สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
Printer แบบ Inkjet คือ แบบหมึกเหลว
หัวพิมพ์ก็เหมือนเข็มฉีดยาจำนวนมาก
ถ้าใช้งานแล้วก็จะมีหมึกค้างปลายเข็มครับ แล้วแห้งติด อุดปลายเข็ม ครับ
- ใช้บ่อย ๆ ก็จะหลุดไปเอง ไม่ตัน
- ใช้ไม่บ่อย ก็จะแห้งกรัง แต่ยังพอจะใช้คำสั่งล้างหัวพิมพ์ คือฉีดหมึกทิ้งแรง ๆ ได้
- ถ้าปล่อยร้างบ่อย ๆ อันนี้ จะหนักถึงขั้นล้างไม่ออก ก็เปลี่ยนหัวพิมพ์ครับ
ทีนี้ ตลาด Inkjet ก็แบ่งเป็น
A. เครื่องถูกหมึกแพง
B. เครื่องแพง หมึกถูก
กลุ่ม A
ทำไมเครื่องถูก เพราะว่า ในเครื่องไม่มีหัวพิมพ์ครับ หัวพิมพ์อยู่ที่ตัวตลับหมึก
ซึ่งอาจเรียกให้ถูกต้อง คือ "ตลับหัวพิมพ์แถมเศษหมึกนิดหน่อย"
ทำไมหมึกแพง ก็เพราะว่า ตลับที่คุณเรียกว่า "ตลับหมึก" นั้น
แท้จริงแล้วคือ ตลับหัวพิมพ์ แล้วมีแถมหมึกมานิดหน่อย แค่ไม่กี่ CC ครับ
ใช้ไปไม่กี่ร้อยแผ่น ก็หมด
แถมตลับสี ยังเป็นแบบรวม 3 สี คือสีใด สีหนึ่ง หมด ก็... เปลี่ยนยกตลับ ครับ
แต่ข้อดี ของแบบนี้ก็คือ
พอคุณไม่ได้ใช้นาน ๆ หรือใช้ไม่บ่อย ก็............ หัวตัน ครับ เป็นธรรมชาติ ดังที่อธิบายไว้แล้วตอนต้น
แต่ที่บอกว่า ข้อดีก็เพราะ แค่ซื้อตลับหมึก(ตลับหัวพิมพ์) ใหม่ มาเปลี่ยน
คุณก็จะได้หัวพิมพ์ใหม่ทันที ครับ
การเปลี่ยนตลับ ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เปิดฝาก เปิดช่องล็อคตลับ ถอดของเก่า ใส่ตลับใหม่ ปิดตัวล็อค ปิดฝา
เสร็จ
พร้อมที่จะใช้งานเลย
มาดูกลุ่ม B
เครื่องแพง หมึกถูก
คือ หัวพิมพ์จะทน และอยู่ในเครื่อง
แต่หมีกจะราคาถูก เวลาหมึกหมด ก็เติมแค่หมึก
แต่ปัญหาคือ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้ แล้วหัวตัน อันนี้เรื่องใหญ่เลย เพราะเปลี่ยนเองยากมาก
ควรส่งศูนย์ มีค่าใช้จ่าย และ ... เสียโอกาส ที่จะใช้เครื่อง
Laser คือ หมึกผง
ใช้วิธี ยิงเลเซอร์ไปบนลูกกลิ้ง (Drum) แล้วลูกกลิ้งนั้นไปดูดผงหมึก ให้ติดบนลูกกลิ้ง
แล้วไปนาบลงกระดาษ ให้เป็นเนื้อหาตามต้องการ
จากนั้นผ่านการรีดร้อน ออกมาจากเครื่อง
แบบนี้ ไม่มีปัญหา หัวตันครับ
แต่ ค่าหมึกผง จะแพงมาก
(ขอข้าม เครื่อง Dot Matrix หรือแบบกระแทกหัวเข็ม ลงบนผ้าหมึก
เพราะปัจจุบัน ไม่ค่อยใช้กันตามบ้านพักอาศัย
จะใช้กันกับ ร้านค้า ที่ต้องการพิมพ์บิล แบบที่มีสำเนา)
ร่ายมาซะยาว ตามสไตล์ผม
แต่ก็ หวังว่า จะมีโประโยชน์ต่อคุณ บ้าง ไม่มาก ก็น้อย นะครับ
การซื้อ Printer ควรเลือกจาก ลักษณะการใช้งาน
มิใช่ เลือกจาก ราคา หรือ Promotion ครับ
โดยเฉพาะ ความถี่ ความบ่อย ในการเปิดเครื่อง
Canon E4270
ทำไม ราคาถูก/ เพราะในเครื่องไม่มีหัวพิมพ์ ครับ
ข้อดี มี Fax, ADF , Auto Duplex
ข้อเสีย หมึกแพง
ครับ
https://www.officemate.co.th/th/canon-หมึกอิงค์เจ็ท-สีดำ-canon-pg-47-ofm4003153
ถ้าถือเอาตามโฆษณา คือ 400 แผ่น
ราคาตลับหมึกประมาณ 320 บาท
ก็แผ่นละ 0.80 บาท
ดังนั้น เวลาพิมพ์ ก็ให้คิดไว้ในใจ ว่า แผ่นละ 80 สตางค์ ยังไม่รวมค่ากระดาษ
(เฉพาะขาวดำ)
https://www.officemate.co.th/th/canon-หมึกอิงค์เจ็ท-3-สี-canon-cl-57-ofm4003154
หมึกสี พิมพ์ได้ 300 แผ่น
ราคาตลับหมึกประมาณ 570 บาท
ดังนั้น เวลาพิมพ์สี ก็ให้คิดไว้ในใจ ว่า แผ่นละ 1.90 บาท
(ยังไม่รวมค่ากระดาษ)
ข้อดี คือ Spec ครบถ้วน
(เกินด้วยไหม Fax ใช้ไหม / ADF ใช้ไหม / Auto Duplex ใช้ไหม)
แล้วถ้าใช้น้อย ๆ มีปล่อยร้าง ก็หัวพิมพ์ตัน
มีข้อดีเพิ่มมา ก็คือ ไม่ต้องส่งซ๋อม หัวพิมพ์
แค่เปลี่ยนตลับหมึกใหม่ ใส่ เลย
ก็ได้หัวพิมพ์อันใหม่ ครับ
ความรู้เรื่อง Printer เบื้องต้น แบบย่อมาก
Printer แบบ Inkjet คือ แบบหมึกเหลว
หัวพิมพ์ก็เหมือนเข็มฉีดยาจำนวนมาก
ถ้าใช้งานแล้วก็จะมีหมึกค้างปลายเข็มครับ แล้วแห้งติด อุดปลายเข็ม ครับ
- ใช้บ่อย ๆ ก็จะหลุดไปเอง ไม่ตัน
- ใช้ไม่บ่อย ก็จะแห้งกรัง แต่ยังพอจะใช้คำสั่งล้างหัวพิมพ์ คือฉีดหมึกทิ้งแรง ๆ ได้
- ถ้าปล่อยร้างบ่อย ๆ อันนี้ จะหนักถึงขั้นล้างไม่ออก ก็เปลี่ยนหัวพิมพ์ครับ
ทีนี้ ตลาด Inkjet ก็แบ่งเป็น
A. เครื่องถูกหมึกแพง
B. เครื่องแพง หมึกถูก
กลุ่ม A
ทำไมเครื่องถูก เพราะว่า ในเครื่องไม่มีหัวพิมพ์ครับ หัวพิมพ์อยู่ที่ตัวตลับหมึก
ซึ่งอาจเรียกให้ถูกต้อง คือ "ตลับหัวพิมพ์แถมเศษหมึกนิดหน่อย"
ทำไมหมึกแพง ก็เพราะว่า ตลับที่คุณเรียกว่า "ตลับหมึก" นั้น
แท้จริงแล้วคือ ตลับหัวพิมพ์ แล้วมีแถมหมึกมานิดหน่อย แค่ไม่กี่ CC ครับ
ใช้ไปไม่กี่ร้อยแผ่น ก็หมด
แถมตลับสี ยังเป็นแบบรวม 3 สี คือสีใด สีหนึ่ง หมด ก็... เปลี่ยนยกตลับ ครับ
แต่ข้อดี ของแบบนี้ก็คือ
พอคุณไม่ได้ใช้นาน ๆ หรือใช้ไม่บ่อย ก็............ หัวตัน ครับ เป็นธรรมชาติ ดังที่อธิบายไว้แล้วตอนต้น
แต่ที่บอกว่า ข้อดีก็เพราะ แค่ซื้อตลับหมึก(ตลับหัวพิมพ์) ใหม่ มาเปลี่ยน
คุณก็จะได้หัวพิมพ์ใหม่ทันที ครับ
การเปลี่ยนตลับ ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เปิดฝาก เปิดช่องล็อคตลับ ถอดของเก่า ใส่ตลับใหม่ ปิดตัวล็อค ปิดฝา
เสร็จ
พร้อมที่จะใช้งานเลย
มาดูกลุ่ม B
เครื่องแพง หมึกถูก
คือ หัวพิมพ์จะทน และอยู่ในเครื่อง
แต่หมีกจะราคาถูก เวลาหมึกหมด ก็เติมแค่หมึก
แต่ปัญหาคือ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้ แล้วหัวตัน อันนี้เรื่องใหญ่เลย เพราะเปลี่ยนเองยากมาก
ควรส่งศูนย์ มีค่าใช้จ่าย และ ... เสียโอกาส ที่จะใช้เครื่อง
Laser คือ หมึกผง
ใช้วิธี ยิงเลเซอร์ไปบนลูกกลิ้ง (Drum) แล้วลูกกลิ้งนั้นไปดูดผงหมึก ให้ติดบนลูกกลิ้ง
แล้วไปนาบลงกระดาษ ให้เป็นเนื้อหาตามต้องการ
จากนั้นผ่านการรีดร้อน ออกมาจากเครื่อง
แบบนี้ ไม่มีปัญหา หัวตันครับ
แต่ ค่าหมึกผง จะแพงมาก
(ขอข้าม เครื่อง Dot Matrix หรือแบบกระแทกหัวเข็ม ลงบนผ้าหมึก
เพราะปัจจุบัน ไม่ค่อยใช้กันตามบ้านพักอาศัย
จะใช้กันกับ ร้านค้า ที่ต้องการพิมพ์บิล แบบที่มีสำเนา)
ร่ายมาซะยาว ตามสไตล์ผม
แต่ก็ หวังว่า จะมีโประโยชน์ต่อคุณ บ้าง ไม่มาก ก็น้อย นะครับ
การซื้อ Printer ควรเลือกจาก ลักษณะการใช้งาน
มิใช่ เลือกจาก ราคา หรือ Promotion ครับ
โดยเฉพาะ ความถี่ ความบ่อย ในการเปิดเครื่อง
Canon E4270
ทำไม ราคาถูก/ เพราะในเครื่องไม่มีหัวพิมพ์ ครับ
ข้อดี มี Fax, ADF , Auto Duplex
ข้อเสีย หมึกแพง
ครับ
https://www.officemate.co.th/th/canon-หมึกอิงค์เจ็ท-สีดำ-canon-pg-47-ofm4003153
ถ้าถือเอาตามโฆษณา คือ 400 แผ่น
ราคาตลับหมึกประมาณ 320 บาท
ก็แผ่นละ 0.80 บาท
ดังนั้น เวลาพิมพ์ ก็ให้คิดไว้ในใจ ว่า แผ่นละ 80 สตางค์ ยังไม่รวมค่ากระดาษ
(เฉพาะขาวดำ)
https://www.officemate.co.th/th/canon-หมึกอิงค์เจ็ท-3-สี-canon-cl-57-ofm4003154
หมึกสี พิมพ์ได้ 300 แผ่น
ราคาตลับหมึกประมาณ 570 บาท
ดังนั้น เวลาพิมพ์สี ก็ให้คิดไว้ในใจ ว่า แผ่นละ 1.90 บาท
(ยังไม่รวมค่ากระดาษ)
ข้อดี คือ Spec ครบถ้วน
(เกินด้วยไหม Fax ใช้ไหม / ADF ใช้ไหม / Auto Duplex ใช้ไหม)
แล้วถ้าใช้น้อย ๆ มีปล่อยร้าง ก็หัวพิมพ์ตัน
มีข้อดีเพิ่มมา ก็คือ ไม่ต้องส่งซ๋อม หัวพิมพ์
แค่เปลี่ยนตลับหมึกใหม่ ใส่ เลย
ก็ได้หัวพิมพ์อันใหม่ ครับ
แสดงความคิดเห็น
canon pixma e4270 ทำไมถูกจัง ซื้อดีไหมครับ
อยากได้เครื่องปริ้นเรียบๆ มี wifi สั่งปริ้นไร้สานจากคอมได้
แต่ไม่ใช้แฟกซ์นะครับ เหมือนได้ยินว่าเปลี่ยนหมึกแพงครั้บละ 300 -400 น่าจะพอรับได้
อยากทราบเรื่องความทนทาน
เดือนนี้อาจจะใช้บ้างไม่ใช้บ้างแต่ อีก 1 เดือนจะฝึกงานคาดว่าน่าจะได้ใช้ทุกวันครับ
เพราะพรุ่งนี้เหมือนมีแฟลชเซลว่าจะจัดเลย แต่เหมือนราคามันถูกและคุ้มเกินไปจริงๆ ถ้าเทียบกับคุณสมบัติ กลัวได้ของไม่ดีอะครับ
หรือท่านใดมีรุ่นอื่นๆ แนะทำ ก็ขอขอบพระคุณไว้ล่วงหน้าครับ ขอบคุณครับ