บันทึกการเดินทาง 3 วัน 2 คืน จันทบุรี - ระยอง (25 - 27 กรกฎาคม 2563)

[CR] บันทึกการเดินทาง 3 วัน 2 คืน จันทบุรี - ระยอง (25 - 27 กรกฎาคม 2563)

กระทู้รีวิว

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ บันทึกนักเดินทาง โฮมสเตย์ ร้านอาหาร

บันทึกการเดินทาง 3 วัน 2 คืน จันทบุรี - ระยอง ครบทั้งน้ำตก และทะเล

แผนการเดินทาง
Day 1 : บ้านอิงธาร โฮมสเตย์ จันทบุรี
Day 2 : บ้านชานสมุทร โฮมสเตย์ ปากน้ำประแสร์ ระยอง
ค่าใช้จ่าย 6,200 บาท (2 คน) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
- บ้านอิงธาร โฮมสเตย์ จันทบุรี ห้องพัก พร้อมอาหาร 2 มื้อ (มื้อเย็น อาหารท้องถิ่นจัดเป็นเซ็ท, มื้อเช้ากาแฟ ขนม ข้าวต้ม) 2,500 บาท
- บ้านชานสมุทร โฮมสเตย์ ปากน้ำประแสร์ ระยอง ห้องพัก พร้อมมื้อเช้า (กาแฟ ขนม และข้าวต้มทะเล) 1,400 บาท
- ค่าน้ำมัน 750 บาท (บางปะกง-จันทบุรี-ระยอง)
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 1,500 บาทโดยประมาณ

Day 1 : ล้อหมุนประมาณ 6.30 น. จากบางปะกงมุ่งหน้าสู่จันทบุรี
ปลายทางคือที่พักบ้านอิงธาร โฮมสเตย์ จันทบุรี
การเดินทางครั้งนี้วางแผนล่วงหน้าไว้แค่ที่พัก ส่วนระหว่างทางนั้นก็ปล่อยให้โชคชะตานำพาไปเจอ
เราขับรถไปเรื่อยๆ ถึงบริเวณที่พักประมาณเกือบๆ เที่ยง แต่เนื่องจากที่พักให้เข้าพักได้ตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป
เราเลยขับรถไปหาที่เที่ยวบริเวณที่พัก ก็ไปพบกับน้ำตกอ่างเบง

น้ำตกอ่างเบง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ในบริเวณตำบลฉมัน อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เลยจากวัดบ้านทุ่งเพลไปจนสุดถนนลาดยาง

ยังไม่เป็นรู้จักมากนัก เพราะยังไม่ได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล และยังไม่มีร้านค้า

จากการหาข้อมูลพบว่าน้ำตกอ่างเบง มีทั้งหมด 3 ชั้น แต่เราไปเพียงแค่ชั้นแรก เนื่องจากไม่รู้ทางขึ้น ประกอบกับป่าที่นี่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้อาจหลงทางได้ง่าย

***ไม่แนะนำให้ไปคนเดียว หรือไปเป็นคู่ เนื่องจากบริเวณน้ำตกมีคนเข้าไปน้อย ทำให้ค่อนข้างเปลี่ยวค่ะ

เราแวะชมน้ำตกเพียงชั่วครู่ แล้วก็กลับออกมาเข้าที่พัก

เราพักที่บ้านอิงธาร โฮมสเตย์ จันทบุรี ที่นี่ให้บริการห้องพัก พร้อมอาหาร 2 มื้อ และเนื่องจากยังอยู่ในช่วงควบคุมโรคระบาด COVID-19

ทางที่พักจึงอนุญาติให้เข้าพักได้ห้องละ 2 ท่าน และรับนักท่องเที่ยวคืนละ 7 ห้อง (หรือ 7 คู่) เท่านั้น ทำให้ไม่แออัด และค่อนข้างเป็นส่วนตัว

ห้องพักมีห้องน้ำในตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งโทรทัศน์, ตู้เย็น, เครื่องปรับอากาศ ที่สำคัญคือภายในห้องพักสะอาดมาก

บริเวณที่พักร่มรื่น ใกล้ลำธาร สามารถลงเล่นน้ำได้ ที่ชอบมากคือน้ำใส และปลาเยอะมาก

ใครแวะไปพัก แนะนำว่านำขนมปังติดไม้ติดมือไปฝากน้องปลาด้วยนะคะ เอาเท้าจุ่มน้ำ ให้อาหารปลาเพลินๆ

สำหรับมื้อเย็น ทางที่พักให้บริการเป็นชุด สำหรับ 2 ท่าน เป็นอาหารพื้นบ้าน มาครบทั้งแกงจืด, น้ำพริก, หมูชะมวง, ผัดไก่ใส่กระวาน, ผัดไทยเส้นจันท์, ขนมไทย (วันที่เราไปเป็นขนมฟักทอง) และผลไม้ กินลืมน้ำหนักกันไปเลย
***อาหารอร่อยทุกอย่าง ข้าวหอมมะลินุ่มนิ่ม ขนมอร่อย ผลไม้รสดี ที่สำคัญพี่เจ้าของใจดีมากๆ ให้เติมได้ทุกอย่างเลยค่ะ

สำหรับมื้อเช้ามีกาแฟ ขนมไทย ปาท่องโก๋ ขนมปัง แบบบุฟเฟ่ต์ให้รองท้องกันก่อน

ส่วนอาหารหลักเสริฟมาเป็นข้าวต้มกุ้ง

หลังจากกินมื้อเช้ากันไป ก็ต้องบอกลาบ้านอิงธาร กับเสียงน้ำตก (เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่ๆ)

เช้าวันที่สอง ปากน้ำประแสร์คือปลายทาง แต่ระหว่างทางนั้น เราแวะเที่ยวไปเรื่อย

เราแวะทำบุญที่วัดเขาบรรจบ ภายในพระอุโบสถสวยงาม ภายในบริเวณวัดร่มรื่น High light คือต้นไม้ใหญ่ ที่มีช่องคล้ายประตู ให้คนเดินลอดผ่านได้

อีกหนึ่ง High light สำคัญ ก็คือบริเวณด้านข้างพระอุโบสถ จะมีสะพานไม้แขวนข้ามลำน้ำบรรจบให้ได้ถ่ายรูปสวย ๆ กันด้วย

อีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมืองจันทบุรี คือ โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล และชุมชนริมน้ำจันทบูร

วันที่ไปนักท่องเที่ยวบางตา รวมถึงร้านค้ายังมีหลายร้านที่ไม่เปิดให้บริการ แต่แดดแรงมาก เดินถ่ายรูปเล่นอยู่ไม่นานก็ออกเดินทางต่อ

ระหว่างทางผ่านไปเจอประตูระบายน้ำปากคลองภักดีรำไพ สีท้องฟ้าใส และสวยมาก จนต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ก่อนเข้าที่พักเราแวะกินมื้อเที่ยงที่ร้าน ส.ตำนานลาบ สายแซ่บควรมาลอง รสชาติจัดจ้าน ราคาไม่แพง (ส่วนตัวเราชอบไก่ย่างสุด เนื้อนุ่ม หนังกรอบ)

เราสั่งอาหาร 4 อย่าง ข้าวเหนียว 2 ที่ น้ำแข็ง น้ำเปล่า ค่าเสียหาย 250 บาท

คืนที่สอง เราพักที่บ้านชานสมุทร ปากน้ำประแสร์ ห้องพักเป็นแบบมีห้องน้ำในตัว

เครื่องอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก มีโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น แต่ไม่มีตู้เย็นภายในห้อง มีตู้เย็นรวมด้านนอกค่ะ

ที่พักมีที่จอดรถให้บริการ ด้านหน้าติดถนน ส่วนด้านหลังติดแม่น้ำประแสร์ บรรยากาศตามภาพ

นั่งชมวิว รับลม ดูปลาเสือตอพ่นน้ำ เพลินจนลืมเวลากันไปเลย

ที่พักอยู่ใกล้กับตลาดบ้านเก่าริมน้ำประแส ด้านในตลาดมีร้านค้า ขายอาหาร ของกินเล่น

มีร้านคาเฟ่ "มาหาสมุทร" จำหน่ายเครื่องดื่ม ขนม และยังให้บริการที่พักอีกด้วย ด้านหลังติดริมน้ำ บรรยากาศคล้ายกันกับบ้านชานสมุทร

เนื่องจากที่พักวันนี้ ไม่มีบริการอาหารมื้อเย็น เราจึงเดินไปฝากท้องกันที่ ร้านเจ๊หน่องแซ่บเวอร์ ร้านอาหารริมน้ำประแสร์

(อยู่ภายในตลาดเก่าริมน้ำประแสร์) ทางร้านจำหน่ายอาหารทะเล แบบอาหารจานเดียวก็มี ร้านเปิด 10 โมง ปิด 2 ทุ่ม

ถ้าใครไม่อยากพลาดมื้อเย็นวิวพระอาทิตย์ตกริมน้ำประแสร์ แนะนำว่าให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้า

เพราะลูกค้าเยอะมาก โต๊ะมีจำนวนจำกัด เต็มแล้วปิดรับ อดกินจ้า

เราสั่ง ข้าวผัดปู, กุ้งทอดราดซอสมะขาม, หมึกผัดน้ำดำ และต้มยำเคยสด วัตถุดิบสดทุกจาน ปริมาณเยอะ รสชาติจัดจ้าน ค่าเสียหาย 520 บาท อิ่มจนจุก

ในส่วนของมื้อเช้าที่บ้านชานสมุทร นอกจากกาแฟ ขนมปัง ปาท่องโก๋ ที่บริการแบบบุฟเฟ่ต์ให้ได้รองท้องกัน

ยังมีจานหลัก เป็นข้าวต้มทะเล ที่ยกทะเลมาจริงๆ ทั้งกุ้ง ปลาหมึก ปลากะพงลวก ข้าวต้มที่ต้มจริงๆ ไม่ใช่ข้าวสวยใส่น้ำร้อน อิ่ม อร่อย ประทับใจ

ระหว่างทางกลับบ้าน จากปากน้ำประแสร์ ระยอง ถึงบางปะกง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะอ้อยอิ่งอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์สุนทรภู่, หาดสวนสน, หาดแม่รำพึง, หาดพลา ฯลฯ