นักศึกษาม.อ.รวมพลัง "เขียนแผ่นผ้า-เปิดแฟลชมือถือ" ถามหาเสรีภาพ หลัง "วันเฉลิม" หายตัวครบ 2 เดือน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2293977
 

นักศึกษาม.อ.รวมพลัง “เขียนแผ่นผ้า-เปิดแฟลชมือถือ” ถามหาเสรีภาพ หลัง “วันเฉลิม” หายตัวครบ 2 เดือน
 
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม ตัวแทนนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ รวมถึงคณะอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ เดินทางมารวมตัวกันที่ลานหน้าคณะนิติศาสตร์ ม.อ.หาดใหญ่เพื่อทำกิจกรรม ทวงถามเสรีภาพในการแสดงออก โดยในวันนี้ครบรอบ2 เดือนของการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่รัฐบาลไทยไม่ได้มีความจริงใจหรือกระตือรือล้นในการติดตามหาตัวแต่อย่างใด
 
โดยคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้นำแผ่นภาพของผู้ที่สูญหาย ถูกอุ้ม มาติดเอาไว้ บริเวณที่จัดกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นนายวันเฉลิมฯ นายสุรชัย แซ่ด่าน นายหะยีสุหลง โต๊ะมีนา นายสมชาย นีละไพจิตร นายพอละจี รักจงเจริญ เป็นต้น
 
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นนั้น มีนักศึกษาเข้าร่วมอย่างคึกคัก โดยได้มีตัวแทนนักศึกษาผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย ถึงการถูกคุกคามของนักกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการถูกอุ้ม การถูกข่มขู่ และ คุกคาม
 
ทั้งนี้แกนนำนักศึกษาได้ทำกิจกรรม ประกอบด้วย การร่วมกันนำแผ่นผ้าสีขาว มาวางเอาไว้บนสนามหญ้า แล้วได้เชิญชวนผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กให้ผู้เข้าร่วม ช่วยกันเขียนข้อความ สื่อถึงสิ่งที่หายไป สิ่งที่แสดงออกไม่ได้ ให้เขียนแสดงออกลงในผืนผ้า
 
โดยตัวแทนนักศึกษารายหนึ่ง ปราศรัยว่า รัฐมีความพยายามที่จะปิดปาก ปิดตา ขโมยอนาคตและความฝัน สิทธิในการพูดน้อยมาก มีการถูกบังคับอุ้มหาย ประเทศนี้เป็นระบอบอะไรกันแน่ ประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ทุกคนรู้ดีว่าเสียงเราน้อย ทุกคนกลัวที่จะพูดออกไป กลัวตาย กลัวโดนจับ
 
โดยนอกจากการเชิญชวนเขียนข้อความบนแผ่นผ้าแล้ว ก็ได้มีการร่วมกันจุดเทียนและเปิดไฟฉายบนโทรศัพท์มือถือ จากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลง Do You Hear the People Sing ที่แปลเป็นภาษาไทย จากนั้นได้เริ่มทยอยแยกย้ายกลับ
 

---

 
เอกชนน้อยใจรบ.ใส่ใจการเมืองมากกว่าปชช.
https://www.innnews.co.th/economy/news_738826/
  
นายกสมาคมรถร่วมขสมก. ห่วงปมเส้นทางทับซ้อนไม่คืบ กระทบสัญญา ตกงานเพิ่ม 2,000 - 3,000 คน ขณะ 6 ส.ค. ถกเยียวยาผู้ประกอบการ น้อยใจรัฐบาลไม่ดูแลความเป็นอยู่ประชาชน
  
นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน รถโดยสารร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเรื่องเส้นทางทับซ้อน ล่าสุดยังไม่ได้รับการติดต่อจากกระทรวงคมนาคมและ ขสมก. ซึ่งส่วนตัวเป็นห่วงว่าถ้าล่าช้ากว่านี้จะส่งผลต่อสัญญาการเดินรถ และการที่เส้นทางเดินรถมีมากกว่า 1 ผู้ประกอบการ ไม่ใช่ความผิดของผู้ประกอบการ โดยปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมา 30-40 ปีแล้ว ดังนั้น หากกระทรวงคมนาคมจะยกเลิกสัญญาของรถร่วม ส่วนตัวมองว่าคงไม่ถูกต้อง
  
นอกจากนี้ ปัญหาที่จะตามมาหากมีการยกเลิกสัญญา คือ จะมีคนตกงานจำนวนมาก ประมาณ 2,000 – 3,000 คน ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงคมนาคมเองคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น และจะขัดต่อนโยบายของรัฐบาลด้วย
  
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 ส.ค. นี้ กรมการขนส่งทางบก ได้เชิญผู้ประกอบการทุกกลุ่ม เข้าหารือเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด – 19
  
ขณะที่เรื่องประเด็นเศรษฐกิจ หรือความเชื่อมั่นของรัฐบาล ตนเองมองว่า ในฐานะมุมมองประชาชนคนหนึ่งลดลงทุกวัน จากการทำงานที่ล่าช้าของราชการ ปัญหาการเมืองเรื่องแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ซึ่งรัฐบาลสนใจเรื่องนี้มากกว่าความเป็นอยู่ของประชาชน