ข้อมูลคราวๆนะคะ
จองคอนโดไว้ ซึ่งจ่ายดาวน์ครบแล้ว
มีการเข้าตรวจห้อง 1 ครั้ง มี defect ใหญ่ๆ 3 จุด
คือช่องปลั๊กไฟ ไม่มีสายดิน พื้นห้องน้ำองศาไม่ดีมีน้ำขัง ทั้งโซนอาบน้ำ และชักโครก
ก่อนหน้ามีการเร่งให้เข้าตรวจ ทั้งที่โครงการยังไม่เสร็จ จึงได้มีการร้องเรียนไปที่ สคบ. อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย มีเข้าไปไกล่เกลี่ยกับตัวแทนบริษัท (เดาว่าป็นฝ่ายกฎหมาย)
ก็มีการสอบถามไปถึงประตูริมระเบียง (เป็นประตูกระจก)โซนห้องครัว และประตูกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัว (ประตูกระจกเลื่อนได้) ก็สอบถามไปว่าในสัญญา ไม่มีระบุว่ากระจกทำจากวัสดุอะไร เพราะในสัญญาไม่ได้ระบุ เห็นในสัญญาระบุว่าหน้าต่างกระจกเป็น Temper Glass
ทางตัวแทนบริษัทก็ตอบไม่ค่อยดีค่ะ
บอกว่าถ้าไม่ระบุก็คือกระจกธรรมดา และบอกว่าลูกค้ายอมเซ็นสัญญาไปแล้ว แสดงว่าอ่านแล้ว
และบอกว่าลูกค้ามองอยากให้สัญญามีข้อมูล 120% ทั้งที่สัญญามีข้อมูล 100% แล้ว และบอกว่าประตูไม่ใช่ข้อมูลที่สำคัญค่ะ

ตอนนั้นเลยตอบกลับไปว่า ไม่ได้มองที่ 120% นะคะ มองที่ 100% เพราะประตูระเบียง เป็นส่วนความปลอดภัยจากภายนอก ตรงระเบียง และมีความสำคัญ ในสัญญาต่างหากที่ระบุไม่ครบ 100% แล้วประตูสำคัญน้อยกว่า วัสดุราวแขวนผ้าในห้องน้ำเหรอค่ะ

ตอนนี้จึงไม่อยากได้ห้องแล้วค่ะ ทั้งบริการที่ไม่ประทับในตอนตรวจห้อง ตัวแทนบริษัทที่มาไกล่เกลี่ย และ process การก่อสร้างที่ดูเร่งรัด

ข้อมูลเพิ่มคือ หลังตรวจห้องครั้งแรก ก่อนไปพบ สคบ. คือ 1 เดือน ไม่มีการให้ไปตรวจการแก้ไข defect นะคะ และวันที่พบ ทาง สคบ.ก็สอบถามทางบริษัทให้เข้าตรวจได้มั้ย ทางบริษัทแจ้งว่าเสร็จแล้ว แต่ไม่ให้เข้าตรวจ เพราะมี defect ที่เจอแต่ระบุไม่ครบในเอกสารรอบแรก 1 รายการ และที่เจอแต่ทางเรายังไม่ได้ให้แก้ในวันนั้นอีก 1 รายการค่ะ
(รายการที่ไม่ได้ให้แก้วันนั้นคือมี defect ผนังห้องน้ำที่ปูมีเสมอ มีช่องในแมลงสามารถทำรังได้ แต่พนักงานวันนั้นแจ้งว่า ถ้าแก้อาจจะเจอ defect อื่นเพิ่มเติม จากการรื้อส่วนนี้ แต่พอมาเล่าให้ที่บ้านทราบ ที่บ้านบอกให้แก้ค่ะ เพราะมันคือหน้าที่โครงการที่ต้องแก้ ไม่ใช่อ้างแบบนี้ค่ะ)

ห้องราคา 4 ล้านบาท แต่บริการแบบนี้ไม่ค่อยโอเคค่ะ

จึงขอปรึกษาค่ะ ทางกฎหมายจะทำยังไงที่จะเรียกร้องของเงินคือทั้งหมด ทั้งเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ได้มั้ยค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ