ไทยประกันชีวิต ใส่ความว่าเราให้ข้อมูลเท็จ เพื่อหาเรื่องยกเลิกกรมธรรม์

เรื่องมีอยู่ว่า 
เราได้ทำประกันชีวิตให้สามี กับ บ.ไทยประกันชีวิต หลังจากนั่น สามีได้เข้าโรงพยาบาล เพราะอาการไข้และอ่อนเพลีย 1 คืน เราได้ส่งเคลมไป ประมาณ 1000 บาท เพราะเรามีกรมธรรม์อื่นที่คุ้มครองอยู่ก่อน ซึ่งก็จ่ายครบตามเงื่อนไข มีเพียงบางส่วนที่เป็นส่วนเกิน เราจึงได้ส่งไปเคลม บ.ไทยฯ แต่กลับส่งจดหมายมาปฎิเสธการชำระค่าชดเชย (ตามรูป) และยกเลิกการคุ้มครอง โดย กล่าวหาว่าเราไม่แถลงข้อเท็จจริง เพราะตรวจเจอว่า สามีเราเป็นโรคหัวใจ ไทรอยด์ และกระดูกสันหลัง 

เราได้สอบถามไปที่โรงพยาบาลที่เราใช้บริการปัจจุบัน (รพ.กรุงเทพเชียงใหม่)
แต่ได้รับการแจ้งว่า ไม่มีการสอบถามข้อมูลเข้ามา (เข้าใช้บริการ 2560-ปัจจุบัน)
จึงได้ ติดต่อไปอีก โรงพยาบาลหนึ่งที่เราเคยใช้ประจำ (รพ.เชียงใหม่ราม) แต่หยุดใช้เพราะไกลบ้าน
ได้เรื่องว่า มีเจ้าหน้าที่ของ บ.ไทยฯ มาขอข้อมูลการรักษาพยาบาล ช่วงปี 2554-2560
ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบันเลย

ด้วยเหตุนี้ บ.ไทยฯ ส่งจดหมายมา (ข้อความตามรูป) เราสงสัยมากว่า สามีเราเป็นโรค 3 โรคดังกล่าวเมื่อไหร่ 
เพราะโรคทั้ง 3 โรคจะต้องมีการรักษา รับยา หรือ เช็คอับ อยู่เสมอ 
แต่พอนึกขึ้นได้ว่า ช่วงปี 2554
สามีได้ขอคุณหมอทำ heart checked เช่น เดินสายพาน แบบเช็คละเอียด อะไรประมาณนี้
เพราะมีวันหนึ่งสามี มีอาการเจ็บแปร๊บ ๆ ที่หน้าอก (ซึงเราก็เคยเป็น เหมือนกล้ามเนื้อบีบ)
กอรปกับ ตอนนั้น เพื่อนสามี เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย เลยกลัวจัด
จึงอยากตรวจสุขภาพเท่านั้น ผลก็ปกติดี  ไม่มีการทานยา หรือรักษาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ส่วนเรื่องไทรอยด์ เรา งง เป็นไก่ตาแตกเลยคะ 
ไม่เคยรับทราบมาก่อนว่าเป็น และไม่เคยรับยา ไม่เคยรักษา

ส่วนเรื่องกระดูกสันหลัง ก็ไม่เคยคะ เคยแค่เข้าไปรักษา แบบนอนแล้วบิดขีเกียจ แล้วเส้นเอ็นมันเกิดพลาดหรือไรไม่รู้คะ เจ็บและลุกลำบากคะ หลังจากนั้นก็ไม่เคยเข้ารักษาอะไรเกี่ยวกับอาการกระดูกสันหลังเลย

แต่ที่เรามาสอบถาม เพราะ ประวัติสามีเราเสีย จากคำให้ร้ายของ บ.ไทยฯ
เพราะหากเราไปทำประกันที่ บ.อื่น มันจะมีให้กรอกว่า เราเคยถูกปฎิเสธ การทำประกันหรือไม่
สิ่งนี้คือ สิ่งที่เรากังวล 

เราติดต่อโรงพยาบาลเชียงใหม่รามเพื่อเข้าไปขอประวัติ แต่ช่วงนั้นติดโควิด ไม่อยากออกไปไหน
ทำให้เวลาล่วงเลยจนถึงตอนนี้ แต่เราคิดว่า เราจะสู้ถึงที่สุด เพราะ บ.ไทยฯ ให้ร้ายเรา
การเคยตรวจ หรือ check up ไม่ได้ หมายความว่า เราเป็นโรคนั้นๆ 

เราได้แย้ง ทาง บ. ไทยฯ ไป แต่เจ้าหน้าที่ตีมึน
ทั้งที่เรามีเอกสารการตรวจสุขภาพ รวมถึงตรวจหัวใจ ก็ปกติ ไปแก้ต่าง
แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขหรือคุ้มครองใด ๆ 
 
มีคนวิเคราะห์ว่า เพราะ เราเป็นคนแรกที่ทำประกัน ประเภทใหม่ (ออกแผนใหม่)
บ.ไทยฯ คำนวนไม่ดี เพราะเบี้ยต่ำ ความคุ้มครองสูง 
จึงทำให้พยายามรีเจค เคสเรา คะ -- แบบนี้ได้เหรอ
ต้องย้ำนะคะ ว่าเคสเรา อนุมัติแล้ว แต่พอไปใช่บริการ เคลม กลับขอมายกเลิกคะ 
 
ช่วงก่อนเราก็ลืม ๆ พอดี คุณแม่บอกให้ทำเอกสารยกเลิกกรมธรรม์ฉบับนี้ 
เพราะจะถึง การต่อสัญญาปีที่ 2 คะ เราเลยนึกได้ แล้วมาปรึกษาเพื่อน ๆ 
ตรงนี้ เราแจ้งความเอาผิด บ.ไทยฯ ได้ไหมคะ เพราะเราบริสุทธิ์ ไม่เคยได้เข้ารักษา หรือ รับยาใด ๆ เพราะ 3 โรคที่ให้ร้ายสามีเรา คือ โรคควบคุมใกล้ชิด ต้องมีการดูแลต่อเนื่อง และรับยาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ตลอดระยะเวลา เกือบ 10 ปี เราไม่เคยเข้ารับการรักษาใด ๆ เลยคะ แบบนี้จะถือว่า สามีเราเป็นเหรอคะ 
เราแปลกใจสุด ๆ กับคนดูแลสุขภาพ แบบเรากับสามี ตรวจสุขภาพทุกปี แค่เช็คอับ ถือว่าเราเป็นแล้วเหรอคะ งั้นถ้าเราไปตรวจมะเร็งเต้านม จะคิดว่าเราเป็นไหม ตรรกะ บ.ไทยฯ ที่ไม่ต้องการดูแลผู้ทำประกัน 

กรณีนี้ เราจะเอาผิด บ.ไทยฯ ถึงที่สุดคะ 
เพราะ เราถือเป็นการให้ร้าย และทำให้เราเสื่อมเสีย 
เพื่อนๆ ช่วยแนะนำว่า เราควรเริ่มต้นทำอย่างไรดีคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่