล่นได้ แต่สิ่งที่ทำให้เด็กเล็กมีความสุขเวลาที่มาที่ร้าน BOOKSBERRY ก็คือ ในเวลาที่มีหลายครอบครัวมาที่ร้านพร้อม ๆ กัน เด็ก ๆ เขาจะได้เล่นกัน โดยให้พ่อแม่ของแต่ละครอบครัวมักอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ ฟัง รวมทั้งลูกชายคนเล็กของคุณมิ้นเองก็ชอบที่จะเรียกให้ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้ฟัง ต้องถือว่าเป็นการเสริมสร้างทักษะการเข้าสังคมให้แก่เด็ก ๆ ด้วย ส่วนตัวผู้ใหญ่ที่ได้อ่านหนังสือให้เด็กฟังก็จะได้รับความสุขจากความน่ารักและความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ ติดตัวกลับบ้านไปด้วยเช่นกัน
-ใครที่อยากให้บุตรหลานของท่านอ่านหนังสือ ก็ลองไปที่ร้านไปพูดคุยปรึกษากับคุณมิ้นได้ครับ แผนที่ทางไปร้าน BOOKSBERRY ตามนี้เลยครับ https://bit.ly/3ipNWov
-ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่ https://www.facebook.com/Booksberryshop/?epa=SEARCH_BOX
ท้ายสุดนี้ผมอยากให้ทุกท่านอุดหนุนซื้อหนังสือจากร้านหนังสืออิสระ เพื่อช่วยให้ร้านหนังสืออิสระอยู่รอดครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือ และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงด้วยครับ