คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ทุกอย่างที่มีค่า เกิดจากการที่เราไปกำหนด หรือ สมมุติ มูลค่าให้กับมัน จะในทางศาสนาหรือทางโลก ก็คงไม่อาจพ้นหลักข้อนี้
อันที่จริง ทองคำ ใช้ประโยชน์ได้มากมาย จะใช้สร้างบ้านก็ยังได้ แต่ไม่ทำเพราะเป็นของหายาก และมีมูลค่ามาก จึงใช้อย่างอื่นแทน ที่กล่าวมาในเนื้อหาหัวข้อกระทู จึงไม่ตรงกับความจริงนัก
ทองคำมีคุณสมบัติในการทนต่อการเกิดสนิมได้ดี มีความเหนียว สามารถตีแผ่เป็นแผ่นบางกว่า 0.0001 มม. ได้ จึงสามารถประยุกต์ใช้ได้มากมายหลายด้าน ตั้งแต่งานฝีมือจนถึงการผลิตวงจรอิเลคทรอนิคส์ต่างๆ มีประโยชน์มาก แต่ไม่ค่อยใช้กันเพราะว่ามัน "แพง"
ทองคำถูกยอมรับเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนของมนุษย์มาหลายพันปี เทียบกันแล้ว พวกเงินกระดาษกับสื่อแลกเปลี่ยนอิเลคทรอนิคส์อย่าง บิทคอย หรือ ตัวเลขลอยๆ ในบัญชีธนาคาร ทองคำยังดูเป็นของที่จับต้องได้และน่าเชื่อถือมากกว่า ในช่วงสงครามหรือวิกฤติเศรษฐกิจ เงินกระดาษของบางประเทศเฟ้อกันจนธนบัตรบางใบยังมีค่าน้อยกว่ากระดาษชำระ แต่ทองคำยังคงรักษามูลค่าในการใช้แลกเปลี่ยนได้ดีกว่า
บางที ที่คิดว่าช่วงนี้ทองคำราคาสูงขึ้น อาจต้องมองกลับกันว่า ในช่วงนี้ เงินกระดาษมีค่าลดลงมากกว่า
ในทางเศรษฐศาสตร์ คงพิจารณา supply กับ demand เพื่อกำหนดราคา ซึ่งก็ใช่ว่าจะขึ้นกับ utility ที่แท้จริงเสมอไป ในโลกของความเป็นจริง เงื่อนไขสมมุติฐานต่างๆ ตามแนวคิดแบบ classical มันยังไม่เคยมีอยู่ครบถ้วนจริง (อย่างน้อยก็จนถึงปัจจุบันนี้) perfect market ยังไม่มีจริง ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงทองคำที่มีในโลกนี้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ดังนั้น ทองคำจึงไม่ไร้ค่า
ในทางศาสนา ส่วนใหญ่จะให้คุณค่าด้านจิตวิญญาณมากกว่าวัตถุ ทองคำจัดอยู่ในส่วนของวัตถุ มีค่าน้อยกว่าความดีด้านจิตวิญญาณ หรืออาจถึงกับถูกมองว่า ไม่มีค่าเลยก็ได้
ดังที่ผมว่าไว้ในประโยคแรก ทุกอย่างที่มีค่า เกิดจากการที่เราไปกำหนด หรือ สมมุติ มูลค่าให้กับมัน จะในแง่เศรษฐศาสตร์ หรือ ศาสนา ก็ยังไม่พ้นหลักนี้
อันที่จริง ทองคำ ใช้ประโยชน์ได้มากมาย จะใช้สร้างบ้านก็ยังได้ แต่ไม่ทำเพราะเป็นของหายาก และมีมูลค่ามาก จึงใช้อย่างอื่นแทน ที่กล่าวมาในเนื้อหาหัวข้อกระทู จึงไม่ตรงกับความจริงนัก
ทองคำมีคุณสมบัติในการทนต่อการเกิดสนิมได้ดี มีความเหนียว สามารถตีแผ่เป็นแผ่นบางกว่า 0.0001 มม. ได้ จึงสามารถประยุกต์ใช้ได้มากมายหลายด้าน ตั้งแต่งานฝีมือจนถึงการผลิตวงจรอิเลคทรอนิคส์ต่างๆ มีประโยชน์มาก แต่ไม่ค่อยใช้กันเพราะว่ามัน "แพง"
ทองคำถูกยอมรับเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนของมนุษย์มาหลายพันปี เทียบกันแล้ว พวกเงินกระดาษกับสื่อแลกเปลี่ยนอิเลคทรอนิคส์อย่าง บิทคอย หรือ ตัวเลขลอยๆ ในบัญชีธนาคาร ทองคำยังดูเป็นของที่จับต้องได้และน่าเชื่อถือมากกว่า ในช่วงสงครามหรือวิกฤติเศรษฐกิจ เงินกระดาษของบางประเทศเฟ้อกันจนธนบัตรบางใบยังมีค่าน้อยกว่ากระดาษชำระ แต่ทองคำยังคงรักษามูลค่าในการใช้แลกเปลี่ยนได้ดีกว่า
บางที ที่คิดว่าช่วงนี้ทองคำราคาสูงขึ้น อาจต้องมองกลับกันว่า ในช่วงนี้ เงินกระดาษมีค่าลดลงมากกว่า
ในทางเศรษฐศาสตร์ คงพิจารณา supply กับ demand เพื่อกำหนดราคา ซึ่งก็ใช่ว่าจะขึ้นกับ utility ที่แท้จริงเสมอไป ในโลกของความเป็นจริง เงื่อนไขสมมุติฐานต่างๆ ตามแนวคิดแบบ classical มันยังไม่เคยมีอยู่ครบถ้วนจริง (อย่างน้อยก็จนถึงปัจจุบันนี้) perfect market ยังไม่มีจริง ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงทองคำที่มีในโลกนี้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ดังนั้น ทองคำจึงไม่ไร้ค่า
ในทางศาสนา ส่วนใหญ่จะให้คุณค่าด้านจิตวิญญาณมากกว่าวัตถุ ทองคำจัดอยู่ในส่วนของวัตถุ มีค่าน้อยกว่าความดีด้านจิตวิญญาณ หรืออาจถึงกับถูกมองว่า ไม่มีค่าเลยก็ได้
ดังที่ผมว่าไว้ในประโยคแรก ทุกอย่างที่มีค่า เกิดจากการที่เราไปกำหนด หรือ สมมุติ มูลค่าให้กับมัน จะในแง่เศรษฐศาสตร์ หรือ ศาสนา ก็ยังไม่พ้นหลักนี้
แสดงความคิดเห็น
ทำไมทองถึงขึ้นราคา กินก็ไม่ได้ เอาไปทำไรไม่ได้เลย เก็บอย่างเดียว ในทางศาสนาสอนเรื่องทองคำอย่างไร
แล้วทองผลิตออกมาทุกวัน เก็บไว้ไม่ได้ใช้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน คิดไปคิดมา ผลิตตั้งแต่สมัยอียิปคลีโอพัตรา อินเดียน่าโจนส อยุธยา จิ๋นซีฮ่องเต้
ก็ผลิตแล้วเก็บมาเรื่อยๆหลายพันปี แล้วก็ผลิต แล้วเก็บต่อไปเรื่อยๆในอนาคต จะทำไปเพื่ออะไร
แนวคิดทางเศรษศาสตร์ กับทางศาสนาต่างกันอย่างไร เรื่องทองคำ