📱 #ทรัมป์ใจอ่อน ! ไม่แบน TikTok แล้ว ! และให้เวลา Microsoft อีก 45 วันเพื่อให้เจรจาดีลการซื้อให้สำเร็จ 💰💰💰
แต่... ผู้ใช้ Tiktok ในสหรัฐอย่างเพิ่งโล่งอกไป... เพราะราคาที่ทาง Tiktok เรียกร้องมานั้นยังถือว่าแพงมากๆสำหรับทาง Microsoft !
📌 #ทรัมป์เปลี่ยนใจ
หลังจากที่ได้รายงานไปเมื่อวานนี้ว่า ทางทรัมป์ได้กล่าวเมื่อเช้าวันเสาร์บ้านเราว่าจะทำการแบนแอป TikTok ในสหรัฐอเมริกาเพื่อลดอิทธิพลของสื่อ Social Media จากจีน ที่อาจล้วงเก็บข้อมูลจากชาวอเมริกันผ่านแอป โดยจะไม่ปล่อยให้บริษัทในสหรัฐซื้อกิจการของ Tiktok มาดำเนินการต่อไป
แต่ล่าสุดหลังผ่านช่วงสุดสัปดาห์ไปโดยที่ไม่ได้มีการเซ็นคำสั่งแบน Tiktok จากประธานาธิบดีทรัมป์ ทางทำเนียบขาวก็ได้ออกมาประกาศว่าทางรัฐบาลเปลี่ยนใจยินยอมให้บริษัท Microsoft เข้าซื้อกิจการของ Tiktok ได้ รวมไปถึงการซื้อสิทธิ์ในการดูแลผู้ใช้งานในตลาดอื่นๆเช่น แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ด้วย
📌 ทำไมทรัมป์ถึงต้องยอมให้เป็น #Microsoft ที่ซื้อ ?
จริงๆแล้วบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างๆของสหรัฐนั้นก็คงต้องการเข้าครอบครองกิจการของ Tiktok ด้วย เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดโฆษณา Online ในสหรัฐ เพราะแอป Tiktok นั้นกำลังเป็นแอปที่ได้รับความนิยมและกำลังขยายได้ตัวเร็วที่สุดในสหรัฐในสมัยนี้ (โดยเฉพาะทาง Facebook ก็มีข่าวว่าต้องการเข้าซื้อด้วย)
แต่กลับเป็นทาง CEO ของทาง Microsoft นาย Satya Nadella ที่มีข่าวว่าได้ต่อสายตรงไปหาทางประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าการแบน TikTok อาจจะทำให้ทรัมป์มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประชาชนและอาจเสียฐานเสียงจากคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงใน 90 วันนี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีประชาชนผู้ใช้ Tiktok จำนวนมากออกมาลงโพสต์แสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจการแบนครั้งนี้
การติดต่อไปโดยตรงของ Microsoft พร้อมคำยืนยันว่าจะปิดดีลให้สำเร็จให้ได้ และเพื่อที่จะได้ทำให้การแข่งขันในตลาดโฆษณา Online สหรัฐมีความเข้นข้นมากขึ้น (ปัจจุบันทาง Facebook, Apple, Amazon และ Google กำลังโดนสอบสวนจากสภาสหรัฐข้อหาการผูกขาดธุรกิจ Online อยู่) ทำให้ทรัมป์ยอมใจอ่อนไม่แบน Tiktok และให้เวลาทาง Microsoft เข้าเจรจา
📌 #ดีลนี้อาจไม่จบง่ายๆ เพราะราคาที่ Tiktok เรียกมานั้นแพงมากๆ !
ทาง Microsoft รายงานว่า ByteDance บริษัทแม่ของ Tiktok ได้ตั้งราคาประเมินของธุรกิจ Tiktok นอกเมืองจีนไว้ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยหากเทียบกับรายได้ของบริษัทในปีที่ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้วนั้น จะแปลว่า ByteDance ตั้งราคาบริษัทไว้สูงกว่ารายได้ต่อปีถึง 50 เท่า !
แน่นอนว่ารายได้ของบริษัทนั้นมีแนวโน้มที่จะโตขึ้น แต่หากเทียบกับบริษัทที่ทำโฆษณา Online อื่นๆอย่าง Snapchat , Facebook หรือ Twitter ที่เรายังคิดว่าราคาหุ้นแพงแสนแพงแล้ว มูลค่าบริษัทเหล่านี้ยังซื้อขายอยู่ที่เพียง 10 เท่าของรายได้ต่อปีเท่านั้น ! (กราฟในคอมเม้นท์)
แปลว่าราคาที่ทาง ByteDance เรียกร้องอยู่นั้นสูงกว่าบริษัทเหล่านี้ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว !
📌 #ทุกท่านคิดว่าดีลนี้จะเกิดไหมครับ ?
แนวโน้มรายได้ของ Tiktok จะโตมากกว่า Facebook Snapchat หรือ Twitter ได้ถึง 5 เท่าเลยจริงหรือ ? และทาง Microsoft จะยอมควักกระเป่าจ่ายหรือไม่ ??
⛔️ ติดตามทุกข่าวสารสำคัญในตลาดโลกและสาระที่น่าสนใจจากเพจผ่านทาง #LINE ด้วยได้นะครับ
https://line.me/ti/g2/deJbt9vrZcT77DAJILWzwg…
🙏
#ทันโลกกับTraderKP
ทรัมป์ใจอ่อน ! ไม่แบน TikTok แล้ว ! และให้เวลา Microsoft อีก 45 วันเพื่อให้เจรจาดีลการซื้อให้สำเร็จ
แต่... ผู้ใช้ Tiktok ในสหรัฐอย่างเพิ่งโล่งอกไป... เพราะราคาที่ทาง Tiktok เรียกร้องมานั้นยังถือว่าแพงมากๆสำหรับทาง Microsoft !
📌 #ทรัมป์เปลี่ยนใจ
หลังจากที่ได้รายงานไปเมื่อวานนี้ว่า ทางทรัมป์ได้กล่าวเมื่อเช้าวันเสาร์บ้านเราว่าจะทำการแบนแอป TikTok ในสหรัฐอเมริกาเพื่อลดอิทธิพลของสื่อ Social Media จากจีน ที่อาจล้วงเก็บข้อมูลจากชาวอเมริกันผ่านแอป โดยจะไม่ปล่อยให้บริษัทในสหรัฐซื้อกิจการของ Tiktok มาดำเนินการต่อไป
แต่ล่าสุดหลังผ่านช่วงสุดสัปดาห์ไปโดยที่ไม่ได้มีการเซ็นคำสั่งแบน Tiktok จากประธานาธิบดีทรัมป์ ทางทำเนียบขาวก็ได้ออกมาประกาศว่าทางรัฐบาลเปลี่ยนใจยินยอมให้บริษัท Microsoft เข้าซื้อกิจการของ Tiktok ได้ รวมไปถึงการซื้อสิทธิ์ในการดูแลผู้ใช้งานในตลาดอื่นๆเช่น แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ด้วย
📌 ทำไมทรัมป์ถึงต้องยอมให้เป็น #Microsoft ที่ซื้อ ?
จริงๆแล้วบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างๆของสหรัฐนั้นก็คงต้องการเข้าครอบครองกิจการของ Tiktok ด้วย เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดโฆษณา Online ในสหรัฐ เพราะแอป Tiktok นั้นกำลังเป็นแอปที่ได้รับความนิยมและกำลังขยายได้ตัวเร็วที่สุดในสหรัฐในสมัยนี้ (โดยเฉพาะทาง Facebook ก็มีข่าวว่าต้องการเข้าซื้อด้วย)
แต่กลับเป็นทาง CEO ของทาง Microsoft นาย Satya Nadella ที่มีข่าวว่าได้ต่อสายตรงไปหาทางประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าการแบน TikTok อาจจะทำให้ทรัมป์มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประชาชนและอาจเสียฐานเสียงจากคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงใน 90 วันนี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีประชาชนผู้ใช้ Tiktok จำนวนมากออกมาลงโพสต์แสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจการแบนครั้งนี้
การติดต่อไปโดยตรงของ Microsoft พร้อมคำยืนยันว่าจะปิดดีลให้สำเร็จให้ได้ และเพื่อที่จะได้ทำให้การแข่งขันในตลาดโฆษณา Online สหรัฐมีความเข้นข้นมากขึ้น (ปัจจุบันทาง Facebook, Apple, Amazon และ Google กำลังโดนสอบสวนจากสภาสหรัฐข้อหาการผูกขาดธุรกิจ Online อยู่) ทำให้ทรัมป์ยอมใจอ่อนไม่แบน Tiktok และให้เวลาทาง Microsoft เข้าเจรจา
📌 #ดีลนี้อาจไม่จบง่ายๆ เพราะราคาที่ Tiktok เรียกมานั้นแพงมากๆ !
ทาง Microsoft รายงานว่า ByteDance บริษัทแม่ของ Tiktok ได้ตั้งราคาประเมินของธุรกิจ Tiktok นอกเมืองจีนไว้ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยหากเทียบกับรายได้ของบริษัทในปีที่ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้วนั้น จะแปลว่า ByteDance ตั้งราคาบริษัทไว้สูงกว่ารายได้ต่อปีถึง 50 เท่า !
แน่นอนว่ารายได้ของบริษัทนั้นมีแนวโน้มที่จะโตขึ้น แต่หากเทียบกับบริษัทที่ทำโฆษณา Online อื่นๆอย่าง Snapchat , Facebook หรือ Twitter ที่เรายังคิดว่าราคาหุ้นแพงแสนแพงแล้ว มูลค่าบริษัทเหล่านี้ยังซื้อขายอยู่ที่เพียง 10 เท่าของรายได้ต่อปีเท่านั้น ! (กราฟในคอมเม้นท์)
แปลว่าราคาที่ทาง ByteDance เรียกร้องอยู่นั้นสูงกว่าบริษัทเหล่านี้ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว !
📌 #ทุกท่านคิดว่าดีลนี้จะเกิดไหมครับ ?
แนวโน้มรายได้ของ Tiktok จะโตมากกว่า Facebook Snapchat หรือ Twitter ได้ถึง 5 เท่าเลยจริงหรือ ? และทาง Microsoft จะยอมควักกระเป่าจ่ายหรือไม่ ??
⛔️ ติดตามทุกข่าวสารสำคัญในตลาดโลกและสาระที่น่าสนใจจากเพจผ่านทาง #LINE ด้วยได้นะครับ
https://line.me/ti/g2/deJbt9vrZcT77DAJILWzwg…
🙏
#ทันโลกกับTraderKP