ขออนุญาตสอบถามท่านผู้รู้นะครับเนื่ื่องจากคาใจมานานไม่ได้ศึกษาเรื่องกฎหมาย เรื่องราว ทายาทใดๆมาก่อนและเรื่องราวค่อนข้างใกล้ตัว เพื่อไม่ให้ผู้อ่านที่บังเอิญรู้จักท่านทั้งสองต่อไปนี้มาอ่านเจอ จึงขอใช้นามสมมติง่ายๆและปกปิดนามสกุลท่านทั้งสองไว้และขอเล่าเรื่องโดยย่อดังนี้...
นายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์ ทำงานรับจ้างทั่วไปแต่งงานกับนางเนตรณรีรัตนอมรผศรี เป็นแม่บ้านไม่มีรายได้ โดยมิได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกกฎหมายไว้ หลังแต่งงานก็ได้ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว ซื้อบ้านทาวน์โฮมหนึ่งชั้นสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ทำครัวนอกชานหลังบ้าน มูลค่าตอนนั้นตก ห้าแสนห้า ได้จดเป็นชื่อของฝ่ายภรรยาด้วยความเสน่หา ย่อมถือเป็นสินสมรสใช่หรือไม่ ทั้งคู่อยู่กินกันมาอย่างมีความสุขโดยไม่มีบุตรธิดา เป็นทายาทสืบสกุล...
ต่อมานายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์ได้ถึงแก่กรรม และทายาทนายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์คือนางสาวเอมอรศศิพัชรและนายอาคมอุดเดชฤทธ น้องสาวและน้องชาย รับทราบและมิได้ขอแบ่งมรดกในตอนนั้น (มีสิทธิขอแบ่งมั้ย) โดยยินยอมทำให้นางเนตรณรีรัตนอมรศรี อาศัยอยู่ทาวน์โฮมหลังนี้โดยลำพังสืบมาเป็นเวลานานกว่ายิ่สิบปี จนเวลาเลยมาถึงวาระที่นางเนตรณรีรัตนอมรศรี สตรีผู้ชราได้ถึงแก่กรรม...
นายเศรษฐรวรรณศักดิ์ ผู้เป็นน้องชายของนางเนตรณรีรัตนอมรศรี ผู้ไม่เคยโผล่ศีรษะมาดูแลนางเลยตลอดสามสิบปีจวบจนบั้นปลายชีวิต ได้แสดงตัวขอเป็นผู้รับมรดกคือบ้านหลังนี้...
คำถามคือนางสาวเอมอรศศิพัชรและนายอาคมอุดเดชฤทธา ผู้เป็นน้องสาวและน้องชายอันเป็นทายาทที่เหลือของฝ่ายนายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์ มีสิทธิในมรดกคือบ้านหลังนี้หรือไม่...
ใครคือผู้รับมรดก...
นายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์ ทำงานรับจ้างทั่วไปแต่งงานกับนางเนตรณรีรัตนอมรผศรี เป็นแม่บ้านไม่มีรายได้ โดยมิได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกกฎหมายไว้ หลังแต่งงานก็ได้ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว ซื้อบ้านทาวน์โฮมหนึ่งชั้นสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ทำครัวนอกชานหลังบ้าน มูลค่าตอนนั้นตก ห้าแสนห้า ได้จดเป็นชื่อของฝ่ายภรรยาด้วยความเสน่หา ย่อมถือเป็นสินสมรสใช่หรือไม่ ทั้งคู่อยู่กินกันมาอย่างมีความสุขโดยไม่มีบุตรธิดา เป็นทายาทสืบสกุล...
ต่อมานายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์ได้ถึงแก่กรรม และทายาทนายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์คือนางสาวเอมอรศศิพัชรและนายอาคมอุดเดชฤทธ น้องสาวและน้องชาย รับทราบและมิได้ขอแบ่งมรดกในตอนนั้น (มีสิทธิขอแบ่งมั้ย) โดยยินยอมทำให้นางเนตรณรีรัตนอมรศรี อาศัยอยู่ทาวน์โฮมหลังนี้โดยลำพังสืบมาเป็นเวลานานกว่ายิ่สิบปี จนเวลาเลยมาถึงวาระที่นางเนตรณรีรัตนอมรศรี สตรีผู้ชราได้ถึงแก่กรรม...
นายเศรษฐรวรรณศักดิ์ ผู้เป็นน้องชายของนางเนตรณรีรัตนอมรศรี ผู้ไม่เคยโผล่ศีรษะมาดูแลนางเลยตลอดสามสิบปีจวบจนบั้นปลายชีวิต ได้แสดงตัวขอเป็นผู้รับมรดกคือบ้านหลังนี้...
คำถามคือนางสาวเอมอรศศิพัชรและนายอาคมอุดเดชฤทธา ผู้เป็นน้องสาวและน้องชายอันเป็นทายาทที่เหลือของฝ่ายนายอภิรเชษฐเดชาวชพงษ์ มีสิทธิในมรดกคือบ้านหลังนี้หรือไม่...