สวัสดีค่ะทุกคน

ช่วงนี้เอาข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดนาราของประเทศญี่ปุ่นมาฝากตลอดเลย 

แต่ในครั้งนี้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดนาราที่จะนำมาฝากกันเป็นครั้งสุดท้ายในตอนนี้ค่ะ

บทความในครั้งนี้คือ “บริเวณโยชิโนะและโอคุยามาโตะ” ค่ะ

พื้นที่ป่าและภูเขาที่แผ่กว้างไปทางตอนใต้ของจังหวัดนารา พื้นที่ที่เป็นเหมือนกับอีกโลก 

ได้รับความเคารพและเป็นที่เกรงกลัวในฐานะของสถานที่ของการเคารพบูชามาตั้งแต่สมัยโบราณ 

เต็มไปด้วยสีเขียวขจี พื้นที่ที่ว่านั่นก็คือโยชิโนะและโอคุยามาโตะค่ะ

 

พื้นที่ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติแห่งนี้ จะมีสถานที่แบบไหนบ้าง เราไปชมกันเลยค่ะ!

■โยชิโนะ (Yoshino)

 

สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิชูเก็นโดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปี สิ่งที่อยู่ในบริเวณใจกลางก็คือวัดคินปุเซ็นจิ 

ซูชิห่อใบลูกพลับและคูซูคิริที่รู้จักกันในฐานะของขึ้นชื่อของนารา ก็เป็นสินค้าที่ผลิตในโยชิโนะเช่นกัน

ภูเขาโยชิโนะที่ได้รับการชื่นชมว่าเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น 

เพราะว่าสามารถมองเห็นซากุระพันต้นได้ในการมองเพียงหนึ่งครั้ง จึงถูกเรียกว่า “ซากุระพันต้นแห่งโยชิโนะ” 

จากเชิงเขาไล่ขึ้นมา จะแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ส่วน 

พันต้นด้านล่าง (下千本) พันต้นตรงกลาง (中千本) พันต้นด้านบน (上千本) และพันต้นด้านใน (奥千本) 

ทัศนียภาพของสีสันอันสวยงามของดอกซากุระเหล่านั้น ให้ความรู้สึกที่ลึกลับมากเลยค่ะ 

ในฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นสีแดงชมพู ในฤดูหนาวหิมะจะกองทับกันเป็นสีเงินขาว ทัศนียภาพจะเปลี่ยนแปลงไปและดึงดูดผู้มาเยี่ยมชม

.

.

วัดคินปุเซ็นจิถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่ได้รับกล่าวขานว่าเป็นผู้ก่อตั้งชูเก็นโดเมื่อราว 1,300 ปีก่อน 

วิหารหลักอย่างวิหารซะโอโด เป็นสถาปัตยกรรมไม้เก่าแก่ซึ่งมีขนาดใหญ่รองลงมาจากวิหารไดบุทสึเด็นของวัดโทไดจิ 

เทพเจ้าหลักคือองค์เทพ  Zao Gongen อันทรงพลัง 3 องค์ 

พระพุทธรูปที่แสดงออกถึงความโกรธทั้ง 3 องค์นั้น ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตผู้คนเท่านั้น 

แต่ยังรวบรวมพลังเพื่อที่จะพังทลายความชั่วร้ายกระจายทั่วทั้งโลก ความช่วยเหลือนั้นครอบคลุมตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน แล้วก็อนาคต

***ปัจจุบันนี้ประตูนิโอซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในฐานะมรดกประจำชาติยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม 

.

.

เท็นคาวะมุระที่มีโดโระกาวะออนเซ็น อยู่ที่ต้นทางของเส้นทางแสงบุญตามแนวสันเขาของภูเขาโอมิเนะ

บรรยากาศเก่าๆ ที่ชวนให้คิดถึงราวกับเป็นโลกแห่งเทพนิยาย 

หุบเขาที่เรียงรายไปด้วยสีเขียวและน้ำใสแจ๋ว 

เรียกว่าเป็นขุมทรัพย์ธรรมชาติที่แน่นหนาและอุดมสมบูรณ์มากๆ เลยค่ะ

 .

.

น้ำชื่อดังที่รวมแร่ธาตุที่ผุดขึ้นมาจากชั้นหินปูนของเท็นกาวะมุระในอุณหภูมิที่พอเหมาะก็คือ “โกโระโกโระมิสึ”

น้ำแร่ชั้นดีที่ได้รับเลือกให้อยู่ใน 100 อันดับน้ำที่มีชื่อเสียงด้วยคุณภาพน้ำตามธรรมชาติ 

สามารถช่วยรักษาได้ทุกโรค จึงถูกเรียกว่าเป็น “น้ำแห่งเทพเจ้า” มาตั้งแต่สมัยโบราณ

.

.

เป็นหุบเขาที่ชื่อเสียงเลื่องลือในฐานะของจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อ 

น้ำตกขนาดใหญ่เล็กต่างๆ และก้อนหินก้อนโตที่เรียงรายตามธรรมชาติเป็นสิ่งที่อัศจรรย์ 

ถนนเดินเล่นที่ยาวกว่า 7.4 กิโลเมตรจากเท็นคาวะ คาวะอิ (Tenkawa Kawai) จนถึงโดโระกาวะออนเซ็น (Dorogawa Onsen) นั้นได้รับการบำรุงดูแล เพราะฉะนั้นการเดินเล่นไปพร้อมกับชมลำธารสีเขียวมรกตไปด้วย เป็นอะไรที่สุดยอดเลยล่ะค่ะ

.

.

สะพานแขวนแห่งทานิเสะถูกสร้างขึ้นในปี 1954 มีความยาว 297 เมตรและความสูง 54 เมตร 

เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นที่ใช้สำหรับการดำรงชีวิต ในระหว่างที่ชมภูเขาต่างๆ ที่เลียบไปกับหุบเขาและแม่น้ำใต้สะพาน 

เพื่อนๆ จะได้ลิ้มรสของความตื่นเต้นหวาดเสียวราวกับว่ากำลังเดินอยู่กลางท้องฟ้าเลยล่ะค่ะ 

และติดกันในบริเวณใกล้ๆ ก็มีพื้นที่สำหรับตั้งแคมป์และร้านขายของที่ระลึก

.

.

ถ้ำหินปูนโกโยมัตสึถูกค้นพบเมื่อปี 1929 เนื่องจากอยู่บนทางลาดของภูเขา 

จึงจำเป็นต้องนั่งยานพาหนะของที่นั่นเพื่อขึ้นไปยังที่ทางเข้า 

เป็นพื้นที่อันแสนลึกลับซึ่งสามารถพูดได้ว่าเป็นงานศิลปะที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือของธรรมชาติ 

เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยและรวมถึงเสาหินความสูง 8 เมตรที่ถูกตั้งชื่อว่า “เสาไดโคกาเนะ”(大黄金柱)

ตอนต่อไป เราจะพาชมออนเซ็นย่านโยชิโนะและโอคุยามะ รวมถึงรถไฟขบวนพิเศษให้บริการพานักท่องเที่ยวสู่โยชิโนะค่า 

ใครพร้อมแล้ววาร์ปไปกันเลย ☺