ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว (ตอนที่ 7)
วันที่ 10 ส.ค. 2563 เวลา 23.28 น. ดาวอังคาร (3) ตนุลัคน์ (ดาวตัวแทนของลัคนาเมือง) จะยกย้ายเข้าสู่ราศีเมษ โดยจะเป็นการโคจรในลักษณะวิกลคติ มณฑ์ คือเดินช้ากว่าปกติ จนกระทั่งหยุดเดินหน้าในระยะ 4องศา 49 ลิปดา แล้วจึงแปรวิถีจักรพักร์องศาในวันที่ 18 ก.ย. เพื่อย้อนกลับเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ 9 ต.ค. 2563
ราศีเมษ ภพตนุของดวงเมือง นอกจากเป็นที่ตั้งของลัคนา (ลั) เมืองแล้ว ยังมีดาวอาทิตย์ (๑) สถิตอยู่ในพื้นดวงเมืองและมีดาวมฤตยู (๐) จร ดาวอาเพศ ร่วมอยู่ด้วย เมื่อดาวอังคาร (3) ตนุลัคน์ซึ่งในพื้นดวงเมืองนั้นสถิตอยู่ในราศีพฤษภ ภพการเงินการคลังของประเทศและได้ตำแหน่ง “ราชาโชค” โคจรเข้าสู่ราศีเมษ เป็นเกษตราธิบดี คือมีความเข้มแข็ง มั่นคง ทรงอำนาจเพราะเป็นเรือนของตนเอง ส่วนพระอาทิตย์ (๑) ที่สถิตอยู่ราศีเมษในพื้นดวงเมืองนั้นเป็นเจ้าเรือนภพที่ 5 (ปุตตะ) อันหมายถึง เด็ก เยาวชน ธุรกิจบันเทิง อุตสาหกรรมภาพยนต์ โรงมหรสพ และการบันเทิงทุกชนิด การลงทุนใหม่ๆ การซื้อขายแลกเปลี่ยน ฯลฯ
ดาวอาทิตย์ในดวงเมืองยังหมายถึงผู้นำ ผู้บริหารประเทศ ซึ่งกำลังโคจรในราศีกรกฎ และในวันที่ 17 ส.ค. พระอาทิตย์ (1) จะโคจรเข้าสู่ราศีสิงห์ เรือนเกษตรฯ ของตนเองในเวลา 08.21 น. พระอาทิตย์จึงมีความเข้มแข็งมากและจะโคจรในราศีนี้เป็นเวลา 1 เดือน โดยในตำแหน่งนี้พระอาทิตย์สามารถสาดแสงส่งอิทธิพลไปถึงราศีเมษ และถึงกลุ่มดาวที่สถิตอยู่ และส่งอิทธิพลไปถึงราศีธนู ภพศุภะในดวงเมือง ซึ่งมีทั้งดาวพฤหัสบดี (๕) และดาวเสาร์ (๗) ในพื้นดวงเมืองและเป็นดาวจรที่กำลังโคจรอยู่ในราศีนั้น
เมื่อดวงดาวโคจรมาสัมพันธ์ในลักษณะตรีโกณถึงเช่นนี้จึงมีความเป็นไปได้มากที่รัฐบาลจะมีการอนุมัติงบประมาณในโครงการต่างๆ โดยง่าย เพื่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ ให้เกิดการจ้างงาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการอนุมัติเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจเอกชนที่กำลังมีปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ตลอดจนการอนุญาตให้บริษัทภาพยนต์ต่างชาติเข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนต์ในประเทศ ธุรกิจบันเทิงเริงรมณ์ กิจการต่างๆ จะเริ่มมีความเคลื่อนไหวคึกคักอีกครั้ง
ในด้านสถานการณ์ทางบ้านเมืองก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจยิ่ง เมื่อดาวอังคาร (3) โคจรเข้าสู่ราศีเมษ โดยมีดาวอาทิตย์ (๑) คู่ศัตรูเป็นจุดตั้งรับในพื้นดวงเมือง ดาวคู่นี้เป็นคู่วิวาท ขณะที่ราหู (8) เจ้าแห่งความลุ่มหลงมัวเมายังโคจรในราศีมิถุน โยคหน้าพระอังคาร (3) จร และพระอาทิตย์ (๑) ในพื้นดวงเมือง พยากรณ์ว่า จะมีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลโดยกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง มีการปลุกระดมด้วยข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา จนนำไปสู่การปะทะกันด้วยกำลัง ความรุนแรง เกิดความปั่นป่วนวุ่ยวายในบ้านเมือง
ราศีเมษ สิงห์ ธนู นั้นต่างก็เป็นราศีธาตุไฟด้วยกัน และช่วงกลางเดือนก็มีดาวอาทิตย์ ดาวเสาร์ ธาตุไฟ และดาวอังคาร ธาตุลม สถิตอยู่ครบทั้งสามราศี จึงต้องระวังเรื่องอัคคีภัย ไฟไหม้ใหญ่ การระเบิดขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างความเสียหายในวงกว้าง อาทิ รถบรรทุกก๊าซ น้ำมัน หรือคลังแสง คลังน้ำมันระเบิด เป็นต้น ตลอดจนการเกิดเหตุร้ายจากอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือจากการกระทำของมนุษย์ เช่นกรณีโศรกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2563 ที่จังหวัดนครราชสีมา ในเช้าวันนั้น ดาวอังคาร (3) ยกย้ายจากราศีพิจิกเข้าสู่ราศีธนูแล้วร่วมโคจรกับดาวเสาร์ (7) ดาวคู่อุบัติเหตุ อุบัติภัยร้ายแรง และดาวทั้งสองยังส่งอิทธิพลตรีโกณร่วมธาตุไฟไปถึงราศีเมษ ที่มีลัคนาและดาวอาทิตย์ (๑) ในพื้นดวงเมืองสถิตอยู่และมีดาวมฤตยู (๐) จร ดาวอาเพศ ดาวแห่งความตายเป็นจุดตั้งรับ เมื่อดวงดาวโคจรมาสัมพันธ์กันคล้ายในลักษณะเช่นเดิมอย่างนี้ จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะที่ดาวอังคาร (3) จะโคจรพักร์องศาในราศีเมษ วันที่ 18 ก.ย. เพื่อย้อนกลับเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ 9 ต.ค. 2563 ในตำราโหราศาสตร์ชะตาเมือง ได้กล่าวถึงกรณีเช่นนี้ไว้ว่า “อังคารพักร์ มีศึกต่างเมืองมา” และ “พระเสาร์และพระอังคารท่านอภิปราย พักร์ในราศีร้ายจำเพาะมี คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนู พักร์ ว่าร้ายนักทำนายไว้สี่ราศี จะเกิดความวิบัติเสียหายวายชีวี พระธรณีจะดื่มกินซึ่งเลือดคน”
ในกรณีที่ว่า “อังคารพักร์ มีศึกต่างเมืองมา” นั้น เมื่อมองถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันการที่จะนำอาวุธยุทโธปกรณ์มารบพุ่งกันนั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่น่าจะแบ่งได้เป็นสองกรณีคือ 1. ศึกที่ว่านั้นอาจจะกิดจากการแทรกแซง สนับสนุนจากคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ 2. คำว่า “ศึกต่างเมือง” อาจจะแปลว่าเป็นภัยคุกคาม ซึ่งหมายรวมถึงโรคระบาดร้ายแรงที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกขณะนี้ก็เป็นได้ ดังนั้น การที่จะเปิดให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาจึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มากเป็นพิเศษ
ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว (ตอนที่ 7) โดย พล พยากรณ์
วันที่ 10 ส.ค. 2563 เวลา 23.28 น. ดาวอังคาร (3) ตนุลัคน์ (ดาวตัวแทนของลัคนาเมือง) จะยกย้ายเข้าสู่ราศีเมษ โดยจะเป็นการโคจรในลักษณะวิกลคติ มณฑ์ คือเดินช้ากว่าปกติ จนกระทั่งหยุดเดินหน้าในระยะ 4องศา 49 ลิปดา แล้วจึงแปรวิถีจักรพักร์องศาในวันที่ 18 ก.ย. เพื่อย้อนกลับเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ 9 ต.ค. 2563
ราศีเมษ ภพตนุของดวงเมือง นอกจากเป็นที่ตั้งของลัคนา (ลั) เมืองแล้ว ยังมีดาวอาทิตย์ (๑) สถิตอยู่ในพื้นดวงเมืองและมีดาวมฤตยู (๐) จร ดาวอาเพศ ร่วมอยู่ด้วย เมื่อดาวอังคาร (3) ตนุลัคน์ซึ่งในพื้นดวงเมืองนั้นสถิตอยู่ในราศีพฤษภ ภพการเงินการคลังของประเทศและได้ตำแหน่ง “ราชาโชค” โคจรเข้าสู่ราศีเมษ เป็นเกษตราธิบดี คือมีความเข้มแข็ง มั่นคง ทรงอำนาจเพราะเป็นเรือนของตนเอง ส่วนพระอาทิตย์ (๑) ที่สถิตอยู่ราศีเมษในพื้นดวงเมืองนั้นเป็นเจ้าเรือนภพที่ 5 (ปุตตะ) อันหมายถึง เด็ก เยาวชน ธุรกิจบันเทิง อุตสาหกรรมภาพยนต์ โรงมหรสพ และการบันเทิงทุกชนิด การลงทุนใหม่ๆ การซื้อขายแลกเปลี่ยน ฯลฯ
ดาวอาทิตย์ในดวงเมืองยังหมายถึงผู้นำ ผู้บริหารประเทศ ซึ่งกำลังโคจรในราศีกรกฎ และในวันที่ 17 ส.ค. พระอาทิตย์ (1) จะโคจรเข้าสู่ราศีสิงห์ เรือนเกษตรฯ ของตนเองในเวลา 08.21 น. พระอาทิตย์จึงมีความเข้มแข็งมากและจะโคจรในราศีนี้เป็นเวลา 1 เดือน โดยในตำแหน่งนี้พระอาทิตย์สามารถสาดแสงส่งอิทธิพลไปถึงราศีเมษ และถึงกลุ่มดาวที่สถิตอยู่ และส่งอิทธิพลไปถึงราศีธนู ภพศุภะในดวงเมือง ซึ่งมีทั้งดาวพฤหัสบดี (๕) และดาวเสาร์ (๗) ในพื้นดวงเมืองและเป็นดาวจรที่กำลังโคจรอยู่ในราศีนั้น
เมื่อดวงดาวโคจรมาสัมพันธ์ในลักษณะตรีโกณถึงเช่นนี้จึงมีความเป็นไปได้มากที่รัฐบาลจะมีการอนุมัติงบประมาณในโครงการต่างๆ โดยง่าย เพื่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ ให้เกิดการจ้างงาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการอนุมัติเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจเอกชนที่กำลังมีปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ตลอดจนการอนุญาตให้บริษัทภาพยนต์ต่างชาติเข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนต์ในประเทศ ธุรกิจบันเทิงเริงรมณ์ กิจการต่างๆ จะเริ่มมีความเคลื่อนไหวคึกคักอีกครั้ง
ในด้านสถานการณ์ทางบ้านเมืองก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจยิ่ง เมื่อดาวอังคาร (3) โคจรเข้าสู่ราศีเมษ โดยมีดาวอาทิตย์ (๑) คู่ศัตรูเป็นจุดตั้งรับในพื้นดวงเมือง ดาวคู่นี้เป็นคู่วิวาท ขณะที่ราหู (8) เจ้าแห่งความลุ่มหลงมัวเมายังโคจรในราศีมิถุน โยคหน้าพระอังคาร (3) จร และพระอาทิตย์ (๑) ในพื้นดวงเมือง พยากรณ์ว่า จะมีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลโดยกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง มีการปลุกระดมด้วยข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา จนนำไปสู่การปะทะกันด้วยกำลัง ความรุนแรง เกิดความปั่นป่วนวุ่ยวายในบ้านเมือง
ราศีเมษ สิงห์ ธนู นั้นต่างก็เป็นราศีธาตุไฟด้วยกัน และช่วงกลางเดือนก็มีดาวอาทิตย์ ดาวเสาร์ ธาตุไฟ และดาวอังคาร ธาตุลม สถิตอยู่ครบทั้งสามราศี จึงต้องระวังเรื่องอัคคีภัย ไฟไหม้ใหญ่ การระเบิดขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างความเสียหายในวงกว้าง อาทิ รถบรรทุกก๊าซ น้ำมัน หรือคลังแสง คลังน้ำมันระเบิด เป็นต้น ตลอดจนการเกิดเหตุร้ายจากอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือจากการกระทำของมนุษย์ เช่นกรณีโศรกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2563 ที่จังหวัดนครราชสีมา ในเช้าวันนั้น ดาวอังคาร (3) ยกย้ายจากราศีพิจิกเข้าสู่ราศีธนูแล้วร่วมโคจรกับดาวเสาร์ (7) ดาวคู่อุบัติเหตุ อุบัติภัยร้ายแรง และดาวทั้งสองยังส่งอิทธิพลตรีโกณร่วมธาตุไฟไปถึงราศีเมษ ที่มีลัคนาและดาวอาทิตย์ (๑) ในพื้นดวงเมืองสถิตอยู่และมีดาวมฤตยู (๐) จร ดาวอาเพศ ดาวแห่งความตายเป็นจุดตั้งรับ เมื่อดวงดาวโคจรมาสัมพันธ์กันคล้ายในลักษณะเช่นเดิมอย่างนี้ จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะที่ดาวอังคาร (3) จะโคจรพักร์องศาในราศีเมษ วันที่ 18 ก.ย. เพื่อย้อนกลับเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ 9 ต.ค. 2563 ในตำราโหราศาสตร์ชะตาเมือง ได้กล่าวถึงกรณีเช่นนี้ไว้ว่า “อังคารพักร์ มีศึกต่างเมืองมา” และ “พระเสาร์และพระอังคารท่านอภิปราย พักร์ในราศีร้ายจำเพาะมี คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนู พักร์ ว่าร้ายนักทำนายไว้สี่ราศี จะเกิดความวิบัติเสียหายวายชีวี พระธรณีจะดื่มกินซึ่งเลือดคน”
ในกรณีที่ว่า “อังคารพักร์ มีศึกต่างเมืองมา” นั้น เมื่อมองถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันการที่จะนำอาวุธยุทโธปกรณ์มารบพุ่งกันนั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่น่าจะแบ่งได้เป็นสองกรณีคือ 1. ศึกที่ว่านั้นอาจจะกิดจากการแทรกแซง สนับสนุนจากคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ 2. คำว่า “ศึกต่างเมือง” อาจจะแปลว่าเป็นภัยคุกคาม ซึ่งหมายรวมถึงโรคระบาดร้ายแรงที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกขณะนี้ก็เป็นได้ ดังนั้น การที่จะเปิดให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาจึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มากเป็นพิเศษ